การปรับเปลี่ยนแก้ไขยกชุดทำให้ผู้ดูแลและหัวหน้าภายในวังล้วนมิกล้าทำงานลวก ๆ กันอีก และล้วนแต่ทำงานที่ตนควรทำให้ดีอย่างระมัดระวัง
สำหรับเหตุเพลิงไหม้ที่ห้องโถงที่ตั้งพระบรมศพ หลิงอวี๋ก็ได้ตัดหัวผู้ดูแลรับผิดชอบห้องโถงที่ตั้งศพไปแล้ว และได้ทำการแต่งตั้งแม่นมที่แก่ประสบการณ์และมีความละเอียดรอบคอบขึ้นมาเป็นผู้ดูแลใหม่
ส่วนองครักษ์ทั้งสองและฉีเต๋อที่ได้คุ้มกันเซียวเยวี่ยไปส่งที่ตำหนักเหยียนฝูของไทเฮานั้น ล้วนได้เบี้ยหวัดเพิ่มกันเป็นรางวัลทั้งหมด
และเนื่องจากองครักษ์ทั้งสองได้ทำหน้าที่อย่างตั้งใจแล้ว เซียวหลินเทียนจึงตั้งใจให้ทั้งสองคนได้เป็นองครักษ์ส่วนตัวของเซียวเยวี่ย
หลังจากเกิดเรื่องแล้วทั้งสามคนถึงได้รู้ว่า ตนเกือบจะเข้าไปพัวพันในคดีลอบสังหารองค์จักรพรรดิแล้ว แต่เพราะว่าการทำหน้าที่อย่างตั้งใจของตน จึงป้องกันนายน้อยจากการถูกคนวางแผนจัดการได้
หลังจากเกิดเหตุในครั้งนี้ ทั้งสามคนก็ยิ่งใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของเซียวเยวี่ยมากขึ้นอีก เมื่อรู้สึกว่าที่ใดเป็นสถานที่อันตรายก็จะมิยอมให้เซียวเยวี่ยย่างกรายเข้าไปเป็นอันขาด
เซียวเยวี่ยก็ถูกแม่นมลี่อธิบายเรื่องความสัมพันธ์เรื่องส่วนได้ส่วนเสียให้ฟัง และมีความเข้าใจที่มากขึ้นถึงเรื่องที่คำพูดและการกระทำที่มีต่อตนนั้นสามารถส่งผลกระทบต่อหลิงอวี๋ได้ เขาที่อายุน้อย ๆ ก็ต้องเริ่มเรียนรู้วรยุทธแล้ว
เมื่อแต่ละฝ่ายร่วมมือกันเช่นนี้ ช่วงเวลาการเฝ้าพระบรมศพที่เหลืออยู่ก็มิเกิดปัญหาใด ๆ อีก
พิธีศพของจ้าวเจินเจินที่เกิดขึ้นก่อนพระราชพิธีพระบรมของจักรพรรดิอู่อันไม่มีค่าพอให้พูดถึงอย่างชัดเจน พิธีศพที่ทางตำหนักองค์ชายคังจัดให้นางดูเรียบง่ายและเป็นงานหยาบที่ไม่มีผู้ใดสนใจเลย
ในวันที่เคลื่อนศพ นอกจากคนตระกูลจ้าวและพวกขุนนางกับภรรยาที่เป็นพรรคพวกขององค์ชายคังมิกี่คนแล้วก็ไม่มีผู้ใดมาอีก
ฮูหยินจ้าวเสียใจจนหมดอาลัยตายอยากและล้มป่วยนอนซมอยู่บนเตียง
แม้ว่าเซียวหลินเทียนจะโกรธแค้นจ้าวฮุยที่สั่งให้ตนมาลอบสังหารตน แต่ก็ไม่มีหลักฐาน กอปรกับที่มองจากภายนอกแล้ว จ้าวเจินเจินก็ถูกตนลากมาเดือดร้อนด้วยจริง ๆ จึงได้ตายด้วยเงื้อมมือของมือสังหารเช่นนี้
เขาในฐานะจักรพรรดิก็มิอาจจะเมินเฉยมิแสดงสิ่งใดได้ จึงส่งขันทีเซี่ยไปเป็นตัวแทนของตนในการส่งจ้าวเจินเจิน
สำหรับเรื่องที่องค์ชายคังต้องสูญเสียพระชายาคังไป เซียวหลินเทียนก็ได้ทำการชดเชยด้วยทรัพย์สินจำนวนหนึ่ง
การเฝ้าพระบรมศพเจ็ดวันผ่านไป จักรพรรดิสูงสุดก็ได้ถูกทำการตกแต่งพระบรมศพแล้ว รอเพียงการเอาพระบรมศพลงหีบพระบรมศพเท่านั้น
ก่อนหน้าที่จะมีการแต่งพระบรมศพ ไทเฮาจงใจเรียกหลี่ว์เซียงกับอัครเสนาบดีจ้าวมาแล้วซักถามทั้งสองคนถึงความคืบหน้าของสาเหตุการเสด็จสวรรคตของจักรพรรดิอู่อัน
แม้ว่าจ้าวฮุยจะอยากใส่ร้ายหลิงอวี๋ แต่เขาได้หาหมอหลวงที่มีทักษะการแพทย์ระดับสูงหลายคนมาทำการตรวจพระบรมศพของจักรพรรดิอู่อันแล้วแต่ก็มิพบร่องรอยของการถูกยาพิษเลย
เมื่อไม่มีหลักฐานก็จะเป็นการกล่าวหาอันเป็นเท็จ แล้วผลที่ตามมาก็มิใช่สิ่งที่จ้าวฮุยจะสามารถรับได้
สุดท้ายแล้ว จ้าวฮุยจึงทำได้เพียงยอมรับด้วยความโกรธว่า จักรพรรดิอู่อันเสด็จสวรรคตด้วยพระอาการพระ ใจวายเฉียบพลัน
ในตอนที่หีบพระศพผ่านไป ราษฎรต่างพากันคุกเข่าลงคำนับ และส่งองค์จักรพรรดิอู่อันเข้าไปยังสุสานท่ามกลางสายลมที่หนาวเหน็บ
แต่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นเลยว่า ที่เนินเขาหนึ่งนอกประตูเมืองมีสตรีสองคนที่สวมเสื้อคลุมสีขาวยืนอยู่ที่บนเนินเขานั้น
ชุดสีขาวกลมกลืนไปกับหิมะที่อยู่รายรอบจนดูเหมือนว่าท้องฟ้าและพื้นดินผสานเข้าด้วยกันแล้ว
สตรีร่างสูงคลุมเสื้อคลุมจนปิดบังใบหน้าส่วนใหญ่ของนางไปทั้งหมด เหลือให้เห็นแค่เพียงดวงตาที่สว่างไสวคู่หนึ่งเท่านั้น
นางมองไปที่ขบวนส่งศพที่ทอดยาวนั้นด้วยสายตาเมินเฉย
หลิงอวี๋ แท้จริงแล้วนางเป็นคนอย่างไรกันแน่?
สตรีนางนั้นขมวดคิ้วเล็กน้อย นางยังคงมีเรื่องสำคัญอีกมากที่ต้องไปทำ จู่ ๆ ก็ถูกท่านพ่อเรียกตัวกลับมาเช่นนี้ทำให้นางมิพอใจอย่างมาก
และหลิงอวี๋ผู้นี้ก็คือผู้ร้าย!
นางจะต้องจัดการกับหลิงอวี๋โดยเร็วที่สุดแล้วจึงจะสามารถไปจากที่นี่ได้...

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
สนุกมาค่ะ มาต่ออีก...
รอ...
นางเอกโดนแผนร้ายไล่ล่าเจ็บตัวจะตายอ่า200+ตอน สุดท้ายจบครึ่งตอน คนร้ายบอกเข้าใจผิด นิยายฟวยไรอ่ะปัญญาอ่อนทั้งเรื่อง...
waitinggg for youuuuuuu...
ความลับยังไม่ได้เปิดเผยเลยค่ะ...
จบแบบนี้ไม่ได้นะคะ...
กลับมาได้เเล้ว...
ขอบคุณนะที่ลงเพิ่ม กำลังสนุกมาก...
คนเขียนกลับมาก๊อนนนน🥹 ทางนี่ใจจะขาดแล้วฮะ...
รอสนุกมาก...