งานฉลองวันพระราชสมภพของไทเฮาสิ้นสุดลงแล้ว หลิงอวี๋ผ่านด่านนี้มาได้อย่างไม่มีอันตรายใด ๆ ทั้งยังได้เงินมาจำนวนมากด้วย คืนนี้จึงไปได้อย่างสบาย
วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋นอนหลับจนถึงมื้อเที่ยงแล้วถึงได้ตื่นเป็นประวัติการณ์เลย
หลิงซินเอาน้ำมาให้ล้างหน้า หลิงอวี๋เห็นรอยดำใต้ตาสองข้างของนางจึงเอ่ยถาม
“หลิงซิน เจ้าเป็นอะไรหรือ? เมื่อคืนไม่ได้นอนหรือไร?”
หลิงซินมองนางอย่างเศร้า ๆ จากนั้นก็หยิบตั๋วเงินจำนวนหนึ่งจากในอ้อมแขนของนางส่งให้หลิงอวี๋
นางเอ่ยด้วยใบหน้าขมขื่น “คุณหนู ตั๋วเงินเหล่านี้คุณหนูช่วยเก็บไว้ให้บ่าวเถิดเจ้าค่ะ! เมื่อคืนบ่าวเก็บตั๋วเงินเหล่านี้ไว้ไม่รู้ว่าจะเอาไปซ่อนตรงที่ใด! กระวนกระวายนอนไม่หลับทั้งคืนเลยเจ้าค่ะ!”
หลิงอวี๋ตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วถึงหัวเราะออกมา
นางรับตั๋วเงินห้าหมื่นจากเกิ่งเสี่ยวหาว แล้วให้เงินเดือนที่ค้างชำระให้แม่นมลี่กับหลิงซินคนละห้าร้อยตำลึง
เกิ่งเสี่ยวหาวเปิดบ่อนการพนัน นางจึงเอาห้าร้อยของทั้งสองคนไปลงเดิมพัน เงินห้าร้อยของทั้งสองคนในงานฉลองวันพระราชสมภพเมื่อคืนกลายเป็นเงินห้าหมื่น
เมื่อคืนกลับมา หลิงอวี๋บอกกับทั้งสองคน ทั้งสองตกใจจนตะลึงพรึงเพริดกันไปหมด
หลิงซินเคยเห็นเงินเยอะถึงเพียงนี้มาก่อน จึงมองหลิงอวี๋ตาค้าง
หลิงอวี๋เอาตั๋วเงินยัดใส่มือนาง นางก็ยังรู้สึกว่าตนกำลังฝันอยู่เลย
แม่นมลี่มองท่าทางนิ่งค้างของนาง แล้วก็หัวเราะอย่างหนัก แล้วก็อดไม่ได้ที่จะหยอกล้อนาง
“หลิงซิน ตอนนี้เจ้ามีเงินมากถึงเพียงนี้แล้ว นี่หากว่าวันใดแต่งงานไป นี่ก็จะเป็นสินสอดของเจ้า!”
“นี่มากเสียยิ่งกว่าสินสอดของคุณหนูตระกูลคนรวยในเมืองหลวงเหล่านั้นอีกนะ! เจ้าเก็บไว้ดี ๆ รอเจ้าออกเรือน แล้วให้คุณหนูช่วยซื้อบ้านหลังใหญ่ ๆ ให้เจ้า เจ้าก็จะนับว่าเป็นฮูหยินผู้ร่ำรวยแล้ว!”
“ถึงเวลานั้น ยังสามารถซื้อตัวบ่าวรับใช้มาปรนนิบัติเจ้าได้ด้วยนะ! หากว่าหลิงหลานกับหลิงผิงรู้เข้า รับรองเลยว่าพวกนางจะต้องโกรธแย่เลย!”
แม่นมลี่กำตั๋วเงินในมือไว้ รู้สึกภาคภูมิใจ
พวกที่ประจบใครตามฐานะสองคนนั้น คงจะโกรธแย่เลย!
วันนั้น เดิมทีหลิงอวี๋คิดว่าจะเพิ่มเงินเดือนให้พวกนางในฐานะที่เป็นคนรับใช้ของตำหนักอ๋องอี้ แต่คิด ๆ ดูแล้วก็ช่างเถิด
หลิงอวี๋พูดกับทั้งสองคน “เดิมทีคนทั่วไปไม่จำเป็นต้องมีเงินมากมาย หากมีจะกลายเป็นความผิด! หากข้าให้เงินพวกเจ้ามากมายถึงเพียงนั้นต่อหน้าทุกคน ก็ถือเป็นการให้พวกเจ้าได้มีหน้ามีตา!”
“แต่คนในตำหนักอ๋องอี้ไม่ว่าใครล้วนไม่ต้องการพบพวกเรา พวกเจ้าถือเงินไว้มากถึงเพียงนี้ จะทำให้ผู้คนอิจฉาเอาได้!”
แม่นมลี่พยักหน้าเห็นด้วย “คุณหนูพูดถูกเจ้าค่ะ พวกเรารู้ดีว่าอะไรเป็นอะไรก็พอแล้วเจ้าค่ะ! ไม่จำเป็นจะต้องไปหว่านความหายนะไว้เพื่อจะเล่นสนุกชั่วคราวหรอกเจ้าค่ะ!”
ห้าร้อยตำลึงนั้นแม่นมลี่ก็รู้สึกว่าเยอะมากแล้ว กระทั่งเห็นเงินห้าร้อยตำลึงของตนกลายเป็นห้าหมื่น แม่นมลี่ก็รู้สึกว่าต้นร้ายปลายดีแล้ว
พอคุณหนูไม่สับสน ชีวิตก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ !
แม่นมลี่กลัวว่า หลิงซินรับเงินแล้วจะเกิดความเห็นแก่ตัว จึงเตือน “หลิงซิน เรามีวันนี้ได้ ทั้งหมดต้องพึ่งคุณหนูนะ!"
“หลิงซิน เจ้าจะเลียนแบบหลิงหลานและหลิงผิงที่เนรคุณทรยศต่อเจ้านายมิได้นะ! การติดตามคุณหนู ชีวิตเรามีแต่จะดีขึ้นเรื่อย ๆ!”
หลิงซินคุกเข่าลงทันที แล้วคืนตั๋วเงินให้หลิงอวี๋ พลางเอ่ยอย่างจริงใจ “คุณหนู เงินนี่มากเกินไป บ่าวมิกล้ารับ บ่าวมีห้าร้อยตำลึงก็เพียงพอแล้ว!”
“คุณหนู รับคืนไปเถิดเจ้าค่ะ! ชีวิตนี้บ่าวไม่มีทางทรยศคุณหนู!”
หลิงอวี๋เห็นว่าเด็กสาวผู้นี้ไม่โลภเงิน ก็ยิ่งรู้สึกโล่งใจ จากนั้นก็ยัดตั๋วเงินกลับไปให้นาง
“หลิงซิน นี่เป็นของเจ้า มันควรเป็นของเจ้า! เจ้ารับไปเถิด!”
“แม่นมลี่พูดถูก การติดตามคุณหนู ต่อไปมีแต่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ เจ้าค่ะ!”
“ห้าหมื่นไม่นับว่าเป็นอะไรเลย! สักวันหนึ่ง อย่าว่าแต่พวกเจ้าจะซื้อบ้านแล้ว จะซื้อที่ดิน ร้านค้าก็ทำได้ จะได้ใช้ชีวิตแบบคนมีเงิน!”
ทั้งสองเชื่อมั่นในตัวหลิงอวี๋อย่างสุดใจ
หลิงซินมีตั๋วเงินอยู่ห้าหมื่น เมื่อนึกถึงว่าคุณหนูทำให้ตนเองกลายเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืน เธอก็เคารพศรัทธาหลิงอวี๋มาก
หลิงซินลอบสาบานในใจว่า ชีวิตนี้จะไม่มีทางทรยศหลิงอวี๋เป็นอันขาด
เมื่อเห็นว่าหลิงซินนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะตั๋วเงินเหล่านี้ หลิงอวี๋จึงช่วยเธอเก็บตั๋วเงินพร้อมด้วยเสียงหัวเราะ
นางเอ่ยอย่างมั่นใจ “หลิงซิน ข้าจะเอาเงินของเจ้าไปลงทุนค้าขาย! เจ้าไม่ต้องกังวล ห้าหมื่นของเจ้าจะกลายเป็นห้าแสนหรือมากกว่านั้นในตอนที่เจ้าแต่งงาน!”
หลิงซินหัวเราะอย่างโง่เขลา นางนึกไม่ออกเลยว่าเงินห้าแสนจะมากมายขนาดไหน ถึงอย่างไรก็ฟังแม่นมลี่แล้วกัน ติดตามคุณหนูต่อไป ไม่กลัวเลยว่าจะมีชีวิตที่ไม่ดี!
เมื่อเทียบกับหลิงหลานและหลิงผิงแล้ว หลิงซินรู้สึกว่าการมีเงินห้าหมื่นนั้นคุ้มค่าแล้วในชีวิตนี้!
นั่นคือเงินที่ตลอดชีวิตนี้พวกนางสองคนไม่มีทางหาได้เลย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
ลุ้นจะหนียังไง...
หงุดหงิด กับเด็กนรกก...
อ๋องอี้กับชิวเหวินซวงเหมาะสมกันมาก เหมือนผีเน่ากับโลงผุเลย คนนึงเป็นอ๋องใจบอด อีกคนมักใหญ่ใฝ่สูง เล่เหลี่ยมมากมาย...
ถ้านางเอกกับลูกยอมรับอ๋องอี้ในที่สุดคือไม่เข้าท่าเลยนะ...
จะได้เปิดโรงหมอแล้ว เย่ๆๆๆ...
อ๋องอี้ก็ยังโง่ให้คนอื่นจูงจมูกง่ายๆเหมือนเดิม...
ต่อให้ไม่ใช่ลูกเห็นเด็กเล็กโดนขนาดนั้นก็ต้องรู้สึกอะไรบ้างไหม แต่นี่คือจิตใจอำมหิตมากกกก...
ในที่สุดควสมจริงก็เปิดเผยสักที แล้วทุกคนจะรับผิดชอบที่รักแกเยวี่ยเยวี่ยกับหลิงอวี่อย่างไรล่ะ...
อ๋องอี้ก็เฮงซวย ฮ่องเต้ก็ถูกจูงจมูกง่ายๆ หวังว่านางเอกกับลูกจะรอด แล้วทำให้พ่อกับปู่รู้ว่าตัวเองชั่วช้าคิดฆ่าลูกกับหลานแท้ๆได้ลงคอ หรือยัยน้องกับลูกต้องถูกทรมานเจียนตายจนใกล้ตอนจบเลยหรือเปล่า ส่วนไทเฮานั้นถ้าน้องรอดชีวิตไปได้ก็อย่าได้พบหญิงชรานางนี้อีกเลย...
อ๋องอี้คือผัวสารเลวสุดแสนเฮงซวยที่สุดแล้ว ต่อไปข้างหน้า ถ้านางเอกมารักกับผัวเฮงซวยแทนที่จะเลิกรากันไปนี่คือ เธอช่างใจกว้างไปละ...