“สิ่งนี้เรียกว่าแว่นตากระจ่าง!”
หลิงอวี๋รู้สึกว่าชื่อแว่นสายตามันไม่หรูหรามากพอ จึงได้เปลี่ยนชื่อ
นางยิ้มพลางเอ่ย “ตัวชั้นวางนี้ทำจากไม้กฤษณาฉีหนาน!”
หลิงอวี๋เอ่ยคำนี้ออกไป ทุกคนก็เบิกตาโตหันมามอง
คนที่รู้เรื่องต่างก็รู้กัน ว่าไม้กฤษณามีหลายประเภท หากบอกว่าไม้กฤษณาทั่วไปคือไข่มุก เช่นนั้นไม้กฤษณาฉีหนานก็เป็นเหมือนเครื่องประดับราคาแพง!
ไม้กฤษณาฉีหนานอย่างดีชิ้นหนึ่งสามารถขายได้ในราคานับหมื่นไปจนถึงนับแสนเลยทีเดียว!
ดูเหมือนหลิงอวี๋จะไม่เห็นความปั่นป่วนที่นางก่อขึ้น นางหยิบแว่นตากระจ่างขึ้นมาและสาธิตวิธีใช้
นางคล้องสร้อยไข่มุกไว้บนคอ ใส่เลนส์ไว้ที่สันจมูก สวมแล้วยิ้มพลางเอ่ย “เช่นนี้เพคะ ไทเฮาใช้สิ่งนี้จะทรงพระอักษรได้ชัดเจนมากเพคะ!"
นี่คือสิ่งที่หลิงอวี๋ได้เตรียมไว้หลังจากที่ได้ยินแม่นมลี่พูดถึงในวังมีวิธีที่จะใส่ร้ายมากมาย เป็นการเลี่ยงไม่ให้มีใครมาทำอะไรกับของกำนัลของตนเอง ไม่คิดเลยว่าจะได้ใช้จริง ๆ
“มีของที่มหัศจรรย์เช่นนี้ด้วยหรือ?”
ทันทีที่ไทเฮาเหลียงได้ยินก็ให้ความสนใจทันที นางยิ้มพลางเอ่ย “ส่งขึ้นมาให้ข้าดูหน่อย! ข้ากำลังคิดว่าข้าแก่แล้ว มองสิ่งใดก็เลือนรางไปหมด หากสามารถทำให้เห็นชัดได้จริง เช่นนั้นก็เยี่ยมนัก!”
เจ้าหน้าที่ส่งแว่นตาไปที่ตรงหน้าไทเฮาอย่างระมัดระวัง ขันทีเซี่ยก็หยิบใบรายการของกำนัลส่งให้ไทเฮาด้วย
ไทเฮาเลียนแบบตามวิธีที่หลิงอวี๋สอนคือเอาสร้อยไข่มุกคล้องไว้ที่คอ แล้วใส่แว่นตามองใบรายการของกำนัลนั้น
“ชัดเจนมากจริง ๆ ด้วย! ของกำนัลนี้ดี! ของกำนัลนี้ดีจริง! พระชายาอ๋องอี้ช่างใส่ใจ ข้ามีสิ่งนี้แล้ว ก็ไม่ตาบอดแล้ว!”
ไทเฮาดีใจ กระทั่งชมติด ๆ กันเลย
คนที่ถวายของกำนัลแพง ๆ หลายคนก่อนหน้า นอกจากองค์จักรพรรดิกับเซียวหลินเทียนแล้ว คนอื่น ๆ ก็สีหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่
พวกเขาถวายของแพงถึงเพียงนั้น แต่ล้วนไม่ได้รับคำชมจากไทเฮาสักคำเลย!
ท่านลุงถวายสร้อยข้อมือไม้กฤษณาให้อันหนึ่ง ได้รับคำชมว่าดี แต่กลับเป็นของปลอม!
ส่วนแผ่นกระจกสองแผ่นเล็ก ๆ ของหลิงอวี๋ กลับได้รับคำชมว่าดีถึงสองครั้ง?
จักรพรรดิอู่อันเป็นลูกกตัญญู ขอเพียงไทเฮามีความสุข เขาก็มีความสุข ในที่สุดสีหน้าที่อึมครึมก็เปลี่ยนเป็นสดใสขึ้นมา เขามองหลิงอวี๋ด้วยรอยยิ้มตาหยี แล้วเอ่ย
“หายากคนที่มีใจกตัญญูเช่นเจ้า ทำให้ต่อไปไทเฮาจะได้อ่านหนังสือแบบไม่กังวลแล้ว! รางวัล… เจ้าอยากได้รางวัลเป็นอะไร?”
หลิงอวี๋ตื่นเต้น ลากหลิงเยวี่ยเข้ามาพลางเอ่ย “ที่ตัวหม่อมฉันผู้เป็นพระสุณิสา(ลูกสะใภ้)นึกขึ้นได้ว่าจะถวายของกำนัลชิ้นนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะหลิงเยวี่ยเตือนขึ้นมาเพคะ! เสด็จพ่อให้รางวัลแก่หลิงเยวี่ยเถิดเพคะ!”
หลิงเยวี่ยทำความเคารพอย่างว่าง่าย “เยวี่ยเยวี่ยน้อมคารวะเสด็จปู่ เสด็จย่าทวด! ขอให้เสด็จย่าทวดมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและมีอายุยืนยาวดุจขุนเขา! ขอให้เสด็จปู่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและมีโชคลาภวาสนาดั่งมหาสมุทรพ่ะย่ะค่ะ!”
“ฮ่า ๆ เด็กคนนี้เข้าใจพูด!”
จักรพรรดิอู่อันได้ยืนยันแล้วว่า เด็กคนนี้เป็นลูกของเซียวหลินเทียน แม้ว่าในใจจะยังมีความคลางแคลงใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่คิดเล็กคิดน้อยอีกต่อไปแล้ว
เขาหัวเราะฮ่า ๆ ยื่นมือไปดึงจี้หยกบนเสื้อคลุมมังกรออกมา แล้วยื่นให้หลิงเยวี่ย พลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“นี่คือรางวัลที่ข้าให้เจ้า ไปนั่งเถิด ชอบกินอะไรก็กินให้มาก ๆ!”
“เยวี่ยเยวี่ยขอบพระทัยเสด็จปู่พ่ะย่ะค่ะ!”
หลิงเยวี่ยคุกเข่าทำความเคารพจักรพรรดิอู่อันสามครั้ง แล้วจึงรับจี้หยกนั้นมาอย่างสุภาพ
หลิงอวี๋ค่อนข้างผิดหวัง เดิมทีนางยังคิดว่าจะถือโอกาสนี้ขอให้จักรพรรดิอู่อันตั้งชื่อให้หลิงเยวี่ย เช่นนี้ต่อไปจะได้ไม่มีใครดูถูกหลิงเยวี่ยอีก
แต่จักรพรรดิอู่อันเอ่ยปากเรียกแทนตัวว่าข้า ไม่ได้ตอบรับคำเรียกที่หลิงเยวี่ยเรียกว่าเสด็จปู่ เห็นได้ชัดเลยว่ายังไม่ได้อยากยอมรับหลิงเยวี่ย!
นางรู้ว่าหากเอ่ยปากอีกครั้งจะทำให้จักรพรรดิอู่อันรังเกียจตนเอง จึงทำได้เพียงสงบปากสงบคำ ทำความเคารพแล้วพาหลิงเยวี่ยลงไป
หลิงอวี๋ยกมุมปากเยาะเย้ย เดิมทีนางตั้งใจว่าจะเตรียมยาบำรุงร่างกายให้ไทเฮากับจักรพรรดิสองกล่อง
แต่จักรพรรดิไม่ยอมรับหลิงเยวี่ย ทั้งยังมีการกล่าวหาตนเมื่อครู่ และเรื่องที่ให้อดีตเสนาบดีคุกเข่าต่างเข้ามาอยู่ในใจของหลิงอวี๋
นางเต็มใจจะให้ยานั้นกับแม่นมลี่ ไม่มีทางจะให้คนที่จิตใจอำมหิตอย่างคนในราชวงศ์เหล่านี้!
ห่างไกลออกไป ฉินรั่วซือเห็นภาพนี้ ก็โกรธเสียใบหน้าบิดเบี้ยว
ครั้งแล้วครั้งเล่า ที่หลิวอวี๋พลิกสถานการณ์ที่ทำให้นางอับอายได้อย่างสมบูรณ์แบบ!
ครั้งนี้ก็เช่นกัน ของกำนัลที่จะถวายให้ไทเฮาแตกไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะไม่ได้ทำให้นางเสียหายใด ๆ เลย?
เหตุใดหลิงอวี๋ถึงโชคดีถึงเพียงนั้น!
เรื่องที่นั่งกับแจกันที่แตกไป ก็ได้แต่หวังว่าขันทีเซี่ยจะลืมไปให้หมด!
ไม่เช่นนั้นหากตรวจสอบ แล้วตรวจสอบมาถึงตน เช่นนั้นทุกอย่างก็จบสิ้น!
ฉินรั่วซือผิดหวังมากเสียจนอยากจะดึงผมตัวเองออกให้หมด… จะทำเยี่ยงไรดี!
ถัดมาเป็นการร้องเพลง เต้นรำ และการแสดงต่าง ๆ
หลิงอวี๋ชมการแสดงไปก็ปอกเปลือกองุ่นให้หลิงเยวี่ยไปด้วย
ชิวเหวินซวงที่นั่งอยู่รอบนอก ก็เป็นเช่นเดียวกับฉินรั่วซือ โกรธเสียจนหน้าบิดเบี้ยวไปหมด
แต่ใจของนางแข็งแกร่งยิ่งกว่าฉินรั่วซือ นางมองภาพของหลิงอวี๋และลูกชายที่มีความสุขแล้วยิ้มอย่างเย็นชา
หยดเลือดพิสูจน์สายเลือดงั้นหรือ เหอะ ๆ เจ้าคิดว่าทำเช่นนี้แล้วจะทำให้ท่านอ๋องยอมรับตัวตนของลูกชู้
ได้อย่างนั้นหรือ?
หลิงอวี๋ เจ้าอย่าได้ดีใจไปนักเลย!
สิ่งที่ไม่ใช่ของเจ้า มันก็ไม่มีวันที่จะเป็นของเจ้า!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
ลุ้นจะหนียังไง...
หงุดหงิด กับเด็กนรกก...
อ๋องอี้กับชิวเหวินซวงเหมาะสมกันมาก เหมือนผีเน่ากับโลงผุเลย คนนึงเป็นอ๋องใจบอด อีกคนมักใหญ่ใฝ่สูง เล่เหลี่ยมมากมาย...
ถ้านางเอกกับลูกยอมรับอ๋องอี้ในที่สุดคือไม่เข้าท่าเลยนะ...
จะได้เปิดโรงหมอแล้ว เย่ๆๆๆ...
อ๋องอี้ก็ยังโง่ให้คนอื่นจูงจมูกง่ายๆเหมือนเดิม...
ต่อให้ไม่ใช่ลูกเห็นเด็กเล็กโดนขนาดนั้นก็ต้องรู้สึกอะไรบ้างไหม แต่นี่คือจิตใจอำมหิตมากกกก...
ในที่สุดควสมจริงก็เปิดเผยสักที แล้วทุกคนจะรับผิดชอบที่รักแกเยวี่ยเยวี่ยกับหลิงอวี่อย่างไรล่ะ...
อ๋องอี้ก็เฮงซวย ฮ่องเต้ก็ถูกจูงจมูกง่ายๆ หวังว่านางเอกกับลูกจะรอด แล้วทำให้พ่อกับปู่รู้ว่าตัวเองชั่วช้าคิดฆ่าลูกกับหลานแท้ๆได้ลงคอ หรือยัยน้องกับลูกต้องถูกทรมานเจียนตายจนใกล้ตอนจบเลยหรือเปล่า ส่วนไทเฮานั้นถ้าน้องรอดชีวิตไปได้ก็อย่าได้พบหญิงชรานางนี้อีกเลย...
อ๋องอี้คือผัวสารเลวสุดแสนเฮงซวยที่สุดแล้ว ต่อไปข้างหน้า ถ้านางเอกมารักกับผัวเฮงซวยแทนที่จะเลิกรากันไปนี่คือ เธอช่างใจกว้างไปละ...