ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 100

“ท่านปู่ไม่ได้ติดตามหลิงอวี๋ตลอดเวลา แต่ที่หลิงอวี๋อยากจะพูดก็คือ หลิงอวี๋จำคำสั่งสอนของท่านปู่ได้เสมอ”

“ดังนั้นแม้ว่าหลิงอวี๋จะทะเลาะกับผู้อื่นอยู่ข้างนอก กระทำเรื่องไร้กาลเทศะเหล่านั้น แต่หลิงอวี๋ยึดถือคำสั่งสอนของท่านปู่ ไม่ทำเรื่องประเภทคบชู้นั่น!”

หลิงอวี๋กล่าวอย่างใจเย็น “หลิงอวี๋ยอมรับว่า พิสมัยท่านอ๋องอี้ในปีนั้นและใช้กลอุบายเล็กน้อยจริง แต่หลิงอวี๋กล้าสาบานต่อสรวงสวรรค์ว่า หม่อมฉันติดตามท่านอ๋องอี้ด้วยความบริสุทธิ์ใสสะอาด!”

“ท่านอ๋องอี้ ท่านตรัสอย่างยุติธรรมได้หรือไม่? ว่าครานั้นหลิงอวี๋บริสุทธิ์หรือเปล่า?”

เซียวหลิยเทียนตกตะลึง ในวันนั้นที่เขาถูกหลิงอวี๋วางแผนทำร้าย เนื่องเพราะเดือดดาลมากไปเลยไม่ได้จับตาดูละเอียดว่านางบริสุทธิ์หรือไม่

และเมื่อครู่หลิงอวี๋ก็กล่าวได้ถูกต้อง เขาไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่านางคบชู้ เพียงพึ่งความสงสัยตัดสินความผิดของนางนั้นไม่ยุติธรรม!

ทุกสายตาต่างจับจ้องไปทางตน

เซียวหลินเทียนค่อนข้างรู้สึกขัดแย้งที่จะยอมรับว่านางบริสุทธิ์หรือไม่ยอมรับดี?

ถ้าไม่ยอมรับ เช่นนั้นหลิงอวี๋ก็จะถูกลากตัวไปตัดหัว!

แต่หากยอมรับ นั่นมิใช่คือการช่วยหลิงอวี๋หรือ?

เป็นอุบายของนางเองทีทำให้ตัวนางเองสูญเสียคนที่รักไป!

มิใช่ว่าเขาโกรธแค้นนางมานับหลายปีเพราะเรื่องนี้หรือไร?

เมื่อหลิงอวี๋เห็นเซียวหลินเทียนครุ่นคิดไม่กล่าวคำใด ก็เดาความคิดเขาออกได้คลุมเครือ

เซียวหลินเทียนรังเกียจนาง ฉะนั้นเลยเกิดความขัดแย้งขึ้นว่าควรช่วยนางพูดดีหรือไม่

หลิงอวี๋หัวเราะเยาะยัน เอ่ยถามด้วยวาจาข่มขู่บีบคั้น “ทำไม คำถามนี้ตอบยากนักหรือ? ท่านอ๋องถึงคิดนานเพียงนี้?”

“หม่อมฉัน หลิงอวี๋ กล้าทำกล้ารับ ท่านอ๋องอี้คือบุรุษสูงส่งเทียมฟ้ามั่นคงเทียมดิน ยังเทียบกับข้าสตรีตัวเล็ก ๆ มิได้อย่างนั้นหรือเพคะ?”

แม้เซียวหลินเทียนถูกนางยั่วยุ แต่ก็ไม่ได้สะทกสะท้าน สายตาชำเลืองมองหลิงเยวี่ยที่จับมือหลิงอวี๋ไว้แน่น ดวงตากลมโตของหลิงเยวี่ยก็กำลังมองยังเขาอย่างสับสนมึนงง

เซียวหลินเทียนนึกถึงภาพน่าเวทนาที่เด็กคนนี้ถูกลากไปเมื่อครู่ หัวใจก็สั่นสะท้านพลางขบฟันกล่าวคำเสียงดัง

“ตัวข้าผู้เป็นอ๋องเป็นพยานได้ว่า หลิงอวี๋ติดตามข้าด้วยความบริสุทธิ์! นางมีเลือดพรหมจรรย์...”

เขาไม่ได้อยากพูดช่วยหลิงอวี๋ เขาแค่ไม่อยากเห็นเด็กอายุน้อยขนาดนี้มาพัวพันจนตายเพราะหลิงอวี๋เช่นนี้!

หากหลิงอวี๋มิได้คบชู้ นั่นแปลว่าเด็กคนนี้ก็คือลูกของตน เขาไม่อาจมองดูเฉย ๆ ไม่ช่วยได้!

ครั้นกล่าวออกไป สตรีที่ยังไม่ได้ออกเรือนเหล่านั้นพลันหน้าแดงเขินอายกันถ้วนหน้า

แต่เสิ่นจวนกลับกล่าวเรียกอย่างลนลาน “ท่านพี่หลินเทียน ท่านอย่าถูกนางหลอก! นางอาจจะกรีดมือตัวเองทำรอยเลือดพวกนั้นเองเพคะ!”

“ใช่เพคะ อุบายเช่นนี้ใช้กันเกลื่อนกลาด! เลือดพรหมจรรย์ก็อาจจะเป็นการกรีดมือทำรอยเลือดออกมาเพคะ!”

ชายาผิงหยางเป็นสหายในกลุ่มที่ดี รีบช่วยเสิ่นจวนทันเวลา

ก่อนที่ผู้คนที่ดูความบันเทิงจะซุบซิบนินทากัน

หลิงอวี๋จ้องชายาผิงหยางอย่างลึกซึ้ง บัญชีนี้ขอจำไว้ก่อนคอยชำระทีหลัง!

นางคลี่ยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าวคำ “ชายาผิงหยางช่างมากความรู้ประสบการณ์เสียจริง! อุบายเช่นนี้ล้วนทราบทั้งสิ้น น่าเลื่อมใสนัก!”

ครั้นแล้วนางก็เปลี่ยนบทสนทนา ทอดมองเสิ่นจวนอย่างถากถางกล่าวว่า “คุณหนูเสิ่นบุตรีที่ยังมิได้ออกเรือน แม้แต่การตบแต่งก็ยังมิได้กล่าวก็รู้แล้วว่าเลือดพรหมจรรย์คือเลือดอะไร...”

“แถมยังรู้ด้วยว่า ต้องกรีดนิ้วมือทำขึ้นมา… นี่ก็ทำให้หลิงอวี๋เลื่อมใสนัก...”

“ท่านแม่ข้าเสียชีวิตไปนานแล้ว ท่านปู่ข้าก็มิได้สอนสิ่งเหล่านี้แก่ข้า! ข้าไม่รู้เลยจริง ๆ… ไม่นึกเลยว่าจะสามารถทำเช่นนี้ได้ด้วย!”

คำพูดที่กล่าวนี้ ทำให้เสิ่นจวนโกรธจนทั่วหน้าแดงก่ำ

สตรีในลานต่างแอบหัวเราะกันขึ้นมา ผู้ที่คิดจะสู่ขอแซ่เสิ่นล้วนถอนตัวกลางคันอย่างเงียบเชียบ

แม้แต่ไทเฮาผู้ทรงเกียรติบนดวงหน้างามสง่าก็เปื้อนยิ้มสายหนึ่งเช่นกัน

“หลิงอวี๋ เจ้าอย่ากล่าวส่งเดชไปเรื่อย ข้าแค่พูดช่วยลูกพี่ลูกน้องข้ามิได้หรือไร? เขาไม่เข้าใจ หรือว่าเจ้าไม่ยินยอมให้เราเตือนสติเขาเล่า?” เสิ่นจวนกล่าวอย่างลนลาน

หลิงอวี๋หัวเราะเยาะหยัน “นี่เจ้าซักถามถึงศักดิ์ศรีท่านอ๋องอี้ในฐานะผู้ชายหรือ? หรือจะบอกว่าเจ้าเข้าใจดีมากกว่าบุรุษ?”

“เจ้าผ่านผู้ชายมามากเท่าใดกันรึ ถึงมากประสบการณ์ขนาดนี้?”

โคตรมารดามันเถอะ ยอมให้หน่อยก็เอาใหญ่เลยรึ!

วาจาของหลิงอวี๋ไม่เกรงใจอีกต่อไป อยากพูดหยาบคายสิ่งใดก็จะพูดสิ่งนั้น!

“เจ้า… เจ้า...”

เสิ่นจวนอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี การมาถามนางว่าผ่านผู้ชายมามากเท่าใดแล้ว คำพูดนี้จะทำให้คนอื่นคิดว่านางเป็นคนอย่างไรเล่า!

“หลิงอวี๋ เจ้าอย่าเปลี่ยนเรื่อง! แม้ว่าเจ้าจะสภาพพรหมจารีในครั้งแรก แต่ก็เปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าลูกนอกสมรสคนนี้เกิดแปดเดือนมิได้อยู่ดี!”

ชายาผิงหยางเห็นเสิ่นจวนแพ้พ่ายศึก ตนจึงเริ่มอ้างถึงประเด็นเรื่องนี้ เนื่องนางยังจำได้ว่าจักรพรรดิอู่อันต้องการจะประหารหลิงอวี๋ด้วยการตวัดดาบฟันตายเพราะเรื่องนี้

หลิงอวี๋จ้องมองนางพลางกล่าวอย่างสงบ “เยวี่ยเยวี่ยคือบุตรของท่านอ๋องอี้จริงและที่ภายนอกบอกว่าให้กำเนิดแปดเดือน… นี่ก็คือเรื่องจริง!”

ชายาผิงหยางคว้าโอกาสทักขึ้น “พวกเจ้าล้วนได้ยินแล้วใช่หรือไม่? นางยอมรับแล้วว่าให้กำเนิดลูกนอกสมรส!”

หลิงอวี๋บันดาลโทสะจนอยากตบนางสักหนึ่งฝ่ามือ คำก็ว่าลูกนอกสมรสสองคำก็ว่าลูกนอกสมรส แม้เขาจะเป็นจริงแต่ได้ไปกินข้าวกินเนื้อบ้านนางหรือปะไร?

สมสู่มารดามันเถอะ!

ชายาผิงหยางผู้นี้ วันนี้ยั่วโมโหข้ามากแล้วจริง ๆ!

หลิงหวี๋กัดฟันกรอดอย่างเงียบ ๆ ได้ เจ้ายั่วยุข้าครั้งแล้วครั้งเล่าก็อย่ามาโทษข้า หากข้าจะเปิดโปงอดีตอันโสมมของเจ้า…

ข้าก็จะรอดูว่าวันนี้ใครกันแน่ที่จะถูกขับไล่ออกจากวังหลวงอย่างจนตรอก!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา