หนึ่งชั่วยามต่อมา ทุกคนก็พร้อมที่จะออกเดินทาง ผางอิงก็เข้ามาพบเขาด้วยสีหน้าเป็นกังวล
ผางอิงกล่าวว่า “เรียนฝ่าบาท เมื่อคืนฝนตกหนักมาก และวันนี้เส้นทางบนภูเขาเต็มไปด้วยโคลนเดินทางลำบาก ฝ่าบาทรองไม่ทรงรอจนกว่าเส้นทางแห้งสนิทก่อนแล้วค่อยออกเดินทางหรือขอรับ?”
จวินมู่หลานพูดอย่างไม่ร้อนใจ “ไม่จำเป็น เทศกาลไหว้พระจันทร์กำลังจะมาถึงแล้ว และที่เมืองหลวงยังมีเรื่องมากมายที่ต้องจัดการ”
สาเหตุหลักมาจากสภาพแวดล้อมในค่ายย่ำแย่จนเขาไม่สามารถทนต่อความร้อนและความชื้นในกระโจมได้
และวัตถุประสงค์ของการเดินทางของเขานั้นไม่สำเร็จลุล่วง เขาจึงไม่จำเป็นต้องเสียเวลาที่นี่อีก
องค์หญิงสิบเอ็ดทั้งร้องไห้ สร้างปัญหาและจะแขวนคอตาย นางไม่เต็มใจที่จะหมั้นหมายกับ ฉินฝานรั่ว จวินมู่หลานและจวินมู่ฉงเองไม่มีทางเลือกนอกจากต้องล้มเลิกความคิดและหาทางออกอื่น
สาเหตุหลักที่พวกเขายอมแพ้ต่อฉินฝานรั่ว มันเป็นเพราะท่าทีของผางอิงที่มีต่อฉินฝานรั่ว
จวินมู่หลานและพี่น้องคิดว่าผางอิงแค่ต้องการดูแลค่ายจูเชว่เท่านั้น ฉินฝานรั่วผู้นั้นจะตายไม่ดีอย่างไรก็เป็นแค่เรื่องเวลาช้าเร็วเท่านั้น
ฉินฝานรั่วและโง่เขลาและจัดการกองทัพไม่ได้เรื่อง คนเช่นนี้ไร้ค่าในการใช้งานอย่างเห็นได้ชัด
จวินมู่หลานอารมณ์เสียเล็กน้อย เขาแทบรอไม่ไหวที่จะกลับเมืองหลวงแล้วส่งองค์หญิงสิบเอ็ดกลับไปที่วังหลวงเพื่อซ่อนนางเอาไว้ อย่างน้อยนางก็คงไม่เป็นเหมือนตอนนี้ที่จะให้ฉู่อวิ๋นหยางหาข้ออ้างเข้าใกล้นาง
เมื่อเห็นท่าทางเด็ดขาดของจวินมู่หลาน ผางอิงจึงพูดว่า “ระหว่างทางนั้นเดินทางไม่สะดวกนัก ข้าจะส่งกองทหารไปคุ้มกันท่านอ๋องไปที่ตำบลลั่วเสีย”
จวินมู่หลานคิดอยู่พักหนึ่งและไม่ได้ปฏิเสธ เขาพยักหน้าตอบ
หลังจากที่ทุกคนทยอยขึ้นรถม้าไปจนหมด ซูจื่ออวี๋ก็เปิดม่านแล้วมองกลับไปกลับมา
เมื่อเห็นท่าทางกังวลของนาง จวินมู่เหนียนจึงกล่าวว่า “ข้าได้ส่งข่าวกลับไปที่กรมยุทธนาการแล้ว และคำสั่งจะถูกส่งไปยังค่ายจูเชว่ไม่เกินครึ่งเดือน ถึงเวลานั้นฉินฝานรั่วสามารถรับหลี่ชุนซิ่งและน้องชายของนางเดินทางไปยังมั่วเป่ยได้”
จวินมู่เหนียนมองซูจื่ออวี๋แล้วถามว่า “เจ้าต้องการจัดการอย่างไร?”
ซูจื่ออวี๋ขมวดคิ้วด้วยความลำบากใจและพูดว่า: “เดิมทีข้าไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของคนอื่นนัก แต่เราจับได้ว่าฉู่อวิ๋นหยางและหนานหยวนหรัวมีสัมพันธ์กันในถ้ำ พวกเขาทั้งคู่คงเดาได้ว่าแน่นอนว่าโดนยานอนหลับของข้า ข้ากังวลว่าพวกเขาจะลงมือกับข้า”
จวินมู่เหนียนขมวดคิ้วและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็กำจัดพวกเขา”
ซูจื่ออวี๋กล่าวว่า “คนหนึ่งคือองค์รัชทายาทแห่งแคว้นเป๋ยฉู่ และอีกคนคือองค์หญิงแห่งหนานเจียง ไม่ว่าใครก็ตามที่เสียชีวิตในตงโจวต่างสร้างปัญหาทั้งสิ้น และ…”
จวินมู่เหนียนมองไปที่ซูจื่ออวี๋ก่อนจะถามว่า “และอันใด?”
ซูจื่ออวี๋ถอนหายใจและพูดว่า “และนอกจากนี้ท่านอ๋องเดินเหินไม่สะดวก หากเกิดสงคราม ท่านอ๋องสิบอาจขึ้นเป็นผู้นำกองทัพ นี่ไม่เป็นการมอบชุดแต่งงานให้คนหรือ? ไม่ว่าเรื่องฝูงหมาป่าที่ล้อมในพื้นที่ล่าสัตว์จะเกี่ยวข้องกับจวงเสียนเฟยและท่านอ๋องสิบหรือไม่ก็ตาม พวกเราระวังไว้จะดีกว่า”
ดวงตาของจวินมู่เหนียนเป็นประกาย เขาพูดซ้ำว่า “พวกเราหรือ?” ดูเหมือนซูจื่ออวี๋จะถือว่าทั้งสองคนเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว มันทำให้จวินมู่เหนียนมีความสุขเป็นอย่างมาก

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
เรื่องนี้ไม่อัพเพิ่มแล้วหรอคะ...
ต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้นแน่ๆ...
นางเอกทนงตนเกินไปว่าตัวเองเก่งทำให้ไม่ระแวดระวังและไม่ยอมให้มีคนคุ้มกัน...
สนุกมากๆเลยค่ะ รอ admin นะคะ...
ไม่ลงตอนใหม่แล้วเหรอคะ...
สนุกค่ะ รออัพเดทนะคะ...
ตอนที่241 รอบอัพอยู่ค่ะ 242 มาตอนไหนค่ะ...
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...