ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 134

แม่ทัพเฉินหยุดฝีเท้า หมายเอี้ยวตัวต่อว่าอย่างขุ่นเคือง

“นักต้มตุ๋นร่อนเร่จากไหนอีก ไล่นางไปเสีย!”

“หมอหลวงในวังต่างสิ้นวิธี นางสตรีอ่อนแอผู้เดียวขวัญกล้าอ้างว่ามีวิธีรักษาท่านแม่ข้า!”

“ต้มสามัญชนพวกนั้นก็แล้วไป! คาดไม่ถึงว่าจะมาต้มถึงหน้าประตูตระกูลเฉิน!”

คนเฝ้าประตูคลี่ยิ้มให้ “นายท่านขอรับ บ่าวก็ต่อว่านางเช่นนี้ แต่นางพูดว่าหมอหลวงในวังไม่มีวิธี ไม่ได้บ่งบอกว่านางไม่มีวิธี!”

“นายท่าน แม่นางหลิงอาจจะเป็นคนมีฝีมือจริง ๆ ก็ได้นะขอรับ นางไม่ได้ตรวจชีพจรบ่าวก็เอ่ยขึ้นว่าบ่าวมีโรคข้อเสื่อม เป็นตอนวัยแรกรุ่นร่วงลงถ้ำน้ำแข็ง!”

“นายท่าน อย่างไรให้นางเข้ามาลองตรวจสักหน่อยก็ไม่เสียหายอันใด หากนางรักษาฮูหยินใหญ่ได้ นั่นคือวาสนาของฮูหยินใหญ่ขอรับ!”

“ถ้ารักษาไม่ได้ค่อยไล่ไปก็ได้แล้วขอรับ!”

เฉินเจียวฟังแล้วใจสั่นไหวพลางกล่าวว่า “ท่านพ่อ มิใช่ว่าท่านย่าเอ่ยบ่อย ๆ หรือว่ามีคนเก่งมากนักในหมู่คนสามัญ? บางทีแม่นางหลิงอาจเร้นศักยภาพไว้ก็เป็นได้นะเจ้าคะ!”

“หวังป๋อพูดถูก ให้นางเข้ามาลองตรวจก็ไม่ได้เสียหายอะไร บางทีอาจช่วยท่านย่าได้จริงก็ได้!”

แม่ทัพเฉินนึกถึงอิริยาเจ็บปวดของมารดา ที่สุดแล้วใจทนไม่ไหวเพียงมีความหวังริบหรี่ก็ไม่ควรละทิ้ง

“ไปเชิญนางเข้ามาเถอะ!”

หวังป๋อวิ่งรุดออกไป ชั่วครู่ก็พาสตรีสวมผ้าคลุมหน้านางหนึ่งเข้ามา

แม่ทัพเฉินมองสตรีที่แต่งตัวเป็นหญิงออกเรือนแล้ว สวมชุดกระโปรงเนื้อผ้าประณีต ไม่เหมือนคนท้องถิ่นผ่านทางมา

เขาสังเกตแม่นางหลิงอย่างพินิจสักพักพลางกล่าวคำ “เจ้าเสนอตัวถึงประตูเพื่อตรวจอาการป่วยท่านแม่ข้า ต้องการอะไร?”

หลิงอวี๋คือแม่นางหลิงเสนอตัวมาเอง นางยิ้มอ่อนกล่าวคำ

“แม่ทัพเฉินเป็นผู้ปราดเปรื่องนัก! พวกเราจะไม่พูดเหลวไหลกับคนฉลาด!”

“ข้ามีคำขอร้อง แน่นอนว่าคือคำขอที่แม่ทัพเฉินจัดการได้และมิใช่เรื่องก่อกรรมทำชั่ว!”

“พวกเราไปดูผู้ป่วยก่อนเถิด! ถ้าข้ารักษาไม่ได้ นั่นก็เป็นคำพูดเลื่อนลอย!”

แม่ทัพเฉินคือคนในวงการข้าราชการมีชีวิตขึ้น ๆ ลง ๆ มาหลายปีแล้ว

จากคำพูดแค่สองสามคำนี้ ก็ฟังออกถึงวัตถุประสงค์การมาของแม่นางหลิงแล้ว และคำขอของนางชัดเจนว่าเรื่องที่ให้ตนจัดการมิใช่การก่อกรรมทำชั่ว!

เท่านี้ก็พอแล้ว!

“แม่นางหลิง เชิญ!”

แม่ทัพหลิงอยู่หน้านำทาง พาหลิงอวี๋เข้าห้องนอนมารดา

หลิงอวี่ยังไม่ทันเข้าห้องพลันได้ยินเสียงครวญครางเจ็บปวดอู้อี้

นางสัมผัสได้ว่าท่านย่าเฉินอัดอั้นลมปราณไว้ที่เอวและหน้าท้อง ปราณนี้ทรมานนางจนเจ็บปวดจนปรารถนาสิ้นใจ ทำให้ไม่อาจเดินได้

นางยิ่งมั่นใจว่าจะรักษาท่านย่อเฉินหาย พลางเดินตามแม่ทัพเฉินเข้าห้องอย่างมาดมั่น

“ท่านแม่ ข้าเชิญหมอหญิงมาช่วยตรวจอาการป่วยท่านขอรับ!”

แม่ทัพเฉินเข้าไปแล้วพบว่า มารดาอดกลั้นเสียงครวญครางอยู่บนหมอนอย่างหดหู่ เกศาขาวทั่วศีรษะกระจายเหนือหมอน ก็ตึงเครียดไปทั้งหัวใจ

ท่านแม่ไม่อยากให้พวกเขาได้ยินเสียงเจ็บปวดทรมานของนางเลยทำเช่นนี้

“ลูกเอ๋ย อย่าสิ้นเปลืองเงินนั้นเลย แม่ป่วยไม่มีทางรักษาได้! เจ้าปล่อยให้แม่ตายเถอะ! แม่ไม่อยากทรมานอีกแล้ว!”

ท่านย่าเฉินกำลังฝืนทนความเจ็บ ยกศีรษะจากหมอนพลางส่ายหน้าต่อแม่ทัพเฉิน

แม่ทัพเฉินยังไม่ทันเอ่ย หลิงอวี๋พลันยิ้มก้าวไปข้างหน้า

“ฮูหยินใหญ่ นี่พูดอะไรอยู่! บุตรชายกับหลานสาวของท่านกตัญญูรู้คุณเช่นนี้ จะหักใจตายได้อย่างไร!”

“มาเถอะ ให้ข้าลองดูหน่อย ข้าขอรับรองเลยว่าจะสามารถเดินได้เร็ว ๆ นี้!”

ท่านย่าเฉินกับแม่ทัพเฉินต่างคิดว่าหลิงอวี๋กำลังคุยโว ไฉนจะนึกว่าหลิงอวี๋นั่งหน้าเตียง ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็เลิกเสื้อผ้าด้านหลังท่านย่าเฉินขึ้น

นางเปิดห่อยาที่ตนพกมาพลางหยิบเข็มเงินสามเล่มออก

“ช้าก่อน แม่นางหลิง เจ้ารู้หรือว่าท่านแม่ข้าป่วยเป็นอะไร?”

แม่ทัพเฉินรีบห้ามปรามลุกลน แม่นางหลิงผู้นี้ยังไม่ทันตรวจชีพจรก็ด่วนรักษาทันที ทำให้แม่ทัพเฉินสงสัยว่านางคือหมอหรือไม่ใช่กันแน่

“จะใช้คนก็อย่าระแวง หากระแวงคนก็อย่าใช้ แม่ทัพเฉินวางใจเถิด สามเข็มนี้ของข้าฝังลงแล้วถ้าฮูหยินใหญ่เดินไม่ได้ เจ้าฆ่าข้าก็ย่อมได้!”

ขณะหลิงอวี๋กล่าวคำ สามเข็มเงินก็ฝังลงช่วงเอวฮูหยินใหญ่เร็วพลัน

แม่ทัพเฉินและเฉินเจียวที่ตามมาเดิมทีห้ามปรามไม่ทันการ ทำเพียงถลึงตามองแม่นางหลิงที่คิดเองเออเองอย่างเดือดดาล

“จะ… เจ้า...”

แม่ทัพเฉินได้สติกลับมา ขึ้งโกรธชี้ที่หลิงอวี๋จนไม่รู้ว่าควรด่าเช่นไร...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา