มู่หรงเจี๋ยส่ายหน้า “เช่นนั้นข้าขอถามเจ้าหน่อย เจ้าเคยอยากสร้างพันธมิตรกับเหล่าฟูเหรินมาก่อนหรือไม่?”
“ไม่แน่นอน ไม่ว่าจะทำเพื่ออะไรก็ตาม เป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะเป็นพันธมิตรกับนาง” จื่ออันปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
“ใช่ เป่ยโม่และเซียนเปยเคยเป็นเช่นนี้ พวกเขาเกลียดชังกันมาก ไม่มีแม้กระทั่งพื้นฐานสำหรับความไว้วางใจ ไม่ง่ายเลยที่จะเปลี่ยนมาเป็นพันธมิตรที่ร่วมมือกันได้ อย่างน้อยที่สุด พวกเขาก็ต้องมีจุดสนใจร่วมกัน เจ้ากล่าวว่าอาจจะเป็นเพราะดินแดนต้าโจว แต่ทุกคนรู้ดีว่าเป่ยโม่ไม่ยอมแบ่งที่ดินให้เซียนเปยแม้แต่หนึ่งนิ้ว ด้านเซียนเปยเองก็ไม่ยอมแบ่งที่ดินครึ่งหนึ่งให้กับเป่ยโม่เช่นกัน การต่อสู้ที่กินเวลายาวนานพิสูจน์ให้เห็นถึงจุดนี้ ฉะนั้นจักรพรรดิของทั้งสองแคว้นเห็นชอบการสร้างพันธมิตรเพราะเหตุใด? ต่อให้อยากเปลี่ยนใจผูกไมตรีกับศัตรูจริง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะรวดเร็วเช่นนี้”
จู่ ๆ จื่ออันก็เกิดความสงสัยขึ้นมา ทันใดนั้นคนคนหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในความคิดของนาง สนมอี้
ตัวตนของสนมอี้ค่อนข้างเป็นเรื่องลึกลับ เป็นไปได้หรือไม่ว่านางเป็นสายลับจริง ๆ?
ทว่านางเป็นบุตรีของกวงลู่ต้าฟู บิดาของนางเป็นสมาชิกระดับสูงของท้องพระโรงแล้ว ตัวนางเองก็เป็นถึงพระสนม จะมายุ่งเกี่ยวเรื่องพรรค์นี้เพราะอะไร?
“ซ่งรุ่ยหยางจะให้คำตอบกลับมาเมื่อไหร่?” จื่ออันถาม
“ไม่เร็วนัก น่าจะประมาณครึ่งเดือน”
จื่ออันคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นพลันเห็นคิ้วของเขาขมวดแน่น จึงถาม “มีอะไรอีกหรือ?”
มู่หรงเจี๋ยยื่นแขนออกไปกอดนางไว้ รู้สึกสงสารเป็นที่สุด “ข้าเป็นห่วงเจ้ามาก เจ้าเพียงลำพังจะฝ่าฟันทะเลมังกรและถ้ำเสือในเมืองหลวงได้อย่างไร?”
“อย่าเป็นกังวลเรื่องข้าเลย” จื่ออันไม่ต้องการให้เขาออกไปรบด้วยความกังวล “แค่เอาชนะศึกกลับมาให้ได้ก็เพียงพอแล้ว ข้ายังมีคนรู้จักมากมายในเมืองหลวง ไม่มีใครทำร้ายข้าได้ ลืมแล้วหรือว่าข้ายังมีเชือกบ่วงบาศ? ข้าเชื่อว่าหวงไท่โฮ่วต้องเฝ้าดูอยู่ที่ใดสักแห่ง เมืองหลวงตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ ผู้เฒ่าคงไม่มีทางนิ่งเฉย"
“ก่อนที่บรรพชนจะจากไป นางเคยบอกข้าว่าข้าไม่จำเป็นต้องปกป้องเจ้ามากเกินไป บอกว่าเจ้าสามารถยืนหยัดได้ด้วยตนเอง ผู้เฒ่ามีวิสัยทัศน์กว้างไกล เกรงว่านางอาจรู้ว่าวันนี้จะต้องเกิดขึ้น”
“ใช่ นางเป็นจิ้งจอกเฒ่า!”
มู่หรงเจี๋ยบอกนางต่อไป “หากมีเรื่องสำคัญเกิดขึ้นในเมืองหลวง เจ้าต้องสั่งให้คนไปส่งข่าวแจ้งข้าทันที อย่าได้แบกรับเอาไว้เอง เข้าใจหรือไม่?”
วันเดินทางใกล้เข้ามาแล้ว บรรยากาศในเมืองหลวงสงบ
ไม่มีใครกล้าสร้างปัญหาในเวลานี้
เมื่อประชาชนในเมืองหลวงรู้ว่าสงครามชายแดนกำลังจะเริ่มต้นขึ้น และองค์ชายผู้สำเร็จราชการแทนจะนำกองทัพเข้าสู่สนามรบ อารมณ์ของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความฮึกเหิม ความรู้สึกรักมาตุภูมิเป็นผลมาจากการเผยแพร่แนวคิดอันเปี่ยมด้วยวาทศิลป์ที่น่าตื่นเต้น และมีชีวิตชีวาของนักเล่าเรื่อง
ขวัญกำลังใจของต้าโจวนั้นล้นเหลือ ทุกคนให้ความสำคัญกับการต่อต้านการรุกรานของศัตรูต่างชาติ ปกป้องทรัพยากรอันสมบูรณ์ภายในประเทศรวมถึงชีวิตของผู้คน กองทัพทหารและม้าที่นำโดยมู่หรงเจี๋ย จึงเป็นเหมือนกองทัพผู้ผดุงความยุติธรรม
เมื่อรู้ว่าทหารที่ชายแดนขาดแคลนเสื้อผ้าฝ้าย หูฮวนสี่จึงเป็นผู้นำพ่อค้ารายใหญ่ในเมืองหลวงระดุมทุนบริจาค ผู้คนแห่ตัดเย็บเสื้อผ้าฝ้ายภายในชั่วข้ามคืน ก่อนจะส่งพวกมันไปที่ชายแดน
อาหารและหญ้าถูกลำเลียงไปยังปลายทางอย่างราบรื่น อาวุธต่าง ๆ และลูกธนูถูกส่งไปยังชายแดน มู่หรงเจี๋ยกว้านซื้อม้าศึกจำนวนมาก ตระกูลจูซึ่งเชี่ยวชาญด้านการผลิตรถม้าศึกในแคว้นเหลียง ยังได้บริจาครถม้าศึกจำนวนมากไปยังต้าโจว เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างแคว้นเหลียงกับต้าโจว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...