หากว่าไม่มียาสลบแล้ว สิ่งนี้ก็จะทำให้คนเจ็บปวดจนตายไป
จื่ออันนำสถานการณ์ขั้นพื้นฐานนี้บอกกับอ๋องเหลียง ให้เขาตัดสินใจเลือกเอง
อ๋องเหลียงไม่แม้แต่จะคิด เอ่ยตอบออกมาในทันที “เจ้าเพียงแต่สนใจการรักษาของเจ้าก็พอ”
“เจ้าไม่กลัวเจ็บอย่างนั้นหรือ?”
อ๋องเหลียงมองยังนาง “ในโลกนี้ยังจะมีคนที่ไม่กลัวเจ็บอย่างนั้นหรือ? แต่อย่างไรก็ตาม เจ็บปวดแค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น ขาก็เป็นของตนเอง ข้าหวังว่าตนเองจะกลับกลายมาเป็นคนปกติ”
เขาเอ่ยออกมาเช่นนี้อีกครั้ง
จื่ออันส่งเสียงอืมออกมา แล้วหยิบกระเป๋าเข็มออกมาจากกล่องยา นำเข็มที่ยาวที่สุดออกมาฆ่าเชื้อ “ใช่แล้ว ในเมื่อโรคที่หลบซ่อนอยู่ของเจ้าหายดีแล้ว ทำไมถึงต้องให้พวกนางจากไป?”
“คนเหล่านั้น ล้วนแต่เป็นคนที่เสด็จแม่จัดแจงมา จุดประสงค์ก็เพื่อปิดบังความไม่ผิดปกติ ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องปิดบังความผิดปกติแล้ว” อ๋องเหลียงเอ่ยออกมาอย่างเรียบเฉย
จื่ออันพยักหน้าเพื่อแสดงว่าเข้าใจ คนจำนวนมากเข้ามาในจวน เป็นเพราะฮองเฮาป้องกันไม่ให้คนนอกคาดเดาว่าอ๋องเหลียงไม่เหมือนคนทั่วไป
“สนมในจวนของเจ้าล้มตายไปมากมาย เจ้ารู้หรือไม่ว่าใครทำ?” จื่ออันเอ่ยถาม
อ๋องเหลียงพยักหน้า “รู้!”
“องค์รัชทายาท?”
อ๋องเหลียงเคร่งขรึมไปครู่หนึ่ง “ในตอนต้น ข้าเองก็นึกว่าเป็นองค์รัชทายาท แต่ว่าภายหลังก็มารู้ว่าเป็นเสด็จแม่”
“แต่ว่าข้าได้ยินข่าวชื่อเสียงของเจ้าที่แย่ถึงขนาดนี้ ล้วนแต่เป็นองค์รัชทายาทแพร่ข่าวออกไป” จื่ออันค่อนข้างจะประหลาดใจ ฮองเฮาทำไมถึงได้ทำเช่นนี้?
“ความตั้งใจเดิมของเสด็จแม่ก็เพียงแต่สร้างภาพลวงตาเท่านั้น ทำให้คนนอกคิดว่าสนมในจวนเพียงแต่ต่อสู้แย่งชิงความรักกันจนตายไปเท่านั้นทว่าองค์รัชทายาทเพียงแต่ใส่ร้ายข้า ก็เลยใช้สิ่งเหล่านี้ที่เสด็จแม่ทำมาไปแพร่ข่าวออกไปว่าข้าเป็นคนรุนแรง เย็นชา เป็นข้าที่ฆ่าคนเหล่านี้ และแน่นอนว่าชื่อเสียงของย่อมต้องถูกเขาทำลายไป เสด็จพ่อก็เลยเกลียดชังข้าเพราะสาเหตุนี้”
เขาเงียบเสียงลง พร้อมกับความรู้สึกแย่บางอย่างที่ไม่อาจจะอธิบายออกมาได้ เพราะว่าก่อนหน้านั้นองค์จักรพรรดิรักเขาเป็นอย่างมาก
“เสด็จพ่อของเจ้าคงไม่รู้เรื่องโรคที่หลบซ่อนอยู่ของเจ้าสินะ?” จื่ออันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ
“นอกจากเสด็จลุงและเสด็จแม่แล้ว ก็ไม่มีคนอื่นรู้แล้ว เสด็จย่าเองก็เพิ่งจะรู้เรื่องในสองปีมานี้”
จื่ออันคิดถึงอาการประชวรขององค์จักรพรรดิ ที่ดูลึกลับถึงขนาดนั้น “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเสด็จพ่อของเจ้าป่วยเป็นโรคอะไร?”
“ไม่รู้เช่นกัน” อ๋องเหลียงเงยหน้าขึ้น “เจ้าลองไปถามเสด็จลุง เสด็จลุงไม่ใช่ว่าเคยไปเยี่ยมเสด็จพ่อมาแล้วหรอกหรือ?”
ที่ภายหลังจื่ออันไม่ได้เอ่ยถามนั้น เป็นเพราะว่ามู่หรงเจี๋ยเองก็ไม่ยินยอมที่จะเอ่ยถึง
ช่างทำให้ให้คนรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาจริง ๆ ตามเหตุผลแล้วมู่หรงเจี๋ยควรจะเชื่อมั่นในทักษะการแพทย์ของนาง แต่ทำไมถึงได้ไม่ยอมให้นางไปรักษาองค์จักรพรรดิกัน? กระทั่งหวงไท่โฮ่วเองก็ไม่เคยเอ่ยถึง
ดูเหมือนว่าทุกคนจะเก็บรักษาความลับอาการประชวรขององค์จักรพรรดิเอาไว้อย่างแน่นหนา
ตกลงแล้วองค์จักรพรรดิทรงประชวรเป็นอะไรกันแน่?
“เจ้าเองก็ไม่อาจเข้าเยี่ยมเสด็จพ่อของเจ้าได้หรือ?” จื่ออันอดไม่ได้ที่จะแอบสืบถามออกมา
อ๋องเหลียงส่ายศีรษะ “ไม่ได้ นอกเสียจากว่าเสด็จย่าจะทรงประทานอนุญาต มิฉะนั้นแล้ว แม้แต่เสด็จแม่เองก็ไม่อาจเข้าไปได้”
จื่ออันรู้ดีว่าใจที่สงสัยนั้นสามารถนำภัยมาให้ด้วย การรักษาอาการประชวรให้กับองค์จักรพรรดินั้นอันตรายอย่างยิ่ง การจะหลบหลีกนั้นก็คงจะไม่ทันการเสียแล้ว แต่ก็ไม่อาจรีบเร่งจนเกินไป
นางไม่ต้องการที่จะหาเรื่องยุ่งยากอีก เพราะว่า เรื่องยุ่งยากวุ่นวายของนางนั้นยังมีอีกมาก ในจวนเองก็มีกุ้ยไท่เฟยอยู่คนหนึ่งที่คอยจับตามองหาความผิดของนาง
นางเปลี่ยนเรื่องกลับมาเป็นเรื่องอาการบาดเจ็บที่ขาของเขา ในมือก็กำเข็มเอาไว้ “ข้าจะฝังเข็มลงไปบนจุดฝังเข็มที่ขาของเจ้า เจ้ามองเห็นเข็มนี้ดูค่อนข้างที่จะหนา และค่อนข้างที่จะแข็ง ไม่เหมือนกับเข็มที่ใช้วิธีเข็มทยานนั้นแตกต่างออกไป ในตอนที่ฝังเข็มลงไปค่อนข้างที่จะเจ็บปวด เจ้าจะต้องอดทน”
“ฝังเข็มในตอนนี้มีประโยชน์หรือ?” อ๋องเหลียงเอ่ยถาม
จื่ออันเอ่ย “เพียงแต่ใช้เพื่อตรวจสอบดูว่าเส้นประสาทของเจ้าไม่ได้เสียหายหรือไม่ หากว่าเสียหายแล้วนั้นสาหัสหรือไม่ หากว่าสาหัสแล้ว ก็จะยิ่งลำบากมากยิ่งขึ้น”
อาการบาดเจ็บที่ขาของอ๋องเหลียงเกิดขึ้นในตอนที่กำลังฟื้นฟู อีกทั้งบาดเจ็บแล้วก็มีเพียงแค่การออกกำลังกายเท่านั้น ถึงไม่ทำให้กล้ามเนื้อหดตัว ตรงจุดนี้ทำให้จื่ออันพอใจเป็นอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...