อันเจ๋อยังเอ่ยถึงท่านอดีตเสนาบดีอีกด้วย เขารู้ว่าคนที่เคยเป็นทหารเช่นเฉาเฉียง พวกเขาอาจจะมิรู้จักองค์จักรพรรดิ แต่ไม่มีทางมิรู้จักท่านอดีตเสนาบดีที่อยู่ในกองทัพมาหลายสิบปีเป็นแน่
“รู้จักท่านอดีตเสนาบดีอ๋องเจิ้นหนานที่เมืองหลวงหรือไม่? ก่อนหน้านี้เขาได้นำทัพแล้วตกม้าจนทำให้ขาหัก ตอนที่ถูกส่งตัวกลับเมืองหลวงก็หมดสติและหายใจรวยรินไปแล้ว!”
“หมอหลวงในวังล้วนบอกว่า ท่านอดีตเสนาบดีจะมีชีวิตอยู่ได้อีกมินาน แต่ฮองเฮาผู้สูงศักดิ์ของพวกเราก็ใช้วิชาการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมช่วยเหลือท่านอดีตเสนาบดีไว้ได้!”
“ตอนนี้ท่านอดีตเสนาบดีมิเพียงแต่ร่างกายแข็งแรงดีเท่านั้น แต่ยังสามารถขี่ม้าได้ด้วย!”
เฉาเฉียงฟังแล้วก็เบิกตาโตอย่างประหลาดใจ
พวกเขาคือคนที่มาจากการออกรบ มีหรือจะมิรู้ว่าเมื่อขาหักแล้วหากโชคดีก็จะมีชีวิตอยู่ต่อได้ แต่หากโชคร้ายก็มีแต่ตายเท่านั้น
ท่านอดีตเสนาบดีได้รับการรักษาจนหายดีทั้งยังสามารถขี่ม้าได้อีก… นี่เป็นหมอขั้นเซียนจริง ๆ!
“ข้ามิได้พูดคุยโวเกินจริงกับพวกเจ้า ทักษะการแพทย์ของฮองเฮายอดเยี่ยมจริง ๆ ตัวอย่างเช่นนี้ยังมีอีกมาก พวกเจ้าไปสืบที่เมืองหลวงดูก็จะรู้!”
อันเจ๋อพูดจนปากแห้งคอแห้งจึงยกน้ำชาดื่มไปอึกหนึ่ง พลางมองพิจารณาอาจารย์หลินอย่างสงบไปด้วย
แต่กลับเห็นว่าอาจารย์หลินดูเหม่อมลอยราวกับว่าฟังแล้วล่องลอยติดอยู่ในภวังค์
“ท่านอดีตเสนาบดี...”
“ท่านอ๋องเจิ้นหนาน!”
อาจารย์หลินกำลังตกอยู่ในห้วงความคิดของตนเองอยู่จริง ๆ เขารู้สึกว่าคุ้นเคยกับคำเรียกเหล่านี้มาก
จากนั้นใบหน้าของชายชราผู้น่าเกรงขามก็โผล่เข้ามาในหัวของเขา
ชายชรายกแส้ฟาดใส่เขา “เด็กโง่ มิกินข้าวหรือ? ยืนตรง ๆ ทำให้ส่วนล่างมั่นคงเข้าไว้ เจ้ายืนมิดีนั่งมิดีเช่นนี้ ออกไปข้างนอกอย่าได้พูดไปว่าเป็นลูกชายของข้าเชียว!”
อาจารย์หลินครุ่นคิดแล้วก็ปวดหัวขึ้นมาอีกครั้ง
เขารีบส่ายหัวและพยายามควบคุมตนมิให้คิด
แต่คำพูดที่เมืองหลวงเหล่านั้นทำให้อาจารย์หลินเกิดความรู้สึกโหยหา
เฉาเฉียงฟังจบก็หันไปทางอาจารย์หลินอย่างสงสัย
อาจารย์หลินจึงเอ่ยอย่างเย็นชา “ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้ามิได้โกหกพวกเรา ให้พวกเราวางอาวุธแล้วหลังจากนั้นก็กำจัดพวกเราให้สิ้นซาก!”
อันเจ๋อเอ่ยเสียงเรียบ “ข้านำพระราชโองการติดตัวมาด้วย สามารถเอาให้พวกท่านดูได้ คำขององค์จักรพรรดิมีน้ำหนักและความเชื่อถือมาก ไม่มีทางตรัสแล้วคืนคำอย่างแน่นอน!”
หลังจากพูดจบ อันเจ๋อก็หันหลังให้พวกเขา แล้วเอาพระราชโองการของเซียวหลินเทียนออกมาจากแหวนพระสุเมรุแล้วส่งให้อาจารย์หลิน
พระราชโองการเขียนไว้อย่างชัดเจนว่า ขอเพียงให้พวกเขายอมจำนนแล้วจะไม่มีการลงโทษ ตราหยกที่ประทับอยู่ก็เป็นชื่อของจักรพรรดิองค์ใหม่เซิ่งอู่ด้วย
เมื่ออาจารย์หลินยืนยันพระราชโองการแล้วว่ามิผิดพลาดจึงโล่งอกพลางเอ่ยกับอันเจ๋อ
“ใต้เท้าอัน พวกข้ายอมจำนน! แต่พวกข้าสามารถพูดแทนได้เพียงกองกำลังที่สิงหยางและกว่างอู่เท่านั้น กองกำลังที่เมืองอื่นพวกเราไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจ!”
ว่ากระไรนะ?
อันเจ๋อได้ยินดังนั้นก็ตะลึง หรือว่าผู้นำในการจลาจลนี้มีอยู่หลายคน?

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
สนุกมาค่ะ มาต่ออีก...
รอ...
นางเอกโดนแผนร้ายไล่ล่าเจ็บตัวจะตายอ่า200+ตอน สุดท้ายจบครึ่งตอน คนร้ายบอกเข้าใจผิด นิยายฟวยไรอ่ะปัญญาอ่อนทั้งเรื่อง...
waitinggg for youuuuuuu...
ความลับยังไม่ได้เปิดเผยเลยค่ะ...
จบแบบนี้ไม่ได้นะคะ...
กลับมาได้เเล้ว...
ขอบคุณนะที่ลงเพิ่ม กำลังสนุกมาก...
คนเขียนกลับมาก๊อนนนน🥹 ทางนี่ใจจะขาดแล้วฮะ...
รอสนุกมาก...