หลิงอวี๋กะพริบตาปริบ ๆ นางไม่สามารถอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นกับร่างของนางได้ เรื่องการให้ความสำคัญกับสามีให้มากก็ไม่ใช่แนวคิดของคนในโลกอนาคตอย่างนางสามารถรับได้
แต่คำพูดของไทเฮากลับเตือนนางว่า ในสมัยโบราณอำนาจทางการเมืองมันมีขึ้นมีลง วันนี้จักรพรรดิอู่อันเป็นจักรพรรดิ แต่วันอื่นก็อาจเปลี่ยนเป็นคนอื่นเป็นจักรพรรดิได้ ตนเองจะยังสามารถเปลี่ยนเรื่องไม่ดีให้เป็นเรื่องดีได้หรือไม่?
ในเมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่ในดินแดนฉินตะวันตกแล้ว นางก็ต้องหาผู้หนุนหลังที่แข็งแกร่งให้ตนเอง!
“หลินเทียนเป็นหลานชายของข้า แม้ว่าจะมีความไม่สนิทใจต่อข้าอยู่บ้าง แต่ข้าก็ยังหวังให้เขาโชคดี!”
ไทเฮามองหลิงอวี๋ พลางเอ่ยถาม “ขาของเขาบาดเจ็บ ได้ยินว่าไปหาหมอหายารักษามาทั่วทุกที่แล้วก็ยังไม่เห็นผล เจ้ามีความรู้เรื่องการรักษา เหตุใดจึงไม่คิดวิธีช่วยรักษาขาของเขาให้หายดีเล่า? เช่นนี้ก็จะสามารถทำให้ความสัมพันธ์ของสามีภรรยาปรองดองกันได้แล้ว!”
หลิงอวี๋ใจเต้น เซียวหลินเทียนเป็นองค์ชาย อีกทั้งยังเป็นพ่อแท้ ๆ ของหลิงเยวี่ยด้วย
ความสัมพันธ์ขั้นนี้กับหลิงเยวี่ย นางก็คงไม่มีทางจะเป็นศัตรูกับเซียวหลินเทียนไปได้ทั้งชีวิตหรอก!
ในเมื่อเป็นศัตรูกันไม่ได้ ก็ทำได้เพียงเปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นมิตร!
คำแนะนำของไทเฮาสามารถเอาไปไตร่ตรองดูได้!
หากนางรักษาขาให้เซียวหลินเทียนจริง ๆ แล้วหากเซียวหลินเทียนรู้สึกซาบซึ้งใจขึ้นมา แม้ว่าในอนาคตนางจะหย่าร้างกับเซียวหลินเทียน เขาก็จะต้องเป็นคนคอยหนุนหลังให้นางได้แน่
นึกถึงที่ไทเฮาทำเพื่อตนเองจริง ๆ แล้ว สุดท้ายความโกรธเกลียดในใจของหลิงอวี๋ก็มลายไป นางเอ่ยอย่างจริงใจ
“หลิงอวี๋เข้าใจแล้วเพคะ! ขอบพระทัยไทเฮาที่ชี้แนะเพคะ!”
ไทเฮาเห็นว่าในที่สุดหลิงอวี๋ก็เข้าใจความขมขื่นในใจของตน จึงยิ้มอย่างพึงพอใจ ยกมือขึ้นพลางเอ่ย
“ซุ่ยเอ๋อร์ เอาของกำนัลในการได้พบกันที่ข้าจะให้เยวี่ยเยวี่ยมาสิ!”
ไป่ซุ่ยรีบส่งกล่องหนึ่งกล่องให้
พอเปิดออก พบว่าเป็นเครื่องประดับเงิน สร้อยคอ กุญแจ กำไลข้อมือต่าง ๆ ที่ประดิษฐ์อย่างสวยงาม
“นี่คือของขวัญหนึ่งร้อยวันที่ข้ามอบให้เยวี่ยเยวี่ย!”
“อาอวี๋ หากต้องการให้เยวี่ยเยวี่ยอยู่ในลำดับเชื้อพระวงศ์ จะต้องให้หลินเทียนออกหน้าด้วยตนเองนะ!”
“ไม่เช่นนั้นแม้ว่าข้าจะมีราชโองการไป หากหลินเทียนไม่ยอมรับ เยวี่ยเยวี่ยก็จะไม่มีทางเข้าสู่เชื้อพระวงศ์ได้!”
ไทเฮาเอ่ยอย่างจริงจัง “คนหนึ่งคนต่อให้มีความสามารถมากเพียงใด แต่ความสามารถก็มีขีดจำกัด! ข้าสามารถยกย่องเจ้าได้ แต่ข้าไม่สามารถช่วยให้เจ้าชนะใจผู้คนได้!”
“หากเจ้าอยากจะให้ชีวิตอยู่ในใต้หล้านี้อย่างมีความสุข เจ้าก็ยังต้องพึ่งพาตนเองอยู่!”
คำสอนของไทเฮาทำให้หลิงอวี๋รู้สึกเคารพอย่างสุดใจ นางทำความเคารพจากใจจริง
“ไทเฮา หลิงอวี๋เข้าใจแล้วเพคะ ขอบพระทัยไทเฮาที่สั่งสอน! หลิงอวี๋จะไม่มีทางทำให้ไทเฮาผิดหวังเป็นแน่เพคะ!”
หลิงอวี๋รับของขวัญด้วยสองมือ แล้วกวักมือให้หลิงเยวี่ยมาคำนับขอบพระทัยไทเฮา
จากนั้น ก่อนที่หลิงอวี๋จะนำออกไปก็อยากจะถวายยาบำรุงให้ไทเฮาด้วย จากนั้นก็พาหลิงเยวี่ยกลับเข้าไปในงานเลี้ยง
แม่นมเว่ยมองกล่องยาสองกล่องที่หลิงอวี๋มอบให้ แล้วแย้มยิ้มออกมา
“ไทเฮาเพคะ เด็กผู้นี้มีความคิดอยู่ในใจมากมายทีเดียว! หากพระองค์ไม่ทรงพบนางเป็นการส่วนตัว นางก็คงไม่มอบโอสถสองกล่องนี้ให้แล้ว!”
สายตาของไทเฮามองไปที่กล่องยาสองกล่อง จากนั้นก็แย้มยิ้ม พลางเอ่ยอย่างจนใจ
“เด็กผู้นี้เป็นคนฉลาด เมื่อก่อนเอาความฉลาดไปใช้ผิดที่! เวลานี้ไม่มีความสับสนใด ๆ แล้ว แต่นิสัยนี้ของนางก็ยังทำให้ผู้คนปวดหัวอยู่!”
“ข้าไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าอดีตเสนาบดีที่เป็นคนหยาบกระด้างถึงเพียงนั้น เหตุใดจึงเลี้ยงเด็กเจ้าเล่ห์ผู้นี้ได้!”
ไทเฮานึกถึงภาพที่อดีตเสนาบดีถูกบังคับให้คุกเข่า แล้วสีหน้าก็ค่อย ๆ เย็นชา
“วันนี้อาอวี๋ไม่มีที่นั่ง อีกทั้งของกำนัลที่นางถวายให้ข้าแตกได้อย่างไร ประเดี๋ยวเจ้าไปบอกให้ขันทีเซี่ยตรวจสอบให้ดีทีนะ!”
“ข้ายังไม่ตายนะ! พวกเขาก็กล้าทำให้แขกที่ข้าเชิญมาต้องลำบากใจเสียแล้ว!”
“ประเดี๋ยวบ่าวไปบอกขันทีเซี่ยให้เพคะ! คนเล่านี้ช่างขวัญกล้านัก! ควรที่จะต้องตรวจสอบให้ดี!”
แม่นมเว่ยนึกถึงเรื่องที่พระชายาผิงหยางกล่าวหาตนเองว่ารับสินบนจากหลิงอวี๋ ก็โกรธขึ้นมาเช่นกัน
พระชายาผิงหยางผู้นี้ วันนี้ทำมากเกินไปแล้ว!
หากไม่ใช่เพราะหลิงอวี๋ฉลาดพอ สามารถแก้ไขปัญหาได้ครั้งแล้วครั้งเล่า วันนี้ไทเฮาคงจะอับอายเป็นแน่!
เดิมทีเป็นเพราะอยากจะขอบคุณในบุญคุณที่หลิงอวี๋ช่วยชีวิตไว้จึงได้เชิญนางมาด้วยตนเอง แต่ผลกลับกลายเป็นงานฉลองที่ทำให้ผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตไว้ต้องลำบากใจเสียนี่!
หากเรื่องนี้เผยแพร่ออกไป ไทเฮาจะต้องอับอายขายหน้าเช่นกัน!
พระชายาผิงหยาง วันนี้ไม่เพียงแต่จะมาพูดจาให้ร้ายนาง ขันทีเซี่ยและราชองครักษ์ผางเท่านั้น แต่ยังได้ล่วงเกินกระทั่งไทเฮาไปโดยไม่รู้ตัวด้วย!
แม่นมเว่ยสามารถคาดการณ์จุดจบอันน่าเศร้าของพระชายาผิงหยางได้เลย...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
ลุ้นจะหนียังไง...
หงุดหงิด กับเด็กนรกก...
อ๋องอี้กับชิวเหวินซวงเหมาะสมกันมาก เหมือนผีเน่ากับโลงผุเลย คนนึงเป็นอ๋องใจบอด อีกคนมักใหญ่ใฝ่สูง เล่เหลี่ยมมากมาย...
ถ้านางเอกกับลูกยอมรับอ๋องอี้ในที่สุดคือไม่เข้าท่าเลยนะ...
จะได้เปิดโรงหมอแล้ว เย่ๆๆๆ...
อ๋องอี้ก็ยังโง่ให้คนอื่นจูงจมูกง่ายๆเหมือนเดิม...
ต่อให้ไม่ใช่ลูกเห็นเด็กเล็กโดนขนาดนั้นก็ต้องรู้สึกอะไรบ้างไหม แต่นี่คือจิตใจอำมหิตมากกกก...
ในที่สุดควสมจริงก็เปิดเผยสักที แล้วทุกคนจะรับผิดชอบที่รักแกเยวี่ยเยวี่ยกับหลิงอวี่อย่างไรล่ะ...
อ๋องอี้ก็เฮงซวย ฮ่องเต้ก็ถูกจูงจมูกง่ายๆ หวังว่านางเอกกับลูกจะรอด แล้วทำให้พ่อกับปู่รู้ว่าตัวเองชั่วช้าคิดฆ่าลูกกับหลานแท้ๆได้ลงคอ หรือยัยน้องกับลูกต้องถูกทรมานเจียนตายจนใกล้ตอนจบเลยหรือเปล่า ส่วนไทเฮานั้นถ้าน้องรอดชีวิตไปได้ก็อย่าได้พบหญิงชรานางนี้อีกเลย...
อ๋องอี้คือผัวสารเลวสุดแสนเฮงซวยที่สุดแล้ว ต่อไปข้างหน้า ถ้านางเอกมารักกับผัวเฮงซวยแทนที่จะเลิกรากันไปนี่คือ เธอช่างใจกว้างไปละ...