ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 1565

หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนจัดงานแต่งงานคารวะฟ้าดินกันใหม่ เมื่อพวกหลิงซวนรู้เข้าก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง

กว่าจะเปลี่ยนจากความโกรธเกลียดมาเป็นสามีภรรยาอย่างแท้จริงได้ หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนข้ามผ่านเส้นทางนี้กันมาอย่างยากลำบากจนนับมิถ้วน!

เมื่อเทียบกับงานแต่งที่เหลวไหลเมื่อคราก่อน ครานี้เซียวหลินเทียนขอหลิงอวี๋แต่งงานอย่างจริงใจ

กำไลหยกเขียวมรกตได้ชดเชยเรื่องสินสอดในคราก่อนไปแล้ว เรื่องพิธีหลิงอวี๋ขอให้เป็นพิธีเรียบง่ายจัดโต๊ะเพียงมิกี่โต๊ะก็พอแล้ว

มิได้มีการประกาศออกไป และมิได้เชิญแขกคนอื่น ๆ เชิญเพียงแค่ผู้อาวุโสเช่นท่านอดีตเสนาบดี ไทฮองไทเฮาและท่านอ๋องเฉิงสามคนเท่านั้น

ท่านอดีตเสนาบดีถูกเชิญเข้าวังมาก็ยังคงสับสนมิรู้ว่าด้วยเรื่องใด

ไทฮองไทเฮาเองก็เช่นกัน ถูกเชิญมาถึงพระตำหนักคุนหนิงก็ยังมิรู้ว่านี่คือพิธีคารวะฟ้าดินที่จัดขึ้นเพื่อทั้งสองคน

ท่านอ๋องเฉิงคือคนที่เซียวหลินเทียนเพิ่มเข้ามา เขาเป็นราชสำนักฝ่ายใน ทั้งยังเป็นผู้อาวุโสที่เห็นเส้นทางที่พวกเขาผ่านมาอย่างใกล้ชิดที่สุด เมื่อจัดพิธีแต่งงานขึ้นอีกครั้ง จะขาดคนสำคัญผู้นี้ไปได้อย่างไร!

แม่นมลี่เปลี่ยนชุดใหม่แล้วดึงเซียวเยวี่ยที่ใส่ชุดใหม่เช่นกันให้ยืนอยู่ข้าง ๆ

หลิงอวี๋เป็นฮองเฮานางมิได้ตื่นเต้นมากนัก แต่เมื่อได้ยินว่าหลิงอวี๋จะคารวะฟ้าดินกับเซียวหลินเทียนอีกครั้ง แม่นมลี่ก็ร้องไห้ไปหลายครั้งหลายครา นางดีใจยิ่งนัก

คุณหนูของนางผ่านความยากลำบากมา และนางจะมีชีวิตที่ดีของนางอย่างแท้จริงแล้ว

แม่นมลี่คือคนที่เข้าใจที่สุดว่าสามีภรรยาคู่นี้ผ่านอะไรมาบ้าง นางมิคาดคิดเลยว่า ตนจะได้เห็นกับตาว่าเซียวหลินเทียนจะแต่งงานกับหลิงอวี๋ด้วยความเต็มใจ

สิ่งนี้แสดงว่าองค์จักรพรรดิโปรดคุณหนูของนางจากใจจริง!

เซียวเยวี่ยก็รู้ในสิ่งที่จะเกิดขึ้น เขาดีใจมากจนใบหน้าเล็ก ๆ นั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ท่านแม่มีความสุข เขาเองก็มีความสุขด้วย...

พวกจ้าวซวนและองครักษ์ก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน และไม่มีผู้ใดหัวเราะพวกเขา ล้วนแต่อวยพรให้จากใจกันทั้งนั้น

เซียวหลินเทียนมาถึงก่อนแล้วก็เปลี่ยนเป็นชุดเจ้าบ่าวที่ทำขึ้นใหม่

ชุดแต่งงานสีแดงคือชุดที่วันนี้จ้าวซวนไปที่เรือนหยกอำไพแล้วซื้อมาจากคู่สามีภรรยาที่จะจัดงานแต่งงานมาในราคาสูง

นางหนีโซ่ตรวนเหล่านี้ไปมิได้ เช่นนั้นเหตุใดจึงมิยอมรับอย่างมีความสุขไปเสียเล่า!

หมิ่นกูกับพวกหลิงซวนจัดพระตำหนักคุนหนิงเป็นโถงงานแต่ง ภายใต้การส่งเสียงโห่ร้องของจ้าวซวนและเหล่าองครักษ์ข้างกาย เซียวหลินเทียนก็ก้าวข้ามเตาไฟแล้วแบกหลิงอวี๋พาเข้าไปในโถงงานแต่ง

ไทฮองไทเฮากับท่านอดีตเสนาบดีเห็นผู้มาใหม่สองคนที่จับผ้าสีแดงเดินเข้ามา

ท่านอดีตเสนาบดีก็น้ำตารื้น การจัดงานแต่งงานใหม่อีกครั้ง ในสายตาของคนทั่วไปอาจจะรู้สึกว่าน่าขัน แต่เขารู้ว่าสิ่งนี้หมายความว่า องค์จักรพรรดิยอมรับหลิงอวี๋จากใจจริงแล้ว

แม้ว่าหลิงอวี๋จะมิใช่หลานสาวแท้ ๆ ของตน แต่ได้เห็นนางข้ามผ่านเส้นทางที่แสนขรุขระแล้วได้รับความสุข ท่านอดีตเสนาบดีก็ปลื้มใจเช่นกัน

ไทฮองไทเฮาเองก็เป็นเช่นนั้น นางนึกถึงความปรารถนาเดิมที่ตนสนับสนุนหลิงอวี๋ นึกถึงความยากลำบากในเส้นทางนี้ของนาง ไทฮองไทเฮาเองก็ส่งคำอวยพรที่จริงใจที่สุดให้ทั้งสองคนจากใจ

“หนึ่งคารวะฟ้าดิน...”

ท่านอ๋องเฉิงที่ถูกเชิญมาเป็นเจ้าพิธีของงานแต่งงาน นี่นับว่าเป็นการยอมรับของราชวงศ์ต่อหลิงอวี๋...