ขณะที่หลิงอวี๋กำลังชมการแสดงร้องรำทำเพลงอยู่นั้น ไป่ซุ่ยนางกำนัลข้างกายไทเฮาก็เข้ามาและกระซิบข้างหูนาง
“พระชายาอ๋องอี้ เชิญตามข้ามาเจ้าค่ะ ไทเฮาต้องการพบพระชายาตามลำพัง!”
หลิงอวี๋ตะลึงไปครู่หนึ่ง เหลือบมองขึ้นมา เห็นไทเฮาที่อยู่บนเวทีไม่ได้อยู่ที่นั่งตรงนั้นแล้ว
นางพยักหน้าเบา ๆ แล้วจูงหลิงเยวี่ยเดินตามไป่ซุ่ยไป
“พระชายาอ๋องอี้ ไทเฮามีพระชนมายุมากแล้ว ไม่ใช่ผู้ที่จะลืมบุญคุณคน...”
ไป่ซุ่ยกระซิบ “เมื่อครู่ตอนที่พระชายาจะถูกบั่นหัว ไม่ใช่ว่าพระองค์ไม่อยากช่วย… พระชายาคิดดูดี ๆ ก็จะเข้าใจความลำบากพระทัยของไทเฮาเจ้าค่ะ!”
หลิงอวี๋รู้ว่าไป๋ซุ่ยมีเจตนาดี มาเตือนตนเองว่า อย่าพูดเหลวไหลเมื่อพบกับไทเฮา ดังนั้นจึงพยักหน้าอย่างเข้าใจ
ออกมาจากศาลาในสวน ก็จะพบกับศาลาแห่งหนึ่ง
เมื่อครู่ไทเฮาเหน็ดเหนื่อยมา จึงมานั่งพักอยู่ที่นี่
“หลิงอวี๋คารวะไทเฮาเพคะ!”
หลิงอวี๋ทำมือแสดงให้หลิงเยวี่ยอยู่ที่เดิม แล้วตนก็เดินไปที่บันไดและโค้งคำนับ
ไทเฮาเหลียงถอดมงกุฎหงส์ออกแล้ว เผยให้เห็นผมสีขาวของนาง มองแล้วไม่ได้สง่างามเท่าบนเวทีก่อนหน้านี้ แต่เสื้อคลุมหงส์อันหรูหราบนร่างนั้น ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจและตำแหน่ง
ในใจของหลิงอวี๋ยังคงมีปมอยู่ คิดว่าแม้ไทเฮาเหลียงจะทดสอบตน ก็ไม่ต้องถึงขั้นบีบบังคับให้ท่านอดีตเสนาบดีคุกเข่าลงแล้วถึงจะยอมพูดแทนนางก็ได้
หลิงอวี๋คารวะแล้วถอยมายืนห่าง
ไทเฮาเหลียงมองนาง แล้วเอ่ยถามเสียงเรียบ “ใจเจ้ามีความโกรธข้าอยู่หรือ?”
“หลิงอวี๋มิกล้าเพคะ!” หลิงอวี๋เอ่ยราบเรียบ
ไทเฮาเหลียงยิ้มพลางเอ่ย “มิกล้า! มิใช่ว่าไม่มี! แต่เห็นเจ้าแล้วในใจคงจะมีความโกรธอยู่นะ!”
“เจ้ารู้สึกใช่หรือไม่ว่าข้าเห็นเจ้าใกล้ถึงความตายแล้วไม่ช่วยเหลือ? เจ้าช่วยเหลือข้าไว้ แต่ข้ากลับไม่เอ่ยเรื่องนี้ต่อหน้าผู้คน กระทั่งตอนที่เจ้าจะถูกบั่นคอ ข้าก็ไม่ห้ามไว้!”
หลิงอวี๋ไม่พูด นับว่าเป็นการยอมรับอย่างเงียบ ๆ แล้ว
เดิมทีนี่เป็นความคิดของนางจริง ๆ นางไม่สามารถฝืนใจบอกว่าไม่ใช่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
ขอบคุณนะที่ลงเพิ่ม กำลังสนุกมาก...
คนเขียนกลับมาก๊อนนนน🥹 ทางนี่ใจจะขาดแล้วฮะ...
รอสนุกมาก...
รอ........
จะมีแบบรูปเล่มออกมาเมื่อไหร่คะ...
หยุดอัพอีกแล้ว 😭...
รออัพตอนใหม่นะคะ...
ต่อๆ รอออ...
รอนะคะ...
จะมีตอนต่อไปให้อ่านใหมคะ กำลังฟินเลย...