ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 102

“ฝ่าบาท ทองคำแท้ไม่กลัวไฟหลอม! หลิงอวี๋ก็ไร้สิ่งใดต้องกลัวเพคะ!”

หลิงอวี๋เงยศีรษะขึ้นพลางกล่าวหนักแน่น

“เชิญหมอหลวง… ตรวจหยาดเลือดรู้ญาติ!”

ตามคำบัญชาของจักรพรรดิอู่อัน หมอหลวงก็ไปเตรียมการทันควัน

เซียวหลินเทียนกำลังฟังมาตลอด ครั้นได้ยินหลิงอวี๋พูดถึงสาเหตุหลายประเภทของการคลอดก่อนกำหนด หัวใจเขาก็สั่นไว

ถ้าหลิงอวี๋ติดตามตนด้วยความบริสุทธิ์จริง ๆ การคลอดก่อนกำหนดสองเดือนของเด็กคนนั้นก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน!

ก่อนหน้าเขาโกรธแค้นหลิงอวี๋ที่มีเจตนาร้ายกับตน บีบคั้นให้ตนทิ้งคนที่รักไป ทำให้พอหลังแต่งงานกันเขาก็ไปสนามรบทันที

ขณะที่เด็กเกิดเขาไม่ได้อยู่เมืองหลวง เลยไม่รู้แจ้งถึงสาเหตุที่หลิงอวี๋คลอดก่อนกำหนดในครานั้น

เมื่อได้ยินข่าวลือว่า หลิงอวี๋ออกเรือนกับเขาแต่กำลังอุ้มท้องบุตรชายนอื่น ทว่านั่นคือเหตุที่ทำให้นางคลอดลูกแปดเดือน!

ความโกรธเข้าครอบงำเขาในเวลานั้นจึงไม่ได้ส่งคนไปตรวจสอบ คิดเอาเองว่า เด็กคนนี้ไม่ใช่บุตรของตน!

หรือว่าเขาจะเข้าใจผิดจริง?

ครั้นได้ยินหลิงอวี๋กล่าวยินยอมตรวจหยาดเลือดรู้ญาติ เซียวหลินเทียนพลันกำหมัดแน่นอารมณ์ตึงเครียดฉับพลัน ทันใดนั้นก็นึกถึงคำพูดที่หลิงอวี๋เอ่ยทันที

“หากสักวันหนึ่งหม่อมฉันพิสูจน์ได้ว่าเขาคือลูกของท่าน ลองคิดถึงการกระทำของท่านดูสิ คู่ควรให้เขายอมรับหรือไม่?”

เซียวหลินเทียนรู้สึกประหม่าสุดจะบรรยาย หากได้ยืนยันแน่ชัดว่า เสี่ยวเมาเป็นลูกของตนจริง เขาควรทำเช่นไรดีเล่า?

หลายปีมานี้เพราะข่าวลือไม่ได้รับการพิสูจน์ความจริง เขาจึงละเลยเสี่ยวเมา แน่นอนว่าภายในใจของเสี่ยวเมาที่มีต่อเขาต้องเปี่ยมด้วยความขุ่นเคืองเป็นแน่!

จะชดใช้ความเจ็บปวดที่เขาไม่ได้ตั้งใจทำกับเสี่ยวเมาได้อย่างไรเล่า?

หมอหลวงถืออ่างน้ำวางบนโต๊ะที่ขันทียกมา

หลิงอวี๋กล่าวคำ “เชิญท่านอ๋องอี้ก่อนเลยเพคะ!”

ลู่หนานเหลือบมองเซียวหลินเทียน เมื่อได้รับคำยืนยันจึงเข็นเขาไปด้านหน้าแท่น

เมื่อหมอหลวงกรีดนิ้วมือของเซียวหลินเทียน แล้วหยาดเลือดสองสามหยดพลันหยดลงอ่างน้ำ

ครั้นหลิงอวี๋เห็นว่าถึงคราวหลิงเยวี่ยแล้ว นางก็ดึงเขาเข้ามาพลางเอ่ยด้วยเสียงนุ่มนวล

“เยวี่ยเยวี่ยอย่ากลัวไปเลย แค่กรีดเป็นแผลเล็ก ๆ เท่านั้น ประเดี๋ยวให้แม่เป่าฟู่ฟู่ก็ไม่เจ็บแล้ว!”

นางถูนิ้วชี้ของหลิงเยวี่ยแล้วดันเขาไปข้างหน้าแผ่วเบา

หลิงเยวี่ยกิริยาผึ่งผายก้าวย่างเล็ก ๆ อย่างเคร่งขรึมไปตรงหน้าหมอหลวง ก่อนจะเอานิ้วชี้ยื่นไปหาหมอหลวง

หมอหลวงใช้ปลายมีดกรีดนิ้วมืออันขาวนุ่มของเขา ปล่อยให้หยาดเลือดหยดลง

ขันทีเซี่ยโน้มเข้าใกล้เพื่อตรวจสอบ เห็นเพียงโลหิตของเซียวหลินเทียนและหลิงเยวี่ยล่องลอยแยกจากพลางเริ่มรวมชิดกันอย่างเชื่องช้า สุดท้ายก็รวมเป็นหนึ่งเดียว…

ชายาผิงหยาง เสิ่นจวนและคนอื่น ๆ ที่ร้องโหวกเหวกเสียงดังเมื่อครู่ยังคุกเข่าอยู่ หากจักรพรรดิอู่อันไม่มีรับสั่ง พวกนางก็มิกล้าลุกขึ้น

พวกนางต่างภาวนาให้โลหิตไม่ประสาน หวังลบล้างสุนัขจิ้งจอกแอบอ้างบารมีเสือ(1) ที่ยืมอำนาจจากจักรพรรดิมาขู่ขวัญพวกนางด้วยแรงแค้น

เซียวหลินเทียนกระวนกระวายใจคอยอยู่ด้านข้าง เขาไม่กล้ามองหน้าของขันทีเซี่ย เพียงรู้สึกว่า หัวใจเต้นรัวไม่สงบล่องลอยไปมากลางอากาศ…

คาดไม่ถึงว่า นี่คือคราแรกที่เขากลัวการเปิดเผยความจริง!

“กราบทูลฝ่าบาท โลหิตของทั้งสองประสานกัน ยืนยันแน่ชัดว่าเด็กคนนี้เป็นบุตรชายโดยกำเนิดของท่านอ๋องอี้พ่ะย่ะค่ะ!”

หมอหลวงยกอ่างน้ำถวายจักรพรรดิอู่อันเพื่อตรวจสอบ…

“เป็นไปได้ยังไง...”

เสิ่นจวนเกือบจะกรีดร้องเสียงแหลม แต่เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาเย็นชาของบิดาก็พลันกลืนลงไปทันที

ทว่าหัวใจของเซียวหลินเทียนจมดิ่งลงอย่างหนักอึ้ง

เสี่ยวเมาคือลูกของตนจริง ๆ!

เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะเป็นลูกของตนจริง ๆ!

เซียวหลินเทียนชำเลืองมองอย่างฉงนใจ พลันเห็นหลิงอวี๋ชายตามองเขาอย่างดูแคลน

สายตานี้ยิ่งกว่าตอนหลิงอวี๋ใช้มีดข่มขู่เขาเสียอีก แถมยังทำให้เขารู้สึกผวา!

นี่คือหลิงอวี๋กำลังจะบอกเขาว่า นางไม่ให้เสี่ยวเมายอมรับเขาเป็นบิดาหรือกระไร?

จู่ ๆ เซียวหลินเทียนพลันนึกถึงคืนนั้น…

เพื่อปกป้องหลิงอวี๋ไม่ให้ถูกอันธพาลรับจ้างเฆี่ยนตี เสี่ยวเมาจึงพุ่งไปจะปกป้อง แต่ชิวเฮ่าก็เตะเด็กน้อยอย่างโหดเหี้ยม

ฉากนั้นที่ร่างเล็กและอ่อนแอของเขาลอยออกไป ตอนนั้นเขาเห็นก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนัก แต่ตอนนี้พอคิดแล้วภายในจิตใจกลับสั่นไหว…

ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นเพราะตนไม่เชื่อว่าเด็กคนนี้คือบุตรของตน จนเกือบจะทำให้ถูกเตะตายตั้งแต่อายุยังน้อย…

นี่คือวิธีที่เขาทำหน้าที่พ่อของเสี่ยวเมาอย่างนั้นหรือ?

หลิงอวี๋กล่าวได้ถูกแล้ว การกระทำของเขาไม่คู่ควรให้เสี่ยวเมายอมรับเป็นบิดา!

สุนัขจิ้งจอกแอบอ้างบารมีเสือ (狐假虎威) เป็นสำนวน หมายถึง แอบอ้างบารมีและอิทธิพลของผู้อื่นมากดขี่รังแกหรือข่มขวัญคน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา