เซียวหลินเทียนกับท่านอ๋องเฉิงและเหล่าขุนนางต่างกำลังมองว่านฉีซานจัดการกับพวกหนู
กระทั่งป้อนเสร็จ หนูก็ถูกใส่เข้าไปในกรง และพวกเขาก็คอยเฝ้าดูปฏิกิริยาของหนู
ทางด้านหลิงอวี๋ได้ผลการทดลองจากในมิติแล้ว
การวิเคราะห์เลือดบนผ้าไหมเห็นได้ชัดว่ามิใช่เลือดคน แต่เป็นเลือดหนูซึ่งมีสารพิษที่มิรู้จักอยู่
เลือดเหล่านั้นมิใช่ของไทฮองไทเฮา ตอนนี้หลิงอวี๋สนใจว่าหนูที่กินเลือดไทฮองไทเฮาไปจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
นางฝืนอาการคลื่นไส้แล้วก้าวไปข้างหน้าเพื่อคอยสังเกตอยู่กับเซียวหลินเทียน
ช่วงเวลาประมาณหนึ่งก้านธูป หนูที่กินเลือดของหนูตายก็เริ่มมีปฏิกิริยา แขนขาของพวกมันกระตุกและล้มลงทีละตัว เลือดออกจากทวารทั้งเจ็ดแล้วก็ตาย
แต่หนูที่กินเลือดของไทฮองไทเฮากลับไม่มีปฏิกิริยาใด กระโดดไปมาอยู่ในกรง
ทุกคนรอไปอีกช่วงเวลาหนึ่งก้านธูป หนูพวกนั้นก็ยังคงกระโดดไปมา
ว่านฉีซานจึงเอ่ย “ฝ่าบาท หนูกินเลือดของไทฮองไทเฮาไปแล้วยังมิตายพ่ะย่ะค่ะ สิ่งนี้พิสูจน์ได้ว่าไทฮองไทเฮามิได้ถูกวางยาพิษ!”
องค์ชายคังถูกเซียวหลินเทียนไล่ออกไปแล้ว ผู้ตรวจการพันผู้ซื่อสัตย์ภักดีของเขาจึงเสี่ยงทำให้เซียวหลินเทียนขุ่นเคือง แล้วเอ่ยอย่างกล้าหาญ
“หนูยังมีชีวิตอยู่ก็มิได้หมายความไทฮองไทเฮามิได้ถูกพิษนี่ บางทีพิษที่ไทฮองไทเฮาได้รับอาจจะเป็นพิษเรื้อรังก็ได้!”
แม้ว่าคำพูดนี้จะมีความหมายของการตั้งคำถาม แต่ก็นับว่าพูดอยู่บนความเป็นเหตุเป็นผล เซียวหลินเทียนจึงมิอาจโกรธได้
หลิงอวี๋รู้ว่าเซียวหลินเทียนมิได้เข้าใจเรื่องการแพทย์ จึงเอ่ยอย่างเย็นชา “ข้ามิเห็นด้วยกับคำพูดของผู้ตรวจการพัน!”
“หนูเหล่านี้สามารถเจาะเข้าไปกัดกินไทฮองไทเฮาในโลงได้ ก็พิสูจน์แล้วว่าก่อนหน้านี้พวกมันยังคงมีชีวิตอยู่ ทุกคนล้วนเห็นกันว่าหนูกลุ่มหลังกินเลือดของหนูที่ตายไปได้มิถึงชั่วยามครึ่งก็ถูกพิษตายแล้ว!”
“หากไทฮองไทเฮาถูกพิษเรื้อรัง เช่นนั้นเหตุใดหนูพวกนี้จึงตายเร็วถึงเพียงนี้เล่า?”
ใต้เท้าเถี่ยรู้สึกว่าหลิงอวี๋พูดมีเหตุผลจึงพยักหน้าเห็นด้วย
ผู้ตรวจการพันถูกหลิงอวี๋ถามเช่นนี้ก็พูดมิออก แต่ก็ยังฝืนเอ่ย “ฮองเฮาฉลาดถึงเพียงนี้ เช่นนั้นเหตุใดมิอธิบายให้พวกเราเข้าใจว่าเพราะเหตุใดหนูกินเลือดของไทฮองไทเฮาแล้วถึงมิตายเล่าพ่ะย่ะค่ะ?”
“ฮองเฮา กระหม่อมบกพร่องที่ใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
ทุกคนล้วนสงสัย ว่านฉีซานก็ยิ่งอดมิได้ที่จะเอ่ยถามออกไป
“ฝาโลง!”
เซียวหลินเทียนรู้ว่าหลิงอวี๋ไม่มีทางที่จะพูดเช่นนี้โดยไม่มีเหตุผล ในหัวจึงนึกถึงขั้นตอนการตรวจสอบเมื่อครู่อย่างรวดเร็วแล้วชิงตอบออกมาทันที
“ฝ่าบาทยอดเยี่ยมยิ่งนักเพคะ!”
หลิงอวี๋เอ่ยชมเชยเซียวหลินเทียนอย่างมิหวงคำชม
“ต้องให้องครักษ์ถึงสิบกว่าคนจึงจะเคลื่อนย้ายฝาโลงได้ มันหนักมาก พวกเราจึงละเลยคิดว่าไม่มีทางที่จะมีคนทำอะไรบนนั้น...”
หลิงอวี๋พูดยังมิทันขาดคำ ว่านฉีซานก็รีบวิ่งเข้าไปแล้วคุกเข่าลงกับพื้นตรวจสอบฝาโลงทันที
ทุกคนก็ล้วนเดินไปล้อมเฝ้าสังเกตอย่างสงสัยใคร่รู้...

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
สนุกมาค่ะ มาต่ออีก...
รอ...
นางเอกโดนแผนร้ายไล่ล่าเจ็บตัวจะตายอ่า200+ตอน สุดท้ายจบครึ่งตอน คนร้ายบอกเข้าใจผิด นิยายฟวยไรอ่ะปัญญาอ่อนทั้งเรื่อง...
waitinggg for youuuuuuu...
ความลับยังไม่ได้เปิดเผยเลยค่ะ...
จบแบบนี้ไม่ได้นะคะ...
กลับมาได้เเล้ว...
ขอบคุณนะที่ลงเพิ่ม กำลังสนุกมาก...
คนเขียนกลับมาก๊อนนนน🥹 ทางนี่ใจจะขาดแล้วฮะ...
รอสนุกมาก...