วันรุ่งขึ้น
อันเจ๋อได้นำกำลังพลมุ่งหน้าไปยังเจิ้งโจว
เซียวหลินเทียนก็นำเหล่าขุนนางไปส่งถึงเนินสิบลี้
หิมะยังคงตกอย่างหนัก เมื่อเห็นอันเจ๋อกับเหล่าทหารต้องฝ่าหิมะไป ในใจของเซียวหลินเทียนก็เกิดความรู้สึกมิสบายใจเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อกลับไปถึงวังหลวง เซียวหลินเทียนก็เรียกเหล่าขุนนางว่าการมาหารือกันเรื่องภัยพิบัติหิมะที่ตกอย่างหนักนี้ รวมถึงมาตรการป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติในแต่ละพื้นที่ด้วย
ใต้เท้าเจี่ยงเจ้ากรมพระคลังเอาแต่พูดอยู่ซ้ำ ๆ ว่าเงินคลังว่างเปล่ามิสามารถนำเงินออกมาบรรเทาภัยพิบัติได้มากกว่านี้แล้ว
เซียวหลินเทียนมองใต้เท้าเจี่ยงพูดบ่นไปอย่างเงียบ ๆ
เซียวหลินเทียนรู้ว่าเงินคลังว่างเปล่า แต่สิ่งที่เขาต้องการมิใช่การที่ขุนนางระดับสูงเหล่านี้มาพร่ำบ่นอยู่ต่อหน้าตนแล้วรอคอยให้เงินหล่นลงมาจากฟากฟ้า
แต่ต้องการให้พวกเขาช่วยกันระดมความคิดหาวิธีมาแบ่งปันความกังวลและช่วยตนแก้ปัญหา
เมื่อเห็นว่าใต้เท้าเจี่ยงทำเพียงแค่บ่นเท่านั้น และขุนนางคนอื่น ๆ ก็เออออเห็นด้วย มิได้มีการเอ่ยข้อเสนอดี ๆ กันออกมา
และพวกของจ้าวฮุยก็กลายเป็นนิ่งดูดาย คำที่พูดออกมาในบางครั้งก็แผ่วเบาจนไม่มีประเด็นใด ๆ
พวกหลี่ว์เซียงมีความกระตือรือร้นดี แต่เนื่องด้วยความคิดแบบอนุรักษ์ทำให้ข้อเสนอที่พูดออกมามิได้มีอะไรมากไปกว่าการลดค่าใช้จ่ายที่มิจำเป็นออกไป
แต่สิ่งใดคือค่าใช้จ่ายที่มิจำเป็นเล่า?
เงินเดือนของขุนนางในราชสำนักแต่ละเดือนก็ต้องจ่าย ค่าใช้จ่ายภายในวังเองก็ตัดออกมิได้
เมื่อลองคำนวณสิ่งเหล่านี้ดูคร่าว ๆ แล้วเดือนหนึ่งก็ต้องใช้เงินมากนัก เช่นนั้นจะลดค่าใช้จ่ายได้อย่างไร!
เซียวหลินเทียนฟังแล้วก็รู้สึกกังวลใจ จึงให้ทุกคนกลับไปก่อน แล้วเขียนสาส์นกราบทูลแต่ละอันที่มีความสร้างสรรค์ออกมา
เมื่อเขากลับไปถึงวังหลังก็ยังคงกังวลใจอยู่
ในระหว่างทางที่เดินก็พบหลิงอวี๋ที่กลับมาจากการเข้าเฝ้าไทฮองไทเฮาพอดี เซียวหลินเทียนจึงเรียกหลิงอวี๋ไว้
เซียวหลินเทียนเป็นคนฉลาดมาก เขาสามารถทำเรื่องต่าง ๆ ได้มากมายโดยที่มิต้องให้ตนยื่นมือเข้าไปแทรก นางแค่ออกความเห็นอยู่ข้าง ๆ ก็พอแล้ว
เมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินหลิงอวี๋เอ่ยถามเช่นนี้ก็มิได้เป็นจักรพรรดิที่มิพอใจกับการที่สตรีเข้ามายุ่งเรื่องการเมือง ในตอนที่เขาเป็นอ๋องอี้ก็คุ้นเคยกับการพูดคุยเรื่องการสร้างตลาดกับหลิงอวี๋อยู่แล้ว
เขารู้ว่าหลิงอวี๋มีแนวคิดมากมายที่สามารถใช้ได้จริง ดังนั้นจึงเอ่ยออกไปโดยมิปิดบัง “ในช่วงนี้ข้าตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินคลัง แหล่งที่มาหลักก็คือภาษี การส่งสินค้าและเหมืองแร่!”
“สิ่งเหล่านี้มีการถูกละเลยอยู่มากมายนัก เมื่อตรวจสอบดูอย่างละเอียดก็ยังพบพวกทุจริตอีก น่าจะยึดคืนมาได้หลายร้อยล้านทีเดียว!”
หลิงอวี๋ยิ้มบาง ๆ “ท่านเตรียมจะลงมือกับขุนนางที่ทุจริตหรือเพคะ?”
เซียวหลินเทียนเห็นว่าหลิงอวี๋สามารถคาดเดาความคิดของตนได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ก็พยักหน้าอย่างชื่นชม
“อย่างเช่นใต้เท้าเจี่ยงเจ้ากรมพระคลัง เขาดูแลกรมพระคลังมาหลายปี แต่ตระกูลเขาครอบครองที่ดินอยู่กว่าหมื่นหมู่ ที่บ้านเก่าก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ และได้ยินมาว่าหอบรรพบุรุษของตระกูลเขาภายนอกเป็นหินสีน้ำเงินแต่ภายในเป็นทองทั้งหมด!”
เซียวหลินเทียนเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ขุนนางระดับสองคนหนึ่งได้รับเงินเดือนปีละหลักหมื่น หากเพียงแค่เงินเดือนจะซื้อทรัพย์สินมากมายถึงเพียงนี้ได้อย่างไร!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
สนุกมาค่ะ มาต่ออีก...
รอ...
นางเอกโดนแผนร้ายไล่ล่าเจ็บตัวจะตายอ่า200+ตอน สุดท้ายจบครึ่งตอน คนร้ายบอกเข้าใจผิด นิยายฟวยไรอ่ะปัญญาอ่อนทั้งเรื่อง...
waitinggg for youuuuuuu...
ความลับยังไม่ได้เปิดเผยเลยค่ะ...
จบแบบนี้ไม่ได้นะคะ...
กลับมาได้เเล้ว...
ขอบคุณนะที่ลงเพิ่ม กำลังสนุกมาก...
คนเขียนกลับมาก๊อนนนน🥹 ทางนี่ใจจะขาดแล้วฮะ...
รอสนุกมาก...