“แล้วพระศพอยู่ที่ไหนกันหรือ? ถ้าอยู่ต้องเห็นคน ถ้าตายต้องเห็นศพ จนถึงตอนนี้ก็ยังหาศพไม่พบ แล้วกล่าวว่าผู้สําเร็จราชการเสียชีวิตไปแล้ว ช่างเหลวไหลสิ้นดี”
เหลียงไท่ฟู่รู้สึกโกรธเคือง “แล้วตามพระดำรัสของท่านอ๋อง ถ้าไม่พบพระศพของผู้สำเร็จราชการภายในหนึ่งวัน ที่นั่งของผู้ที่ปกครองบ้านเมืองก็ต้องถูกทิ้งไว้ในอากาศ? บ้านเมืองใหญ่ ไม่มีใครปกครองไม่ได้ หรือว่าองค์ชายอันต้องการขึ้นครองราชย์เป็นผู้ปกครองบ้านเมืองหรือ? หากคิดเช่นนั้นจริง ๆ ก็พูดออกมาตรง ๆ ไยต้องมัวแต่ปิดบังด้วยเล่า”
องค์ชายอันกล่าวว่า “ทำไมข้าถึงดูแลบ้านเมืองไม่ได้เล่า ไม่ว่าจะมีความดีความชอบในการศึก ความรู้ด้านศิลปะป้องกันตัว มีอันไหนบ้างที่ข้าด้อยกว่าองค์รัชทายาทหรือ?”
เมื่อมหาเสนาบดีเซี่ยพบกับการคัดค้านอย่างต่อเนื่องจากองค์ชายอัน จึงมีความกังวล ดังนั้นเขาจึงขยิบตาให้หยวนซื่อ และขอให้นางพูดแทนองค์รัชทายาท
หยวนซื่อหันศีรษะไปเล็กน้อย ราวกับว่านางมองไม่เห็น
มหาเสนาบดีเซี่ยโกรธจนหน้าเขียวคล้ํา แต่จําต้องลุกขึ้นยืนกล่าวว่า “ไท่ฟู่และท่านอ๋องต่างฝ่ายต่างยืนกรานและไม่ยอมอ่อนข้อต่อกัน การโต้เถียงจะยิ่งทำเสียอารมณ์ ในวันนั้นฮูหยินของกระหม่อมได้เคยตั้งเวทีถกเถียงเรื่องการเมือง ฝ่าบาทยังรู้สึกว่าฮูหยินของกระหม่อมนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่สู้ลองฟังนางสักหน่อยดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
ใครก็ตามที่พูดเช่นนี้ ก็ล้วนจะต้องตกเป็นที่สงสัย เขาช่างไร้ยางอายถึงกับยกยอฮูหยินของตนเช่นนี้
คงมีเพียงมหาเสนาบดีเซี่ยเท่านั้นที่พูดแบบนี้ จะไม่ทำให้เกิดความรู้สึกไม่พอใจ เพราะมันเป็นความจริงที่ว่าหยวนซื่อชุ่ยอวี่ นางเป็นผู้หญิงแปลกประหลาดอย่างแท้จริง มีความเห็นที่ไม่ธรรมดา
ทุกคนกลั้นหายใจมองหยวนซื่อ รอให้นางกล่าวออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...