“ท่านอ๋อง… พระชายาบอกว่ามีเรื่องมาขอพบพ่ะย่ะค่ะ!”
ลู่หนานลังเลอยู่นาน แล้วสุดท้ายก็เข้าไปรายงาน
“ไม่พบ!” เซียวหลินเทียนตอบอย่างเย็นชา
“ไม่พบ? แต่หม่อมฉันเข้ามาแล้ว! ท่านไม่พบก็ทำได้แค่ต้องพบแล้วล่ะ!”
เสียงของหลิงอวี๋ดังเข้ามา เซียวหลินเทียนหันไปมองอย่างรังเกียจ แล้วก็พบว่าหลิงอวี๋เดินเข้ามาแล้ว
“เรือนนี้ไม่เลวเลย! ดอกไม้ต้นไม้ก็ได้รับการดูแลอย่างดี!”
หลิงอวี๋เดินไปก็มองรอบ ๆ ไปด้วย
เรือนหลักที่เซียวหลินเทียนอาศัยอยู่มีขนาดประมาณสิบหว่าห้อง มีการทำความสะอาดอย่างดี ทางเดินแกะสลักได้มีการทาสีใหม่มาแล้ว
“สมกับที่เป็นเรือนหลัก ดูสะอาดและมีราศี ดูแล้วเจริญหูเจริญตา! หลิงซิน เจ้าว่าเราย้ายมาอยู่ที่นี่เลยเป็นเยี่ยงไร?”
หลิงซินยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน ไม่กล้าพูด
ท่านอ๋องไม่ปรารถนาจะพบคุณหนู คุณหนูไม่รู้หรือ?
เรื่องที่จะมาอยู่เรือนหลัก ไหนเลยนางจะกล้าคิด!
“เซียวหลินเทียน เรือนบุหงาทรุดโทรมเกินไปแล้ว! หม่อมฉันอยากจะย้ายเรือนอาศัย ได้หรือไม่?”
หลิงอวี๋เอ่ยถามยิ้ม ๆ
เซียวหลินเทียนมองนางอย่างเฉยเมย พลางเอ่ยลอดไรฟันออกมา “ไม่ได้!”
“อ๋อ เช่นนั้นหม่อมฉันอยากจะซ่อมแซมเรือนบุหงาใหม่เสียหน่อย สวนดอกไม้ด้านหลังก็อยากจะสร้างเรือนใหม่เล็กน้อย ได้หรือไม่?”
หลิงอวี๋ถามอย่างอดทน
“ไม่ได้!”
เซียวหลินเทียนปฏิเสธไม่โดยไม่แม้แต่จะคิด
หลิงอวี๋ก็ยิ้มเลย “เซียวหลินเทียน ท่านเคยไปเรือนบุหงาหรือไม่? ท่านรู้หรือไม่ว่าเรือบุหงาทรุดโทรมจนฝนรั่วได้?”
“ท่านให้พวกหม่อมฉันไปอยู่ที่เรือนบุหงา หม่อมฉันก็ไม่บ่นสักคำ! หม่อมฉันจะออกเงินซ่อมแซมเองแล้วท่านมีสิทธิ์อะไรมาไม่เห็นด้วย?”
“เซียวหลินเทียน ท่านไม่ยอมรับว่าหม่อมฉันคือพระชายา หม่อมฉันก็ไม่บ่น!”
“แต่หลิงเยวี่ยเป็นลูกชายแท้ ๆ ของท่าน! ท่านจะปฏิบัติต่อเขาอย่างโหดร้ายเช่นนี้หรือ?”
หากหลิงอวี๋ไม่เอ่ยถึงเรื่องของหลิงเยวี่ย เซียวหลินเทียนก็ไม่ว่าอะไร แต่พอเอ่ยขึ้นมา เขาก็นึกถึงสิ่งที่ชิวเหวินซวงบอกกับตน
ไฟแห่งความโกรธปะทุขึ้นมาทันที เขาตะคอก
“หุบปาก... หลิงอวี๋ อย่าคิดว่าเรื่องที่หยดเลือดพิสูจน์สายเลือดนั่นข้าไม่รู้ว่าเจ้าทำอะไรลงไปนะ!”
“ลูกชู้นั่นไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของข้า เป็นเจ้าต่างหาก ที่ใช้ยาพิเศษมาโกง!”
“ข้ารู้หมดทุกอย่างแล้ว เจ้ายังคิดจะโกหกข้าอีกหรือ?”
หลิงอวี๋ตะลึงไปเล็กน้อย นึกขึ้นได้ว่าในตำหนักยังมีชิวเหวินซวงที่คิดไม่ซื่ออยู่ ก็รู้เลยว่าชิวเหวินซวงพูดใส่ไฟตนต่อหน้าเซียวหลินเทียนอีกแล้ว
นางยิ้มเย็นชาพลางเอ่ย “บอกว่าข้าโกง? มีหลักฐานหรือไม่? การที่ข้าหยดเลือดพิสูจน์สายเหลือต่อหน้าเหล่าพลเรือนและทหารนั้นหากมันไม่แม่นยำ เช่นนั้นท่านก็บอกหม่อมฉันมาว่าต้องทำเยี่ยงไรถึงจะนับว่าเป็นเรื่องจริง?”
“เซียวหลินเทียน ท่านไม่เคยพบคนเยี่ยงท่านมาก่อนเลย!”
“คนอื่นต่างกังวลว่าตนจะถูกสวมเขา! ส่วนท่านล่ะ ท่านกลับรอไม่ไหวที่จะเอาเขามาสวมให้ตนเอง!”
“เห็น ๆ กันอยู่ว่าเยวี่ยเยวี่ยเป็นบุตรชายของท่าน แต่ท่านกลับเชื่อคำพูดของคนอื่น แล้วไปสงสัยในตัวเขา!”
“ได้ ท่านไม่ยอมรับไม่เป็นไร ถึงอย่างไรเขามีหม่อมฉันเป็นมารดาคนเดียวที่รักเขาก็เพียงพอแล้ว!”
“เซียวหลินเทียน สักวันหนึ่ง ท่านจะต้องชดใช้ในการฟังความข้างเดียวของท่าน!”
หลิงอวี๋ด่าจบแล้ว เดิมทีคิดจะหันหลังเดินออกไป แต่พอนึกถึงคำพูดของไทเฮา ก็อดทนไว้
นางหายใจเข้าลึก ๆ บอกตัวเองว่า วันนี้นางไม่ได้มาทะเลาะ แต่มาเปลี่ยนศัตรูเป็นมิตร
อย่าได้เป็นเหมือนที่เจอกับเซียวหลินเทียนทุกครั้ง!
หลิงอวี๋กดความโกรธของตนเอง แล้วถึงได้เอ่ยอย่างสงบ
“เซียวหลินเทียน หม่อมฉันไม่ได้มาทะเลาะ! เกี่ยวกับเรื่องตัวตนของหลิงเยวี่ย ตอนนี้หม่อมฉันพูดอะไรไปท่านก็มีแต่จะคิดว่าหม่อมฉันเถียงข้าง ๆ คู ๆ เช่นนั้นเราต่างคนต่างถอยคนละก้าวเป็นเยี่ยงไร?”
“ท่านไปสืบหาดูได้ ไปคิดหาวิธีมาพิสูจน์ว่าเยวี่ยเยวี่ยใช่บุตรของท่านจริงหรือไม่!”
“แต่ในตอนที่ยังไม่ได้พิสูจน์ ท่านอย่าได้ทำเรื่องที่ทำร้ายเยวี่ยเยวี่ย! เพื่อเลี่ยงที่ตัวท่านเองจะเสียใจไปตลอดชีวิต!”
หลิงอวี๋เอ่ยอย่างใจเย็น “หม่อมฉันจะยืนยันคำเดิม ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ! หม่อมฉันไม่กลัวว่าท่านจะสืบหาหรอก เพราะว่าหม่อมฉันไม่มีสิ่งใดให้ละอาย!”
เซียวหลินเทียนจ้องหลิงอวี๋ เห็นว่านางอารมณ์เย็นลง ก็ใจเต้น แล้วเอ่ยอย่างเย็นชา “ข้าไปสืบหาดูแน่!”
“เจ้ามาในวันนี้ก็เพื่อเรื่องนี้ใช่หรือไม่?”
“แน่นอนว่าไม่เพียงแค่เรื่องนี้...”
หลิงอวี๋เงียบไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ย “ลู่หนาน หลิงซิน พวกเจ้าออกไปก่อน ข้ามีธุระจะคุยกับท่านอ๋อง!”
“เจ้าค่ะ คุณหนู!” หลิงซินถอยออกไปก่อนอย่างรู้งาน
ลู่หนานมองเซียวหลินเทียน เซียวหลินเทียนลังเลครู่หนึ่งแล้วจึงพยักหน้าเบา ๆ
หลิงอวี๋เคยได้รู้แล้วว่า ร่างกายส่วนล่างของเซียวหลินเทียนไม่มีความรู้สึก เส้นเลือดอุดตัน หากจะรักษาขาทั้งสองข้างของเขาจะต้องใช้เวลานานมาก
กระทั่งลู่หนานเดินออกไป หลิงอวี๋จึงพูดไปตรง ๆ
“เซียวหลินเทียน ท่านไม่เคยคิดหรือว่า การที่ขาทั้งสองข้างของท่านไม่สามารถเดินได้นั้น จะส่งผลต่อปัญหาการสืบทอดทายาทหรือไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
ลุ้นจะหนียังไง...
หงุดหงิด กับเด็กนรกก...
อ๋องอี้กับชิวเหวินซวงเหมาะสมกันมาก เหมือนผีเน่ากับโลงผุเลย คนนึงเป็นอ๋องใจบอด อีกคนมักใหญ่ใฝ่สูง เล่เหลี่ยมมากมาย...
ถ้านางเอกกับลูกยอมรับอ๋องอี้ในที่สุดคือไม่เข้าท่าเลยนะ...
จะได้เปิดโรงหมอแล้ว เย่ๆๆๆ...
อ๋องอี้ก็ยังโง่ให้คนอื่นจูงจมูกง่ายๆเหมือนเดิม...
ต่อให้ไม่ใช่ลูกเห็นเด็กเล็กโดนขนาดนั้นก็ต้องรู้สึกอะไรบ้างไหม แต่นี่คือจิตใจอำมหิตมากกกก...
ในที่สุดควสมจริงก็เปิดเผยสักที แล้วทุกคนจะรับผิดชอบที่รักแกเยวี่ยเยวี่ยกับหลิงอวี่อย่างไรล่ะ...
อ๋องอี้ก็เฮงซวย ฮ่องเต้ก็ถูกจูงจมูกง่ายๆ หวังว่านางเอกกับลูกจะรอด แล้วทำให้พ่อกับปู่รู้ว่าตัวเองชั่วช้าคิดฆ่าลูกกับหลานแท้ๆได้ลงคอ หรือยัยน้องกับลูกต้องถูกทรมานเจียนตายจนใกล้ตอนจบเลยหรือเปล่า ส่วนไทเฮานั้นถ้าน้องรอดชีวิตไปได้ก็อย่าได้พบหญิงชรานางนี้อีกเลย...
อ๋องอี้คือผัวสารเลวสุดแสนเฮงซวยที่สุดแล้ว ต่อไปข้างหน้า ถ้านางเอกมารักกับผัวเฮงซวยแทนที่จะเลิกรากันไปนี่คือ เธอช่างใจกว้างไปละ...