เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 1421

สำหรับเด็กที่อายุสิบปีขึ้นไป หลิงอวี๋ยังจัดตั้งวิชาทักษะให้เป็นพิเศษด้วย

เด็กที่มาจากตระกูลยากจน จะมีผู้ใดที่เป็นดั่งคุณหนูและคุณชายตระกูลร่ำรวยเหล่านั้นในเมืองหลวงที่เล่นดนตรี หมากล้อม อักษรศิลป์และการวาดภาพอยู่ทุกวัน และโอดครวญโดยที่มิได้เจ็บป่วยใด ๆ

หากมีคนที่มีทักษะที่สามารถเลี้ยงชีพได้ หลิงอวี๋ก็รู้สึกว่าจะเป็นการช่วยเหลือพวกเขาได้ดีที่สุด

วิชาทักษะเหล่านี้ครอบคลุมไปด้วยงานฝีมือ การผลิตและวิชาการแพทย์เป็นต้น และจะแบ่งห้องเรียนตามความสนใจของพวกเด็ก ๆ

วิชาทักษะเหล่านี้มิเพียงแต่เปิดสอนแต่เด็กผู้หญิงเท่านั้น หออักษรของเด็กผู้ชายก็มีการส่งเสริมเช่นกัน

เมื่อเป็นเช่นนี้ ครูที่ต้องการจึงมีหลากหลายด้าน หลิงอวี๋จึงได้ทำการตรวจสอบคุณสมบัติของครูที่ได้รับการแนะนำมาทีละคน

การศึกษาเป็นรากฐานของแคว้น หลิงอวี๋มิอยากให้ครูที่คุณธรรมจริยธรรมมิดีมาสอนสิ่งที่มิดีให้ศิษย์

ครูบุรุษหาได้ง่าย แต่ครูสตรีจะหายากสักหน่อย

สตรีจำนวนมากล้วนมีทัศนคติแบบดูเชิงไปก่อน พวกนางได้รับการศึกษาแบบดั้งเดิมจึงรู้สึกว่าการแสดงตัวต่อสังคมมิดี

ครูที่ได้เรียกตัวมานอกจากจะเป็นครูในด้านดนตรี หมากล้อม อักษรศิลป์และการวาดภาพแล้ว ครูในวิชาทักษะก็มีเพียงแม่นางเหมยจากเรือนหยกอำไพเท่านั้นที่มาสอนในเรื่องการเย็บปักถักร้อย

หลิงอวี๋เพิ่มเบี้ยหวัดขึ้นแล้วก็มิอาจโน้มน้าวสตรีที่คอยดูเชิงเหล่านั้นได้

หลิงอวี๋คิดวิธีการมิออก สุดท้ายเมื่อเห็นขุนนางสตรีของสถานการกุศล หลิงอวี๋ก็ใจเต้นขึ้นมา

ยามนี้สตรีที่เป็นขุนนางเป็นสิ่งล้ำค่าและหายากยิ่ง แม้ว่าขุนนางสตรีผู้เป็นหัวหน้าในวังจะมีคุณสมบัติดี แต่ก็ล้วนอยู่ต่ำกว่าระดับหก ต่อให้ทำดีแค่ไหนก็มิอาจเลื้อนขึ้นไปได้อีกตลอดชีวิต

อีกทั้งเบี้ยหวัดที่ได้รับก็ต่างกันกับขุนนางที่เป็นบุรุษในระดับเดียวกันอีก

หากได้ขึ้นอยู่ในระดับสูงแต่มิได้ผลประโยชน์ที่คุ้มค่าก็ไม่มีแรงจูงใจ

ในสายตาของหลิงอวี๋ การทำงานไม่มีการแบ่งแยกสูงต่ำ ในเมื่อต่างก็ทุ่มเทแรงกายแรงใจทำงาน แต่เหตุใดจึงมิได้รับค่าตอบแทนเท่ากับคนที่ทำงานในระดับเดียวกัน

สามารถต่อสู้ให้เลื่อนขั้นได้ถึงระดับสี่และรับค่าตอบแทนที่เท่ากันกับตำแหน่งเดียวกันมาให้สตรีได้ก็เป็นความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว

หลิงอวี๋เองก็มิได้ยืนกรานที่จะให้ครูที่เป็นสตรีเป็นขุนนางสตรี เมื่อได้รับการเลือกเข้าทำงานแล้วก็เป็นขุนนางระดับแปด ได้รับค่าตอบแทนของขุนนางระดับแปด เมื่อถึงเวลาสิ้นปีก็มีการประเมินและได้รับการเลื่อนขั้นได้เหมือนขุนนางบุรุษ

แม้ว่าหลิงอวี๋จะถอยให้หนึ่งก้าวแล้ว แต่หลังจากวันที่สิบห้าเมื่อเซียวหลินเทียนได้ขึ้นว่าราชกิจวันแรก ได้หยิบยกเรื่องบุรุษสตรีที่อยู่ในตำแหน่งเดียวกันจะได้รับค่าตอบแทนเท่ากันและขุนนางสตรีจะเลื่อนขั้นได้ถึงระดับสี่ขึ้นมาหารือ ก็ยังถูกเหล่าขุนนางคัดค้าน

จ้าวฮุยเอ่ยขึ้นมาก่อน “ฝ่าบาท นับแต่โบราณมาขุนนางสตรีจะอยู่ระดับหกลงไป ประวัติศาสตร์ดำเนินมานับร้อยปีแล้ว ฝ่าบาทมิสามารถเปลี่ยนแปลงกฎให้พวกนางเลื่อนตำแหน่งได้ตามพระทัยพ่ะย่ะค่ะ!”

ใต้เท้าหลี่ซึ่งเป็นพวกของจ้าวฮุยเองก็เอ่ยขึ้นมาอย่างมีเหตุผล “ความสามารถของสตรีมีจำกัด หน้าที่รับผิดชอบของพวกนางก็คือการร่วมมือกับสามีคอยสั่งสอนลูกและจัดดูแลบ้านเล็กบ้านน้อย!”

“ฝ่าบาทจะให้พวกนางได้รับเบี้ยหวัดตามตำแหน่งที่เท่าเทียมกันกับพวกเรา สิ่งนี้จะกระตุ้นความทะเยอทะยานของพวกนางให้อยู่มิติดบ้านพ่ะย่ะค่ะ! ทำเช่นนี้มิได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ!”

ขุนนางระดับสี่เหล่านั้นนึกถึงว่า ในภายภาคหน้าสตรีจะได้เลื่อนขั้นมาอยู่ในระดับสี่เท่าตนก็พากันลุกขึ้นคัดค้านทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา