แต่หากจักรพรรดิเหลียงไม่ตาย เซี่ยจื่ออานก็ต้องเป็นลูกสะใภ้ของตน นึกถึงตรงนี้นางก็เกลียดชังเธอที่สุด
หวงไท่โฮ่วส่งหมอหลวงและหยวนพ่านเข้าไปในวังแล้วหลายคน กุ้ยไท่เฟยและฮองเฮาเองก็เข้าไปด้วยกัน
ส่วนมู่หรงเจี๋ย หวงไท่โฮ่วให้เขาคอยดูอยู่ที่นี่ ความหมายก็คือ ไม่อยากให้เขาได้ยิน
หวงไท่โฮ่วนั่งอยู่ตรงกลางมีสีหน้าซีดเซียว “เจ้าว่ามาสิ ตอนนี้อาการของจักรพรรดิเหลียงตกลงเป็นไงกันแน่? พวกเจ้าบรรดาหมอหลวงมีทางหรือไม่?”
หยวนพ่านลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในสมองเปรียบเทียบระหว่างผลดีและผลร้าย เขาไม่มีทางเลือกแล้ว อาการป่วยของจักรพรรดิเหลียงยังวนอยู่ที่เดิม และหากแสดงอาการออกมาอีกครั้งหนึ่ง สิ่งที่เห็นมาทั้งหมดเมื่อครู่ คำพูดที่ว่าขาดออกซิเจนอะไรนั่นเขาก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน เพราะงั้นจึงไม่สามารถฝากความหวังไว้กับหญิงสาวคนหนึ่งได้ และที่สำคัญนางยังอวดอ้างตนว่าเป็นผู้สืบทอดของเวินอี้อีก ช่างเหลวงไหลสิ้นดี
อาการของจักรพรรดิเหลียง แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ว่าจากสีหน้าและการตรวจวัดชีพจรการหายใจแล้ว ไม่ค่อยจะดีแล้ว เขาไม่เชื่อว่าเซี่ยจื่ออานจะพลิกสถานการณ์ได้
“พูดสิ!” หวงไท่โฮ่วไล่มองแต่ละคนที่เอาแต่ปิดปากไม่ยอมพูด จึงโมโหขึ้นมา “อาการเป็นอย่างไรก็แค่พูดมาตรง ๆ ต่อให้จะเป็นคำพูดที่เลวร้ายที่สุด ข้าก็จะอภัยความผิดให้พวกเจ้า ข้าแค่อยากรู้อาการของหลานข้าตอนนี้”
หยวนพ่านคุกเข่าลง เงยหน้าและพูดอย่างตรงไปตรงมา “จากที่หวงไท่โฮ่วถามมา ในเมื่อเป็นแบบนี้ หม่อมฉันก็จะรายงานไปตามตรง อาการขององค์จักรพรรดิเข้าขั้นวิกฤติมาก โดยเฉพาะตอนนี้พระองค์หายใจไม่คล่อง ชีพจรก็อ่อนแรงลงเรื่อย ๆ มือและเท้าเย็น บางครั้งก็เป็นสีขาวซีดบางครั้งก็เป็นสีม่วงคล้ำ มันเกินกำลังหม่อมฉันไปแล้ว”
หลังจากที่ฮองเฮาได้ฟังหมอหลวงไป ก็รู้สึกเหมือนโลกจะหมุน ตรงหน้ามืดมิด จนเธอเกือบจะเป็นลมไป
นางเอามือมาบังหน้าไว้ และเริ่มร้องไห้ออกมาแบบไม่มีเสียง
สีหน้าท่าทีของหวงไท่โฮ่วเองก็เศร้าโศกเสียใจมาก ปากของนางสั่นอยู่หลายครั้ง นางจ้องไปที่หยวนพ่าน “ไม่มีหนทางใดจริง ๆ รึ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...