ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 1422

เซียวหลินเทียนก็มิได้โกรธ นี่คือมาตรการปฏิรูปแรกที่เขาเสนอหลังจากที่ได้ครองบัลลังก์ หากเขามิสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น เช่นนั้นในภายภาคหน้าแผนการปฏิรูปอื่นของตนจะดำเนินการอย่างไร

เซียวหลินเทียนรอให้ทุกคนโต้แย้งกันไปพอประมาณแล้วจึงยิ้มอย่างเย็นชาพลางเอ่ย “เหล่าขุนนางทั้งหลายที่พวกเจ้าโต้แย้งกันไปมา มิใช่เพราะรู้สึกว่าสตรีมิคู่ควรที่จะเป็นเพื่อนร่วมงานของพวกเจ้าหรือ?”

“ในสายตาของข้า พวกเจ้ากับสตรีเหล่านั้นล้วนเป็นราษฎรของข้าทั้งสิ้น แม้ว่าข้าจะยังมิได้มีบุตรสาว แต่ข้าคิดว่าในฐานะพ่อแม่ ขอเพียงเป็นลูกของข้าก็ควรได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน!”

“ขุนนางระดับสี่คือรางวัลที่ข้ามอบให้สตรี ข้าจะมิยอมในเรื่องนี้เป็นอันขาด!”

“สำหรับเรื่องที่จะให้เบี้ยหวัดตามตำแหน่งที่เท่ากันนั้น ข้าคิดว่างานที่พวกนางทำก็แค่แตกต่างจากงานของพวกเจ้าเท่านั้น มิได้แบ่งแยกสูงต่ำ ในเมื่อทำงานแล้วก็ควรได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม!”

“ขุนนางระดับสี่ก้าวออกมา!”

เมื่อเซียวหลินเทียนเรียกเช่นนี้ เหล่าขุนนางระดับสี่ก็มองหน้ากันไปมาแล้วก้าวออกมา

“หลังจากการว่าราชกิจยามเช้าวันนี้ พวกเจ้าอยู่ก่อน อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในวังหนึ่งวันตามการจัดการของกรมวัง แล้ววันพรุ่งตอนว่าราชกิจยามเช้าค่อยหารือกันในเรื่องที่ขุนนางหญิงจะได้รับค่าตอบแทนเท่ากับบุรุษในตำแหน่งเดียวกัน!”

“จบการประชุม!”

เซียวหลินเทียนประกาศเช่นนั้นจบก็เดินออกไป

ขุนนางระดับสี่เหล่านั้นจับต้นชนปลายมิถูก หลังจากจบการเข้าหารือยังต้องไปรายงานตัวกับกรมวังอีก

เจ้ากรมวังในตอนนี้คือเหรินจื้อซึ่งเป็นลูกชายของหมิ่นกูทำหน้าที่อยู่ชั่วคราว ส่วนรองเจ้ากรมวังก็คือใต้เท้าเจียงผู้เป็นรองเจ้ากรมวังอยู่แต่เดิม

เหรินจื้อรับผิดชอบในเรื่องการดูแลภาพรวม นอกจากนี้เขายังรับหน้าที่เป็นเจ้ากรมคลังของเซียวหลินเทียนด้วย ดังนั้นพวกเรื่องเฉพาะเจาะจงจึงล้วนเป็นใต้เท้าเจียงดูแล

ตอนที่เหรินจื้อมารับตำแหน่งเซียวหลินเทียนได้ทำการตรวจสอบใต้เท้าเจียงไว้ล่วงหน้าแล้ว ใต้เท้าเจียงนี้นับว่าทำงานซื่อตรงดี ก่อนที่จักรพรรดิสูงสุดจะสวรรคตเขาเองก็กล้าที่จะพูดความจริง

ที่มิได้เลื่อนให้ใต้เท้าเจียงขึ้นเป็นเจ้ากรมวังก็เพราะว่าเซียวหลินเทียนยังมีข้อสงสัยในตำแหน่งของเขาอยู่

ทางด้านศฤคาลเงินตรวจพบว่าน้องชายของใต้เท้าเจียงสนิทสนมกับตระกูลจ้าวมาก

ขุนนางระดับสี่ที่มีความยุติธรรมยังได้ลุกออกมาสนับสนุนข้อเสนอของเซียวหลินเทียนด้วย

อย่างเช่นใต้เท้าซือจากกรมขุนนาง เขาอายุสี่สิบปีมีลูกชายสองคนและลูกสาวหนึ่งคน

ใต้เท้าซือเอ่ยอย่างละอาย “กระหม่อมคิดมาตลอดว่าสตรีด้อยกว่าบุรุษ แต่การปฏิบัติหน้าที่เมื่อวานทำให้กระหม่อมรับรู้ว่า การที่ตนอคติต่อพวกนางเมื่อก่อนนั้นช่างน่าขันยิ่งนัก!”

“หัวหน้าจางทำงานเหล่านั้นได้อย่างเป็นระเบียบ มิได้ด้อยไปกว่าบุรุษเช่นพวกเราแม้แต่น้อย! ฝ่าบาทตรัสได้ถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ งานก็เหมือนกันแล้วพวกเรามีสิทธิ์อะไรไปคิดว่าตนทำงานได้ดีกว่าพวกนาง!”

“การรับค่าตอบแทนเท่าเทียมกับตำแหน่งเดียวกัน นั่นเป็นการยอมรับความขยันทำงานของพวกนาง กระหม่อมขอสนับสนุนข้อเสนอของฝ่าบาทและให้ความเคารพอย่างที่พวกนางควรได้รับพ่ะย่ะค่ะ!”

ในบรรดาขุนนางระดับสี่เหล่านั้นนอกจากคนที่มีความดื้อรั้นแล้ว คนอื่น ๆ ต่างพากันลุกออกมาสนับสนุนการปฏิรูปข้อนี้ของเซียวหลินเทียน

เสียงสนับสนุนภายในราชสำนักมีมากกว่าเสียงคัดค้าน แผนการปฏิรูปแรกของเซียวหลินเทียนจึงผ่านอย่างราบรื่น