เป็นครั้งแรกที่องค์ชายคังรู้สึกกลัว เขามองจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเดินเข้ามาทีละก้าวพร้อมกับตัวสั่นโดยมิรู้ตัว
“เจ้า... เจ้าคิดจะทำอะไร?”
องค์ชายคังลืมที่จะเรียกคนไปแล้ว พลางเอ่ยเสียงสั่น “เจ้าอย่าเข้ามานะ...”
ยังมิทันที่องค์ชายคังจะพูดจบ มือที่เนียนละเอียดของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็คว้าเข้าที่คอของเขา
“เซียวหลินอี้ วันนี้ข้าจะสอนท่านว่าอะไรคือภรรยาเป็นใหญ่!”
แต่ไหนแต่ไรมามีแต่สามีเป็นใหญ่ มีภรรยาเป็นใหญ่ที่ไหนกัน
แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิได้สนใจมากมายถึงเพียงนั้น นางกล้าคิดกระทั่งการเป็นจักรพรรดินี แล้วเหตุใดจะมิกล้าพลิกแนวคิดเก่า ๆ เหล่านี้เล่า!
“ท่านกินของตระกูลจ้าว ใช้ของตระกูลจ้าว ยังกล้าที่จะใส่อารมณ์กับข้า ใครให้สิทธิ์ท่าน?”
จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเอ่ยอย่างเย็นชา “ข้าจะทำให้ท่านรู้ว่าข้ามิใช่จ้าวเจินเจินคนโง่เขลานั่น ข้าไม่มีทางยอมรับความลำบากจากท่านโดยมิขัดขืน!”
องค์ชายคังถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยบีบคอจนหายใจมิออกและหน้าเขียวไปแล้ว
เขาอยากจะดิ้นรน แต่ก็ดิ้นมิหลุดจากมือของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย
ทันทีที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยกมือขึ้น เขาก็ถูกยกขึ้นจากพื้น
จ้าวหรุ่ยหรุ่ยกับเขาอยู่ในระดับสายตาเท่ากันและมองเขาด้วยแววตาเย็นชา “ท่านมีวรยุทธ์แล้วอย่างไร? หากข้าจะสังหารท่านก็ช่างง่ายดายนัก!”
“สิ่งที่ท่านมีก็แค่การเกิดในราชวงศ์ นอกจากนี้แล้วท่านมีสิ่งใดที่คู่ควรให้ภาคภูมิใจบ้าง?”
“ในทางบุ๋นก็สู้เซียวหลินเทียนมิได้ ทางบู๊ก็ด้อยกว่าเขา! หากข้ามิเห็นแก่หน้าท่านพ่อของข้า ข้าจะชอบขยะเช่นท่านรึ?”
องค์ชายคังเจ็บหน้าอกขึ้นมาอย่างแรงเพราะขาดอากาศ เขารู้สึกว่าตรงหน้าของตนมีดวงดาวโผล่ออกมา คิดจะขอความเมตตาแต่ก็พูดมิออก
เมื่อเห็นความอึดอัดของเขา จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ปล่อยมือออก แล้วองค์ชายคังก็ตกลงพื้นอย่างอ่อนแรง
จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเหยียบย่ำไปบนตัวขององค์ชายคังอย่างมิเกรงใจ พลางโน้มตัวไปเอ่ยกับเขา “นี่เป็นเพียงแค่การลงโทษเล็กน้อยเท่านั้น ต่อไปหากยังกล้าโวยวายต่อหน้าข้า ข้าจะให้ท่านลิ้มรสวิธีการของข้าทีละอย่าง!”
ในหัวเขาครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมีความสามารถถึงเพียงนั้นจริงหรือ?
“เซียวหลินอี้ อย่าใช้สายตาของกบในกะลาของท่านมามองข้า! ความสามารถของข้ายิ่งใหญ่จนท่านมิสามารถจินตนาการได้หรอก!”
จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเอ่ยอย่างทระนง “คนเลวเก๋อเทียนซือที่ตระกูลเส้าเชิญมานั่นอยู่ในแดนปีศาจมิได้จึงได้มาอยู่ที่ฉินตะวันตก ทั้งยังถูกตระกูลเส้ายกย่องว่าเป็นเทพเจ้าอีก!”
“ความสามารถของข้ามากกว่าเขานัก ขอเพียงท่านให้ความร่วมมือกับข้าอย่างว่าง่าย ข้าสามารถสกัดยาเซียนให้ท่านมิต้องแก่ชราได้!”
องค์ชายคังรู้จักเก๋อเทียนซือ ก่อนหน้านี้เขายังคิดว่า หากเก๋อเทียนซือกลับมาเขาจะเรียนวรยุทธ์กับเก๋อเทียนซือ ไหนเลยจะคิดว่าเก๋อเทียนซือถูกหลิงอวี๋จัดการจนแพ้พ่ายไปแล้ว
ตอนนี้เมื่อได้ยินว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเก่งกาจยิ่งกว่าเก๋อเทียนซือ ความโกรธขององค์ชายคังก็เบาบางลงไปมาก
จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นพระชายาของตนแล้ว ตระกูลจ้าวเองก็สนับสนุนตน ขอเพียงตนใช้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยให้ได้บัลลังก์มังกรมา ต่อไปค่อยคิดวิธีจัดการกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยแล้วกัน!
คิดถึงเรื่องนี้องค์ชายคังก็ตาเป็นประกาย “ใคร ๆ ก็พูดได้ ต่อให้เจ้าคุยโวว่าตนเป็นเทพเจ้าข้าก็มิเชื่อ!”
“หากต้องการให้ข้าเชื่อฟังเจ้า เจ้าก็ไปสังหารหลิงอวี๋เป็นการพิสูจน์เสียก่อนเถิด!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
สนุกมาค่ะ มาต่ออีก...
รอ...
นางเอกโดนแผนร้ายไล่ล่าเจ็บตัวจะตายอ่า200+ตอน สุดท้ายจบครึ่งตอน คนร้ายบอกเข้าใจผิด นิยายฟวยไรอ่ะปัญญาอ่อนทั้งเรื่อง...
waitinggg for youuuuuuu...
ความลับยังไม่ได้เปิดเผยเลยค่ะ...
จบแบบนี้ไม่ได้นะคะ...
กลับมาได้เเล้ว...
ขอบคุณนะที่ลงเพิ่ม กำลังสนุกมาก...
คนเขียนกลับมาก๊อนนนน🥹 ทางนี่ใจจะขาดแล้วฮะ...
รอสนุกมาก...