จื่ออานแค่คิดว่ามันไร้สาระ พิษในกระดูกอะไรกัน? มันไร้สาระเสียจริง ๆ
แต่กุ้ยไท่เฟยยังคงจ้องมองเธออย่างเคร่งขรึม นางไม่พูดอะไร แต่มองไปที่องค์ชายอานด้วยสายตาอ้อนวอน
องค์ชายอานไม่มีทางโต้เถียง เพราะเขาไม่รู้ทักษะทางการแพทย์ ดังนั้นเขาจึงต้องมองไปที่เซียวท่า
เซียวท่ามองไปที่นักบวชลัทธิเต๋า และกล่าวว่า “แต่สถานการณ์ของท่านอ๋องตอนนี้สำคัญมาก เขามีพระอาการชัก และตอนนี้ร่างกายเขายังร้อนมาก”
“นั่นเป็นเพียงชั่วคราว เจ้าดูสิว่าตอนนี้ยังมีพระอาการชักอยู่ไหม? เพียงแค่กินยาต้มร่วมด้วย พระอาการก็จะไม่เป็นไร” นักบวชลัทธิเต๋ากล่าวด้วยความมั่นใจ
จื่ออานอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พระอาการชักนี้ทำให้เป็นไข้และใจสั่น ข้าไม่รู้ว่าผงยาของเจ้าคือยาอะไร แต่เห็นได้ชัดว่ามันทำให้เกิดการติดเชื้อ ดังนั้นมันจึงใช้ไม่ได้”
นักบวชลัทธิเต๋าเงยหน้าขึ้น และชำเลืองมองเธอ “เจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับเขาคนนี้บ้าง? ผงยาของข้ามีไว้ทาบาดแผล ข้าได้เห็นบาดแผลที่เย็บแล้ว เจ้าทำแบบนี้ไม่ได้หรอก เจ้าได้คิดมาก่อนไหม หากท่านอ๋องทนความเจ็บปวดจากรอยแผลไม่ได้ ถ้าเขาสิ้นลมหายใจ ผลที่ตามมาก็อาจร้ายแรง”
กุ้ยไท่เฟยได้ยินดังนั้น สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไป เธอสั่งอย่างเข้มงวด “ให้คนเข้ามา พาตัวเซี่ยจื่ออานออกไป หากไม่ได้รับอนุญาต ห้ามให้ก้าวเข้ามาในวังขององค์ชาย”
เซียวท่าไม่สามารถหัวเราะหรือร้องไห้ได้เมื่อได้ยินเรื่องนี้ นี่คือจวนทั่วไปของเขา แต่กุ้ยไท่เฟยเห็นว่าที่นี่เป็นพระราชวัง
จื่ออานได้ยินทฤษฎีนี้ของนักบวชลัทธิเต๋า มันช่างน่าขำจริง ๆ กุ้ยไท่เฟยจะจ้างหมอเถื่อนแบบนี้ได้อย่างไร แม้แต่หมอของสำนักฮุ้ยมินก็ยังไม่ดีเท่าเขา
ถ้ามู่หรงเจี๋ยถูกเขารักษาแบบนี้คงไม่สามารถอยู่รอดได้จริง ๆ
แต่ตอนนี้เธอไม่สามารถประจันหน้ากับกุ้ยไท่เฟยได้ ก่อนที่องครักษ์จะมาขับไล่เธอ
มู่หรงจ้วงจ้วงเข้าใจ และยืนข้างจื่ออาน “ใครกันที่กล้ามาห้ามเจ้า?”
กุ้ยไท่เฟยกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “จ้วงจ้วง ไปเถิด มันไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...