การว่าราชกิจในยามเช้านี้เป็นไปอย่างครึกครื้น ทุกคนต่างแสดงความคิดเห็นของตนและมีจำนวนมิน้อยที่ได้รับรางวัลจากเซียวหลินเทียน พวกขุนนางเช่นใต้เท้าหลี่ก็ได้เลื่อนขั้นและได้รับเงินในทันที
ใต้เท้าหลี่ตื่นใจมากจนหลังจบการเข้าราชสำนักแล้วก็ยังคงตื่นเต้นอยู่ เขารู้สึกว่าการเลื่อนขั้นช่างง่ายดาย แค่พูดเรื่องดี ๆ ออกไปก็ข้ามผ่านความพยายามหลายปีของตนแล้ว
เพลานี้จ้าวฮุยยังคงมิได้ระแวดระวัง คิดว่าเซียวหลินเทียนเป็นจักรพรรดิองค์ใหม่เพิ่งได้ขึ้นครองบัลลังก์มินานก็เจอเหตุจลาจลแล้ว เขาคงใช้ความสามารถที่มีอยู่จนหมดไปแล้วจึงได้คิดจะทำบางสิ่งเอาใจมวลชน
เมื่อคนของตนได้เลื่อนขั้น เขาเองก็ยินดีด้วย
ในใจของจ้าวฮุยยังคงเต็มไปด้วยความดูถูกที่มีต่อเซียวหลินเทียน เขารู้สึกว่า เซียวหลินเทียนยังเป็นมือใหม่ในเรื่องการบ้านการเมือง ยังมิเข้าใจว่าจะจัดการบ้านเมืองอย่างไรจึงได้ใช้วิธีระดมความคิดเช่นนี้
หลังจากจบเรื่องหลิงอวี๋ได้ฟังเรื่องในราชสำนักจากปากของเซียวหลินเทียน นางก็มิได้มิพอใจแต่อย่างใดที่เซียวหลินเทียนนำข้อเสนอแนะของตนไปแปลงเป็นความดีความชอบของผู้อื่น
เซียวหลินเทียนเข้าใจใช้วิธีอ้อม ๆ เช่นนี้ไปผลักดันนโยบายบ้านเมืองของเขาก็เป็นทางเลือกที่ถูกต้องในตอนนี้แล้ว
เมื่อเทียบกับการกระตุ้นให้พวกจ้าวฮุยต่อต้านขึ้นมาอย่างรุนแรง การทำเช่นนี้ถือเป็นการค่อยเป็นค่อยไปแบบมิให้รู้ตัว กระทั่งพวกจ้าวฮุยพบความผิดปกติ นโยบายบ้านเมืองของเซียวหลินเทียนก็ได้รับการผลักดันแล้ว
หลังจากที่เซียวหลินเทียนยืนได้อย่างมั่นคงก็มิต้องใช้วิธีการอ้อม ๆ เช่นนี้อีกแล้ว
สิ่งที่หลิงอวี๋เป็นกังวลแทนเซียวหลินเทียนก็คือ ปัญหาเรื่องการจัดสรรใหม่ การจะชิงที่ดินเพาะปลูกของพวกเขาจากปากเหล่าใต้เท้าแม่ทัพเหล่านั้นคืนมา เกรงว่าจะมิได้ง่ายดายเหมือนการเรียกคืนที่ดินรกร้าง
แต่เซียวหลินเทียนกลับยังคงมีความมั่นใจเต็มที่ สำหรับเขา การที่ให้เลื่อนขั้นขุนนางก็นับว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับขุนนางผู้ละโมบเหล่านี้
การที่เขามิได้ลังเลกับการใช้สิ่งนี้ไปกระตุ้นก็เป็นการตัดสินใจที่ผ่านการคิดวิเคราะห์มาแล้วเช่นกัน…ตำแหน่งขุนนางเมื่อเลื่อนขึ้นได้ก็ลดลงได้เช่นกัน
หากขุนนางผู้ละโมบเหล่านี้มีความจริงใจที่จะช่วยเหลือตนและทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อแคว้นและราษฎร ตำแหน่งที่เขาได้มอบให้ก็คือรางวัล
แต่ในทางกลับกัน หากนึกถึงเพียงตำแหน่งและเงินทองแต่มิได้ทำงานอย่างแท้จริง การประเมินตอนปลายปีเซียวหลินเทียนก็สามารถหาเหตุผลที่จะลดระดับขั้นของพวกเขาลงได้ หรือไม่ก็ถอดพวกเขาออกจากตำแหน่งไปเสีย...
เรื่องการปฏิรูปที่ดินทางด้านเมืองหลวงนี้จึงดำเนินการไปอย่างช้า ๆ ภายใต้การวางกลยุทธ์ของเซียวหลินเทียน
......
เมื่อได้ยินว่า มีคนที่สามารถรักษาโรคของตนได้ อาจารย์หลินจึงมีความหวังในชีวิตขึ้นมา
อันเจ๋อเองก็มิอาจพูดโน้มน้าวให้พวกเขายอมจำนนต่อราชสำนักได้ในทันทีที่เริ่ม จึงทำได้เพียงเล่าเรื่องทักษะการแพทย์ของหลิงอวี๋ที่ตนรู้ให้อาจารย์หลินฟัง
เมื่อพูดถึงทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของหลิงอวี๋ จะมิเอ่ยถึงเรื่องที่ท่านอดีตเสนาบดีขาหักและเซียวหลินเทียนขาพิการก็คงจะมิได้
นั่นคือตัวอย่างในเรื่องทักษะการแพทย์ทั้งสองที่มหัศจรรย์ที่สุดของหลิงอวี๋ที่อันเจ๋อเคยเห็นมา
อันเจ๋อจึงเอ่ยออกไปอย่างหน้าบาน “องค์จักรพรรดิในปัจจุบันนี้ก็คือท่านอ๋องอี้ในสมัยก่อน พวกเจ้าคงจะรู้ว่า เมื่อก่อนเขาออกไปรบแล้วประสบเหตุให้ต้องขาพิการต้องพึ่งเก้าอี้ล้อไปตลอด!”
“แต่ก็ได้แม่นางหลิงผู้นี้ ซึ่งก็คือฮองเฮาของพวกเราในปัจจุบันที่มีทักษะการแพทย์ที่มหัศจรรย์มากรักษาเขาจนหายดี”
“ตอนนี้องค์จักรพรรดิมิต้องนั่งเก้าอี้ล้อแล้ว เดินเหินสะดวกรวดเร็วราวกับบิน คราก่อนในการแข่งขันทางทหารของทั้งสี่แคว้นก็ยังนำกองกำลังทหารของฉินตะวันตกให้ได้รับชัยชนะจนได้เมืองมาสองเมืองด้วย!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
สนุกมาค่ะ มาต่ออีก...
รอ...
นางเอกโดนแผนร้ายไล่ล่าเจ็บตัวจะตายอ่า200+ตอน สุดท้ายจบครึ่งตอน คนร้ายบอกเข้าใจผิด นิยายฟวยไรอ่ะปัญญาอ่อนทั้งเรื่อง...
waitinggg for youuuuuuu...
ความลับยังไม่ได้เปิดเผยเลยค่ะ...
จบแบบนี้ไม่ได้นะคะ...
กลับมาได้เเล้ว...
ขอบคุณนะที่ลงเพิ่ม กำลังสนุกมาก...
คนเขียนกลับมาก๊อนนนน🥹 ทางนี่ใจจะขาดแล้วฮะ...
รอสนุกมาก...