“ขอรับ เช่นนั้นข้าน้อยก็จะพูดอย่างตรงไปตรงมา” ชางชิวยืนขึ้นและมองตรงไปที่อ๋องเหลียง “ข้าน้อยรู้ว่าคราวนี้หนีไม่พ้นแน่ แต่พวกเราไม่อาจยอมปล่อยให้องค์ชายผู้สำเร็จราชการประสบความสำเร็จ ในเมื่อท่านเป้นคนนำเสนอแผนการ เมื่อเขาก่อกบฏสำเร็จและขึ้นครองราชย์เรียบร้อยแล้ว ท่านจะกลายเป็นขุนนางกบฏทันที หากประสงค์จะลบล้างความผิดของตน แน่นอนว่าต้องกล่าวหาจักรพรรดิองค์ปัจจุบันด้วยความผิดหลายประการ ทำให้ทุกคนคิดว่าท่านกำลังเรียกร้องความยุติธรรม ตั้งแต่เขาขึ้นครองราชญ์ เขาจะต้องหวาดกลัวพระโอรสองค์โตของจักรพรรดิองค์ก่อนอย่างไม่ต้องสงสัย อ๋องเหลียงคงเป็นคนแรกที่ถูกเขาโจมตี อันที่จริงท่านอ๋องควรรู้ไว้ ว่าเขาไม่มีวันปล่อยให้ผู้ที่มีอำนาจคุกคามอยู่เคียงข้าง และเมื่อถึงเวลานั้น เขาจะไม่จำเป็นต้องใช้อ๋องเหลียงอีกต่อไป เช่นนี้ยังต้องสนใจความสัมพันธ์ระหว่างอาหลานอยู่หรือ? แม้แต่ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง เขายังไม่สนใจด้วยซ้ำ”
อ๋องเหลียงกล่าวด้วยใบหน้าเย็นชา “อย่าพยายามทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับเสด็จอาเหินห่าง ข้าเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าเขาจะไม่ทำเช่นนี้แน่ เพราะเขาไม่ใช่คนแบบนั้น”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชางชิวก็หัวเราะแล้วเอ่ยต่อ “ท่านอ๋องช่างไร้เดียงสา เขาไม่ใช่คนแบบนั้น แล้วเขาเป็นคนแบบไหนกันล่ะ? คนดีที่ไหนคิดการกบฏกัน?”
“หากเขาต้องการก่อกบฏจริง เขาคงลงมือทำตั้งแต่ยังเป็นองค์ชายผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แล้ว ตอนนี้เขาต้องทำเพราะไม่มีทางเลือกอื่น”
ชางชิวเดินเข้ามาทีละก้าว น้ำเสียงของเขาเริ่มจริงจังมากขึ้นเรื่อย ๆ “แน่นอน ในเวลานั้นเขาจะไม่ก่อกบฏแน่ เพราะเขาเชื่อว่าฝ่าบาททรงประชวรอย่างหนัก และจะต้องสิ้นพระชนม์ไม่ช้าก็เร็ว มีเหตุผลใดที่เขาต้องระดมกำลังทหารเพื่อก่อกบฏแล้วถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ ทว่าสถานการณ์ตอนนี้แตกต่างออกไป ฝ่าบาททรงสบายดี เขารู้ว่าความทะเยอทะยานในตอนแรกอาจไม่สำเร็จ จึงใช้ประโยชน์จากข้อตกลงพักรบกับเป่ยโม่ นำทัพกองกลับเมืองหลวง แล้วใช้คนและอำนาจของอ๋องเหลียงในเมืองหลวงเพื่อรักษาเสถียรภาพของจิตใจประชาชน ตอนนี้ท่านอ๋องยังมีค่า ดังนั้นเขาจึงทำดีกับท่าน แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาได้รับอำนาจและขึ้นครองบัลลังก์ ถึงเวลานั้นท่านยังมีประโยชน์อะไรกับเขาอีก?”
ใบหน้าของอ๋องเหลียงดูเศร้าหมองเล็กน้อย แต่เขาก็ยังคงกล่าวอย่างหนักแน่น “นั่นเป็นเพียงการคาดเดาฝ่ายเดียวของเจ้า ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นตามนั้น”
ชางชิวยิ้ม “ท่านอ๋อง ข้าน้อยคิดว่าท่านคงเคยได้ยินชื่อข้าน้อยมาบ้าง ข้าน้อยผู้นี้ไม่มีพรสวรรค์ แต่พอมีความรู้เรื่องการทำนายดวงชะตาที่ชำนาญ หากท่านอ๋องไม่เชื่อ เช่นนั้นก็ลองดูเถิดว่าข้าน้อยทำนายได้อย่างตรงจุดหรือไม่?”
อ๋องเหลียงเงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าลองทำนายดูก็ได้ แต่ข้าไม่เชื่อเจ้า”
ชางชิวหันกลับมาด้วยรอยยิ้ม มองดูอ๋องหนานหวายที่นอนอยู่บนเตียง มุมปากของอ๋องหนานหวายยกขึ้นเล็กน้อย เป็นการเคลื่อนไหวที่ละเอียดอ่อนมาก หากไม่สังเกตให้ดี จะไม่สามารถระบุได้เลยว่าเขากำลังยิ้ม
ชางชิวเริ่มกระบวนการ หลังจากที่เขาลุกขึ้น เขาก็เริ่มนับนิ้วคำนวณอย่างรวดเร็วและพึมพำในปาก จากนั้นเมื่อรูปหกเหลี่ยมก่อตัวขึ้น เขาก็วาดมันลงบนกระดาษ เชิญอ๋องเหลียงเข้ามาดูใกล้ ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...