เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 913

หลังจากเจาะเลือดออกมาแล้ว จ้าวหลงขุยก็รีบไปตรวจสอบ หลังจากนั้นไม่นาน ภาพที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจก็ปรากฏขึ้น กระดูกเหล่านั้นสามารถดูดซับเลือดของฮ่องเต้เจาเหวินได้

นี่หมายความว่ายังไง? แสดงว่าโครงกระดูกตรงนี้ เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของฮ่องเต้เจาเหวินหมดเลยอย่างนั้นหรือ?

ทุกที่อยู่ที่นี่ต่างก็ตะลึงงัน มีแต่ซูจื่ออวี๋เท่านั้นที่รู้ว่า จริงๆ แล้ววิธีการหยดเลือดตรวจกระดูกนั้นไม่ใช่วิทยาศาสตร์

กระดูกสีขาวที่ถูกฝังอยู่ในกระถาง ถูกกัดกร่อนมาหลายปี กระดูกจะเกิดภาวะกระดูกพรุน หรือพูดอีกนัยหนึ่งเลยก็คือไม่ว่าเลือดของใครก็สามารถดูดซับได้

แต่ซูจื่ออวี๋ไม่ได้ตั้งใจจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับลั่วกุ้ยเฟย เพราะลั่วกุ้ยเฟยไม่บริสุทธิ์แน่นอน

......

หลังจากตรวจสอบโครงกระดูกแล้ว จ้าวหลงขุยก็หันไปหาฮ่องเต้และฮองเฮา “ทูลฝ่าบาท กระดูกเหล่านี้ตามขนาดของกระดูกแล้ว ด้วยระดับการกัดกร่อน รวมถึงตำแหน่งของกระดูกจึงตัดสินได้ในเบื้องต้นว่ากระดูกเหล่านี้มีทารกทั้งหมดสามคน เด็กที่ใกล้ที่สุดคือลูกของถงเหม่ยเหริน ส่วนที่ไกลที่สุดกลายเป็นหินไปแล้ว ประมาณการคร่าวๆ ก็ประมาณสิบกว่าปี”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น “ฝ่าบาท นี่ต้องเข้าใจผิดกันแน่ๆ เลยเพคะ ดอกไม้กระถางนี้เพิ่งเข้าวังมาสามปี ข้างในจะมีกระดูกอายุสิบกว่าปีได้อย่างไร ข้างในต้องมีปัญหาแน่ๆ”

ฮ่องเต้เจาเหวินกัดฟันพูดว่า “แต่เมื่อครู่เขาก็ตรวจสอบแล้ว กระดูกเหล่านี้ เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของข้าทั้งหมด”

ฮองเฮาก็ยังสงสัย “ใช่ นี่มันแปลกมาก กระดูกนี่มีอายุสิบปี แต่กระถางดอกไม้นี้เข้าวังเพียงสามปีเท่านั้น กระดูกสิบปีนี้จะฝังอยู่ในกระถางสามปีได้อย่างไร”

จวงเสียนเฟยที่สำรวมและไม่พูดอะไรมาตลอด อยู่ๆ ก็เอ่ยว่า “นอกจากว่า...จะมีคนเปลี่ยนดินในกระถาง”

ลั่วกุ้ยเฟยตาเป็นประกาย รีบพูดขึ้นมาว่า “ใช่ ใช่ น้องเสียนเฟยพูดถูก ฝ่าบาทได้โปรดตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดด้วย ต้องมีคนแอบเปลี่ยนดินดอกไม้เพื่อโยนความผิดให้กับหม่อมฉันแน่นอน”

“บังอาจ!” จวินมู่ฉยงก็อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้น กัดฟันแล้วพูดว่า “จ้าวหลงขุย เจ้าได้รับผลประโยชน์จากใคร คิดไม่ถึงว่าจะมาใส่ร้ายเสด็จแม่ของข้าต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้ เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือ?”

จ้าวหลงขุยที่ชินชาจนไร้ความเกรงกลัวก็อ้าปากพูดว่า “มือสะอาดไม่จำเป็นต้องล้าง ภายใต้สายตาของทุกคน กระหม่อมไม่กลับให้หยางเป็นหยิน ไม่กลับดำเป็นขาวแน่นอน”

“เจ้า...” ไม่รอให้จวินมู่ฉยงตำหนิจ้าวหลงขุย ฮ่องเต้เจาเหวินก็ตัดสินใจเอ่ยขึ้นมาว่า “เฮ่อหลานฉือ ไปตรวจสอบที่ตำหนักเฟิ่งอู๋”

ทหารองครักษ์เฮ่อหลานฉือจึงเอ่ยขึ้นมาทันที “พ่ะย่ะค่ะ”

จุนมู่เหนียนเห็นเช่นนั้นก็ทำสัญญาณให้เทียนชิง เทียนชิงก็เข้าไปใกล้จวินมู่เหนียน จวินมู่เหนียนกระซิบไม่กี่คำ เทียนชิงก็พยักหน้าแล้วรับคำสั่งออกไป

การกระทำของนายบ่าวคู่นี้ไม่ได้ทำให้คนอื่นตกใจ แต่ทำให้ซูจื่ออวี๋ที่กำลังมองอยู่เข้าใจความหมายของจวินมู่เหนียนได้ทันที ดูเหมือนว่าถึงเวลาผลักเรือตามน้ำแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ