จื่ออันถึงจวนในช่วงดึก ประตูใหญ่ถูกปิดอยู่ จึงไม่มีคนเข้าเวรยาม เธอจึงนั่งลงที่บันไดหินอ่อน ร่างของเธอค่อย ๆ ทรุดลง
ร่างกายของเธอไม่มีแรงสักนิด ทั้งหิว ทั้งเหนื่อย ทั้งเจ็บปวดแทบจะแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ
เธอไม่มีแม้แต่แรงจะเคาะประตู แถมยังรู้อยู่แก่ใจว่าถึงเคาะก็ไม่มีใครมาเปิดประตูให้
เธอนอนลงที่บันไดหิน แผ่นหลังสัมผัสจากความหนาวเหน็บ เธอเงยหน้ามองดวงดาวบนท้องฟ้า ดวงดาวแพรวพราวระยิบระยับ ช่างสวยงามเสียนี่กระไร
จักรวาลอันแสนกว้างใหญ่ สามารถบรรจุสิ่งต่าง ๆ ได้มหาศาล ทว่าไม่มีทางจะบรรจุชีวิตที่ต้องดิ้นรนลงไปได้เป็นแน่
“คุณหนู คุณหนูใหญ่กลับมาแล้วขอรับ อยู่ที่หน้าประตู ให้ข้าไปเปิดประตูไหมขอรับ?” ผู้เฝ้าประตูถามเบา ๆ
เซี่ยหว่านเอ๋อหัวเราะอย่างมีเลศนัย “เปิดทำไมรึ นอนตรงนั้นไปเสีย ดึกแล้ว หาได้จำเป็นไม่”
ข้ารับใช้รู้ดีว่าคุณหนูใหญ่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่แทบจะหมดหวัง ยิ่งกว่านั้นก็ไม่เคยได้รับยศถาบรรดาศักดิ์ใด ๆ มาก่อน แทบจะถือเป็นคนรับใช้ก็ว่าได้ เขาเพียงทำได้แค่ต้องมองที่ใบหน้าผู้ที่มีอำนาจกว่าเท่านั้น
“ขอรับ คุณหนูรอง” ผู้เฝ้าประตูตอบรับ
เซี่ยหว่านเอ๋อขำอย่างร้ายกาจ พูดกับสาวใช้ที่อยู่ข้าง ๆ “พวกเราไปเถอะ ให้นางนอนข้างนอกนั่นไปเสีย”
“คุณหนู ไม่กลัวว่าพรุ่งนี้จะมีผู้ใดมาเห็นนางรึ?”
“กลัวอะไร? เรื่องน่าขันวันนี้ มีผู้ใดบ้างที่ไม่รู้ มหาเสนาบดีของพวกเราสามารถทอดทิ้งคนผู้นี้ได้ แค่นางไม่ยอมไปก็เท่านั้นเอง” เซี่ยหว่านเอ๋อพูดจบก็เดินจากไป
จื่ออันนอนอยู่ที่พื้น ได้ยินเสียงแว่ว ๆ ไม่มีแรงจะโกรธหรืออับอายอีกแล้ว เธอเพียงต้องการนอนพักและหายใจ
ความแค้นนี้จะต้องเอาคืนในไม่ช้าก็เร็ว เธอยังไม่รีบ
ความกระหายนั้นรุนแรง รสชาติของความกระหายยากที่จะอดกลั้นมากกว่าความเจ็บปวด
เธออดทนเอาไว้ ในหัววางแผนต่อไป
หลังจากวันนี้เข้าวังมา ทุกอย่างเป็นไปตามคาด โรคลมชักของท่านอ๋องเหลียงได้กำเริบ ไม่จำเป็นให้นางต้องลงมือ เหมือนดั่งสวรรค์เป็นใจ ทว่าไม่ได้คาดหวังที่จะต้องแต่งงาน ใยสถานการณ์จึงกลับตาลปัตรเช่นนี้
จริง ๆ แล้ววันนี้ท่านอ๋องเหลียงไม่ใช่อาการกำเริบที่หนักหนา เป็นเพียงอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ แสดงให้เห็นว่าในอีกสองวันข้างหน้า อาการของเขาจะกำเริบอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นอาการกำเริบครั้งต่อไปนี้จะรุนแรงเป็นพิเศษ
เธอจงใจให้หมอหลวงฝังเข็ม และแจ้งให้ฮองเฮารับทราบ เพราะเธอรู้ว่าวิธีรักษาด้วยการฝังเข็มนี้ สามารถรักษาท่านอ๋องเหลียงได้ แบบนั้นเมื่อท่านอ๋องเหลียงอาการกำเริบขึ้นมาอีก ฮองเฮาจะต้องให้เธอเข้าไปในวัง
ตราบใดที่เธอมีค่าแก่ฮองเฮา ชีวิตของเธอจะถูกปกป้อง
ทว่าตอนนี้ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิได้ออกมาก่อกวนแผนการทั้งหมดของเธอ
มหาเสนาบดีต้องการฆ่าเธอ ฮองเฮาสามารถรักษาชีวิตเธอเอาไว้ได้ หากผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิจะฆ่าเธอ เธอจะรับมืออย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนบรรยากาศระหว่างฮองเฮาและผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิ ทำให้รู้สึกว่าบางทีผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดินั้นอาจจะไม่ชอบอ๋องเหลียงก็เป็นได้ หากบอกว่าเธอเป็นผู้รักษาอ๋องเหลียง ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิจะปล่อยเธอไว้หรือไม่
แผนที่วางมาตลอดหลายวัน ถูกทำลายราบเป็นหน้ากลอง
เธอรู้สึกเหนื่อยล้า ทว่ากลับไม่สามารถพังทลายมันลงได้จนวินาทีสุดท้าย
ขณะนั้นสภาพจิตใจของเธอกำลังจะอ่อนแรง ก็ได้ยินเสียงค่อย ๆ เปิดประตู จากนั้นก็มีเสียง “ครืด! ที่พื้น เธอหันหน้ามามองที่พื้นมีเพียงน้ำและหมั่นโถวสองชิ้น”
เธอเกิดความงุนงง ทันใดก็เงยหน้าขึ้น เห็นเพียงประตูปิดผนึกอย่างรวดเร็ว สามารถเห็นแค่เงาหลบของคนเฝ้าประตู
วันนี้จื่ออันหลั่งน้ำตาออกมาหลายครั้ง ไม่ว่าจะต่อหน้าแขกหรือต่อหน้าฮองเฮา น้ำตาที่ไหลออกมาล้วนมองว่าจอมปลอม และไม่ได้ส่งผลดีเท่าใด
ทว่าเห็นหมั่นโถวสองชิ้นและน้ำหนึ่งถ้วย เธอจึงขดตัวนั่งร้องไห้อย่างไม่เกรงใจ
ผู้เฝ้าประตูไม่สามารถใจทนเห็นได้ เขาใจแข็งไม่พอ เขาสามารถช่วยชีวิตได้ และเปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิตเขาได้เลย
จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้วางแผนจะทำงานที่ตระกูลนี้ต่อ เขาไร้ทางเลือกดังที่บรรพบุรษได้สั่งสอนไว้ ทำได้เพียงประจบประแจงผู้มีอำนาจเท่านั้น
เพียงแค่รอ ระยะเวลาการไถ่ตัวอีกสองปี ก็จะเป็นอิสระ
จื่ออันดื่มน้ำ และกินหมั่นโถว จากนั้นก็วางชามไว้ตรงหน้าประตู
เมื่อกินดื่มเรียบร้อย ร่างกายก็พอจะขยับเขยื้อนได้และฟื้นคืนสู่สภาพเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...