เมื่อครู่ซูจื่ออวี๋ยังรู้สึกว่าตัวเองฉลาด ทว่าตอนนี้กลับรู้สึกว่าตัวเองโง่มาก
จวินมู่เหนียนเห็นซูจื่ออวี๋กังวล จึงยื่นมือไปจับมือของนางเอาไว้ พร้อมเอ่ยเสียงอ่อนโยน
“ไม่เป็นไร”
ซูจื่ออวี๋หันมองจวินมู่เหนียน แล้วเม้มปากบอกว่า
“นี่...นี่จะทำให้ผางอิงเกลียดท่านอ๋องหรือไม่?”
จวินมู่เหนียนจูงซูจื่ออวี๋ไปที่เตียง พลางบอกว่า
“ข้าไม่กลัวเขา”
ซูจื่ออวี๋เอ่ยอย่างสงสัย
“เมื่อครู่ท่านอ๋องยังพูดเหมือนอันตรายมาก เหตุใดตอนนี้จึงบอกว่าไม่กลัวเขา?”
จวินมู่เหนียนหัวเราะเสียงเบา
“อวี๋เอ๋อร์ ไม่ว่าเรื่องใดล้วนมองเพียงภายนอกไม่ได้ ไม่ว่าการกระทำใด ล้วนมองแค่แผนการหนึ่งไม่ได้ เจ้าลืมไปแล้วหรือ หันหรูเฟิงออกจากเมืองหลวงล่วงหน้ามาก่อน”
ซูจื่ออวี๋ชะงักไปเล็กน้อย ผ่านไปสักครู่จึงเอ่ยอย่างประหลาดใจ
“หันหรูเฟิงอยู่ภายในค่ายแล้วหรือ?”
จวินมู่เหนียนเอ่ยเสียงต่ำ
“ชู่ว์ นี่คือความลับ หากผางอิงมีความเคลื่อนไหวใด หันหรูเฟิงจะเอาชีวิตเขาตั้งแต่วินาทีแรก อยากจะสั่งการทัพใหญ่แสนนาย เขาก็ต้องเอาชีวิตให้อยู่รอดก่อน”
ซูจื่ออวี๋หันมองจวินมู่เหนียนอย่างยากที่จะเชื่อ ผ่านไปสักครู่จึงส่ายหน้า
“ท่านอ๋อง...ท่านนี่มัน...ท่านนี่มันจิ้งจอกเฒ่าชัดๆ หากเป็นศัตรูกับท่าน ชาตินี้คงไม่มีวันได้อยู่อย่างสงบสุข”
จวินมู่เหนียนยักคิ้ว
“อืม...ข้าถือว่าเจ้ากำลังเอ่ยชมก็แล้วกัน”
ซูจื่ออวี๋หัวเราะ แล้วถลึงตาใส่จวินมู่เหนียน
“ทั้งที่ท่านอ๋องวางแผนทุกอย่างไว้หมดแล้ว แต่ยังจงใจหลอกให้ข้ากลัว ช่างร้ายกาจนัก!”
จู่ๆจวินมู่เหนียนผลักซูจื่ออวี๋ให้นอนลงบนเตียง จากนั้นคร่อมนางเอาไว้ แล้วแสร้งเอ่ยอย่างจนใจ
“เฮ้อ ใครใช้ให้ข้าแต่งกับพระชายาที่มีความสามารถทุกด้าน แต่สมองไม่มีไหวพริบกันเล่า จึงต้องคิดหาทางหนีทีไล่ให้นางเอาไว้ตลอดเวลา”
ซูจื่ออวี๋เม้มปากอย่างเขินอาย พร้อมทั้งเบือนหน้าไม่มองจวินมู่เหนียน แต่จวินมู่เหนียนกลับโน้มตัวลงไปอย่างอรมณ์ดี พร้อมทั้งก้มลงหอมแก้มของนาง
ตอนที่หันหรูเฟิงเข้ามา จวินมู่เหนียนได้นั่งอยู่บนรถเข็นแล้ว ส่วนซูจื่ออวี๋นั่งอยู่ข้างโต๊ะน้ำชา การที่ทั้งสองคนจงใจรักษาระยะห่าง กลับทำให้หันหรูเฟิงแอบยิ้มอย่างชั่วร้ายไม่ได้
เมื่อซูจื่ออวี๋เห็นหันหรูเฟิงในชุดพลทหาร จึงเอ่ยอย่างสงสัย
“คุณชายหัน ภายในเวลาสั้นๆแค่ไม่กี่วันท่านก็แทรกซึมเข้าสู่ค่ายได้แล้วหรือ? ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นหรือ?”
หันหรูเฟิงเอ่ยปาก
“เรื่องนี้ไม่ยาก มีเงินทำให้ผีเข็นโม่หินได้ พอข้ามีเงิน สามารถทำให้โม่หินเข็นผีได้”
มุมปากซูจื่ออวี๋กระตุก แล้วหัวเราะแห้งสองที
“คุณชายหันช่าง...ร่ำรวยเสียจริง!”
หันหรูเฟิงหัวเราะเสียงดัง ท่าทางเหมือนอารมณ์ดีมาก
จวินมู่เหนียนกลับกลอกตาใส่เขา
“อย่าเฉไฉ มีเรื่องใดรีบว่ามา”
หันหรูเฟิงรู้ว่าจวินมู่เหนียนไม่ชอบให้รบกวนในเวลาส่วนตัว จึงรีบเอ่ยปาก
“ศิษย์พี่รอง ข้าไปสืบมาจนแน่ชัดแล้ว ไม้เทียนเจ๋อต้นนั้นอยู่ด้านตะวันตกของยอดเขาหลิงอวิ๋น พวกท่านต้องข้ามเขาลูกนี้ไปถึงจะพบต้นไม้ต้นนั้น ไปกลับคงต้องใช้เวลาสักสองสามวัน เช่นนี้ดีหรือไม่ พวกท่านเที่ยวอยู่ที่นี่ ข้าจะเป็นคนไปเก็บมาเอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
เรื่องนี้ไม่อัพเพิ่มแล้วหรอคะ...
ต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้นแน่ๆ...
นางเอกทนงตนเกินไปว่าตัวเองเก่งทำให้ไม่ระแวดระวังและไม่ยอมให้มีคนคุ้มกัน...
สนุกมากๆเลยค่ะ รอ admin นะคะ...
ไม่ลงตอนใหม่แล้วเหรอคะ...
สนุกค่ะ รออัพเดทนะคะ...
ตอนที่241 รอบอัพอยู่ค่ะ 242 มาตอนไหนค่ะ...
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...