หลังจากพูดคุยกันในห้องของหวงไท่โฮ่วได้สักพัก หวงไท่โฮ่วก็รู้สึกเหนื่อยและต้องการพักผ่อน เขาจึงขอตัวออกมาเดินเล่นอยู่ในสวนหลวงตามลำพัง
เขารู้ดีว่าสงครามในครั้งนี้จะไม่มีวันจบสิ้น
มู่หรงเจี๋ยมาที่เป่ยโม่ ตราบใดที่มีผู้บัญชาการทหารของฝ่ายศัตรูอยู่ในกำมือ เป่ยโม่ก็มีโอกาสสูงที่จะชนะ
แต่หากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบก็อาจจะตกอยู่ในความสิ้นหวัง
โรคระบาดนับวันยิ่งลุกลาม เราจะรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร? จักรพรรดิตั้งใจจะสังเวยชีวิตคนนับแสนจริงหรือ?
เขาไพล่มือไว้ด้านหลัง ไม่รู้ว่าตนควรจะทำอย่างไรดี เขาไม่สามารถแก้ปัญหาความยุ่งเหยิงเหล่านี้ได้จริง ๆ
สิ่งที่เขาหวาดกลัวที่สุดคือการทรยศต่อความไว้วางใจของผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่ออีกฝ่ายเป็นถึงผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ของราชวงศ์ต้าโจว
เมื่อพวกเขาออกมาจากตำหนักของหวงไท่โฮ่ว ก็เห็นว่าสนมชิงและนางกำนัลของนางมาเข้าเฝ้าหวงไท่โฮ่ว
“สนมชิง!” อ๋องฉีประสานมือคำนับ
สนมชิงพยักหน้าเบา ๆ “ท่านอ๋องก็มาที่นี่เพื่อเข้าเฝ้าหวงไท่โฮ่วเช่นกันหรือ?”
“ใช่แล้ว แต่หวงไท่โฮ่วตรัสว่าพระนางต้องการพักผ่อน ดังนั้นสนมชิงโปรดกลับมาใหม่ในวันอื่นเถิด” อ๋องฉีกล่าว
สนมชิงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย “ต้องการพักผ่อนอย่างนั้นหรือ? เดิมทีข้าใคร่มาบรรเลงฉินให้นางฟัง หากเป็นเช่นนี้ข้าต้องขอตัวกลับไปก่อน”
“สนมชิง โปรดเดินช้า ๆ!” อ๋องฉีกล่าว
“อ๋องฉี โปรดรอเดี๋ยว เสี่ยวหลิง เจ้าจงกลับเข้าไปที่พระราชวัง แล้วเอาโสมจำนวนหนึ่งมามอบให้กับอ๋องฉี ฝากท่านโปรดนำมันกลับไปให้ไท่เฟยด้วย” สนมชิงสั่ง
“ขอรับ!” อ๋องฉีตอบรับ
สนมชิงเหลือบมองเขา ก่อนจะหันหลังกลับและจากไป
อ่องฉีรออยู่ครู่หนึ่ง กระทั่งเห็นนางกำนัลเสี่ยวหลิงเดินมาหยุดอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับกล่องใบหนึ่ง
“นี่คือสิ่งที่ไท่เฟยเคยทูลขอจากสนมชิงเมื่อนางเข้าไปในพระราชวัง ไท่เฟยอาจรู้ว่าสนมชิงได้รับพระราชทานโสมพันปีเป็นรางวัลจากฝ่าบาท ดังนั้นนางจึงทูลขอสิ่งนี้จากสนมชิงต่อหน้าหวงไท่โฮ่ว” เสี่ยวหลิงกล่าว น้ำเสียงดูโกรธเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด
อ๋องฉีกล่าวอย่างสงบ “ฝากเจ้าแสดงความขอบคุณไปถึงสนมชิงในนามของข้าด้วย”
“ท่านอ๋องไม่จำเป็นต้องสุภาพเกินไป เพียงแต่ว่าเหนียงเหนียงของข้ามีสุขภาพอ่อนแอเป็นทุนเดิม โสมนี้เดิมทีฝ่าบาททรงตั้งใจมอบให้สนมชิงเพื่อบำรุงสุขภาพของนาง ดังนั้นคำขอบคุณก็ไม่สามารถทดแทนในสิ่งที่สนมชิงเสียไปได้” หลังจากที่เสี่ยวหลิงพูดจบ นางก็สะบัดกลับไปอีกทางอย่างเย่อหยิ่ง แล้วเดินจากไป
อ๋องฉีไม่แสดงสีหน้าใด ๆ เขาถือกล่องโสมแล้วเดินออกไปอีกทาง
หลังจากเดินไปเพียงไม่กี่ก้าว เขาก็เห็นว่าองค์รัชทายาทไล่ตามมาจากด้านหลัง “เสด็จอา ข้ากำลังจะออกจากวังอยู่พอดีเลย งั้นเราเดินไปด้วยกันเถอะ”
อ๋องฉีเหลือบมององค์รัชทายาทแล้วเอ่ยอย่างหดหู่ “ได้ ไปกันเถอะ”
ทั้งสองคนเดินเคียงกันออกไป องค์รัชทายาทมองดูกล่องในมือของอ๋องฉี แล้วกล่าวว่า “นี่ไม่ใช่โสมที่เสด็จพ่อพระราชทานให้สนมชิงหรอกหรือ? เหตุใดมันถึงมาอยู่ในมือของเสด็จอาได้เล่า?"
“สนมชิงบอกว่านางฝากข้าให้นำไปมอบแด่ไท่เฟย และบอกให้ข้านำมันกลับไปด้วย” อ๋องฉีพูดอย่างครุ่นคิด
“โอ้?” องค์รัชทายาทยิ้มลามไปถึงแววตา “ข้าได้ยินมาว่านี่คือโสมพันปี ข้าไม่เคยเห็นโสมพันปีมาก่อนเลย ไม่ทราบว่าเสด็จอาจะยินดีเปิดให้ข้าชมสักหน่อยได้หรือไม่?”
อ๋องฉีหยุดเดิน จากนั้นมองดูองค์รัชทายาท “หรือว่าข้าควรมอบมันให้ท่านดี?”
องค์รัชทายาทโบกมือซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ได้อย่างไรกัน นี่คือสิ่งที่สนมชิงมอบให้ไท่เฟย ข้าจะกล้าร้องขอมันได้อย่างไร? ข้าเพียงขอดูเพื่อให้เห็นเป็นขวัญตาเท่านั้น”
อ๋องฉีเปิดกล่อง “ข้าเองก็ไม่เคยเห็นโสมพันปีที่ว่า เสด็จแม่ของข้าก็ไม่น่าจะเคยเห็นเช่นเดียวกัน เหตุใดเจ้าถึงกล้าถามไถ่เกี่ยวกับสิ่งที่ฝ่าบาททรงมอบให้กับสนมชิง?”
ในกล่องมีรากโสมนอนอยู่ ขนาดของมันไม่ใหญ่มาก แต่ลักษณะของมันมีหนวดเยอะและมีรอยยับย่นทั้งตัว ดูไม่เหมือนโสม แต่เหมือนคนแก่หน้าตาเหี่ยวเฉามากกว่า
องค์รัชทายาทจ้องมองวัตถุภายในกล่องแล้วยิ้ม “นี่คือโสมพันปีงั้นหรือ? หน้าตาช่างดูน่าเกลียด!”
อ๋องฉีเก็บกล่องตามเดิมแล้วเอ่ยว่า “สิ่งที่รูปลักษณ์ภายนอกย่ำแย่มักจะมีคุณสมบัติดีเลิศ”
องค์รัชทายาทยิ้มแล้วกล่าวต่อ “จริงสิ ข้าเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังมีงานอื่นที่ต้องทำ ดังนั้นข้าจะไม่ออกจากวังไปพร้อมกับเสด็จอา เชิญเสด็จอาออกไปตามลำพัง”
อ๋องฉีตอบรับในลำคอ “ได้ ข้าต้องไปแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...