ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ นิยาย บท 1089

อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นภาพตรงหน้า ทุกคนก็รู้สึกว่าสงครามไม่ใช่เรื่องสำคัญ และเป่ยโม่กับต้าโจวก็ไม่ใช่ศัตรูของกันอีกต่อไป พวกนางเพียงต้องการกำจัดโรคระบาดและรักษาทุกคนให้ดีขึ้น

จื่ออันรู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก นางพยักหน้าพร้อมกล่าว “พวกเราจะพยายามอย่างเต็มที่”

โหรวเหยาพึมพำ “ตอนที่ข้าต้องทุกข์ทรมานจากโรคผีดิบ ข้าคิดว่ามันน่ากลัวเป็นที่สุด แต่ตอนนี้เมื่อเทียบกับโรคระบาดที่เกิดขึ้นแล้ว ดูเหมือนว่าโรคผีดิบจะ...”

โหรวเหยาอดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตา ในฐานะแพทย์แล้ว นางจึงมีจิตใจเมตตาต่อผู้ป่วยอย่างยิ่ง และหวังเพียงว่าสิ่งที่ตนเรียนรู้มาจะสามารถช่วยบรรเทาความทุกข์ของผู้อื่นได้

อ๋องฉีมองดูสถานการณ์ตรงหน้าด้วยใบหน้าซีดเซียว เขาส่ายหน้าเบา ๆ พลางถอนหายใจ “ไปกันเถอะ”

นี่เป็นเพียงหยดน้ำในมหาสมุทร สิ่งที่พวกเขาเจอเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ในทางข้างหน้ายังมีเหตุการณ์เช่นนี้อีกมากมาย

จื่ออันถามอ๋องฉี “ตอนนี้ผู้ป่วยโรคระบาดถูกกักกันหรือยังเจ้าคะ?”

อ๋องฉีตอบ “ตอนที่ข้าเดินทางไปที่ต้าโจว องค์จักรพรรดิทรงรับสั่งให้กักกันไว้แล้ว แต่เป็นสถานการณ์ร้ายแรงเช่นนี้ ข้าเกรงว่าจะไม่สามารถกักกันได้หมดทุกคน ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้มีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้นทุกวัน ดังนั้นเราจึงไม่มีกำลังคนเพียงพอ”

“เหตุใดถึงไม่สั่งให้ทหารถอยทัพกลับเล่า?” จื่ออันกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

“ถอยทัพ?” อ๋องฉียิ้มอย่างขมขื่น”ข้าไม่รู้ว่าจะสั่งให้ทหารถอยทัพได้อย่างไร องค์จักรพรรดิและฮองเฮาเฉาเชื่อมาตลอดว่า หากร่วมมือกับเซียนเป่ยในตอนนี้จะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการโจมตีต้าโจว”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนพลันโมโหทันใด

มู่หรงเจี๋ยกล่าวอย่างเย็นชา “อ๋องฉี ในตอนที่ท่านพูดถึงเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าท่านกำลังปกปิดเรื่องมากมายจากข้า”

อ๋องฉีรู้ดีว่าตนเป็นฝ่ายผิดจึงกล่าว “ท่านพี่มู่หรง พวกเราค่อยคุยเรื่องนี้หลังจากเดินทางไปถึงแล้วเถิด”

ทุกคนต่างหายใจอย่างหนักหน่วงด้วยความโกรธ พวกเขาต่างควบม้าไปอย่างรวดเร็วตลอดทาง

เมื่อเข้าสู่เขตเมืองหลวงของเป่ยโม่ เวลาก็ล่วงเลยมาถึงยามอู่แล้ว

เนื่องจากพวกเขามาถึงก่อนกำหนดการ จึงไม่มีผู้ใดออกมาต้อนรับที่ประตูเมือง

อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เดินทางมาถึงชายแดนของเป่ยโม่ อ๋องฉีสั่งให้ทหารองครักษ์ของเขารีบล่วงหน้าไปรายงานแก่องค์จักรพรรดิ โดยปกติแล้วแม้จะไม่มีการต้องรับอย่างเอิกเกริก แต่องค์จักรพรรดิก็ควรจะส่งคนมาต้อนรับสักสองสามคนเพื่อแสดงถึงความจริงใจ

แต่ในความเป็นจริงกลับไม่มีผู้ใดออกมาต้อนรับเลย

ทันใดนั้นมู่หรงเจี๋ยและคนอื่น ๆ จึงตระหนักได้ว่าพวกตนถูกหลอกเสียแล้ว แม้เขาพยายามเก็บงำความไม่พอใจเอาไว้ แต่ใบหน้ากลับเขียวคล้ำอย่างเห็นได้ชัด

อ๋องฉียังคงนิ่งเงียบ เขารู้สึกผิดต่อเรื่องที่เกิดขึ้นไม่น้อย และสถานการณ์ในตอนนี้ก็ไม่สะดวกที่จะพูดคุยกันโดยละเอียด ดังนั้นเขาจึงจำต้องอดทนต่อสายตาไม่สบอารมณ์ของทุกคนอย่างเงียบ ๆ

เมื่อเดินทางมาถึงจวนอ๋องฉีแล้ว อ๋องฉีก็สั่งให้บ่าวรับใช้ปรุงอาหารและนำสุราออกมา จากนั้นเชิญผู้มาเยือนไปยังห้องโถงหลัก

มู่หรงเจี๋ยกล่าว “อ๋องฉี เหตุใดเจ้าถึงไม่บอกความจริงกับพวกเรา หากไม่อธิบายความจริงให้กระจ่าง ข้าก็ไม่อาจดื่มสุราได้ลง”

ใบหน้าของอ๋องฉีซีดเผือด เขายื่นมือออกไปข้างหน้าอย่างเงียบ ๆ ก่อนขอให้ทุกคนนั่งลง

เขาสั่งให้บ่าวรับใช้ปิดประตูแน่น จากนั้นลดเสียงลง “ท่านพี่มู่หรง ก่อนอื่นข้าอยากจะขออภัยทุกท่าน เรื่องนี้มีเงื่อนงำซ่อนอยู่จริง ๆ”

มู่หรงเจี๋ยแค่นเสียง “เจ้ายังคิดแค้นเรื่องที่ถูกข้าหลอกอยู่รึ? กรรมตามสนองเร็วเสียจริง”

แม้คำพูดเหล่านั้นจะเป็นการถากถางตนเอง ถึงกระนั้นมันก็เป็นเรื่องจริง เขาปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยใจจริง เนื่องจากดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ทั้งยังมีหน้าที่ดูแลแผ่นดินต้าโจว เขาจึงเชื่อว่าองค์จักรพรรดิจะต้องซื่อสัตย์และจริงใจต่อประชาชนเสมอ

เขาสาปแช่งตนเองจากก้นบึ้งของหัวใจ ซานอี๋เหนียงของต้าเตีย และองค์จักรพรรดิแห่งเป่ยโม่ ไอ้หลานไม่รักดีคนนี้อยากก่อสงครามเต็มทนแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์