ครั้นถึงหน้าตำหนักองค์ชายเว่ย จ้าวซวนส่งไพ่(1)ให้คนเฝ้าประตู เอ่ยเสียงทุ้ม
“รบกวนทูลช่วยเราหน่อยว่า พระชายาอ๋องอี้แห่งตำหนักอ๋องอี้ขอเข้าเฝ้าองค์ชายเว่ย!”
คนเฝ้าประตูมองไพ่กล่าวเย็นชาว่า “องค์ชายของเราเสด็จไปออกแต่เช้า! ยังมิเสด็จกลับตำหนักเลย!”
จ้าวซวนส่งยิ้มกล่าว “องค์ชายเว่ยไปที่ใดแล้วเล่า?”
คนเฝ้าประตูพูดเหลืออดว่า “ผู้น้อยเป็นแค่คนเฝ้าประตู องค์ชายไปที่ใด ผู้น้อยจะหารู้ไม่?”
“พวกเจ้าหมายขอเข้าเฝ้าองค์ชายก็อยู่คอยเถิด!”
จ้าวซวนทำได้แค่กลับมาแจ้งหลิงอวี๋ หลังหลิงอวี๋ฟังก็ยิ้มหยัน
“จ้าวซวน เจ้าส่งคนไปสืบถามว่าองค์ชายเว่ยออกไปจริงแน่หรือไม่ และไปที่ใด!”
จ้าวซวนเข้าใจความคิดของหลิงอวี๋ทันที เขาผงกศีรษะพลางรีบพาคนไปสืบถามข่าว
ในไม่ช้า จ้าวซวนก็พาคนกลับมาส่ายหน้าต่อหลิงอวี๋กล่าวว่า
“พระชายา เราถามคนละแวกนี้แล้วขอรับ วันนี้ไม่มีใครเห็นองค์ชายเว่ยออกจากตำหนัก!”
“แม้แต่โรงน้ำชา โรงเหล้าที่พระองค์ทรงไปบ่อยก็ไม่เห็นเหมือนกันขอรับ!”
ลู่หนานอดพูดมิได้ “องค์ชายเว่ยอยู่ตำหนักเป็นแน่ นี่คงเจตนากลั่นแกล้งพวกเรา!”
หลิงอวี๋ไม่พูดจา แม้รู้ชัดว่าองค์ชายเว่ยอยู่ตำหนักและเขาหมายกลั่นแกล้ง หรือว่าพวกเขาจะรั้นบุกเข้าไปเลยดี?
จ้าวซวนพูดต่อ “ยามนี้เราเป็นฝ่ายขอร้องคน งั้นคอยไปก่อนเถอะ”
กลุ่มคนยืนไปครึ่งชั่วยามแล้ว จ้าวซวนไปสอบถามอีกครั้ง แต่คนเฝ้าประตูยังยืนกรานว่าองค์ชายเว่ยมิได้กลับมา
บัดนี้จ้าวซวนใจร้อนนักกลับมาพูดกับหลิงอวี๋ว่า “พระชายา ไม่เช่นนั้นเรารั้นบุกเข้าไปเลยไหมขอรับ?!”
“แม้เราจะรอได้ แต่ท่านอ๋องจักรอได้หรือขอรับ?”
หลิงอวี๋มุ่นคิ้วพลางมองลู่หนานกับคนอื่น ๆ ที่กำลังมองตนตาปริบ ๆ บนหน้าฉายความกังวลเต็มเปี่ยม
แม้นางไว้ใจวิชาแพทย์ของตนและเซียวหลินเทียนจะไม่ตายเดี๋ยวนี้ แต่รอเช่นนี้ก็มิใช่เรื่อง!
“หากรั้นบุกเข้าไปจักถูกโทษรุกล้ำตำหนักองค์ชายก่อความอลหม่าน! หากองค์ชายเว่ยสบโอกาสฆ่าพวกเจ้าก็ไม่มีแม้แต่ที่ให้พวกเจ้าร้องทุกข์ด้วยซ้ำ!”
“จ้าวซวน ตอนนี้เจ้าจัดคนไปตามหาองค์ชายเว่ยที่ถนนใหญ่! แพร่เรื่องที่ท่านอ๋องอี้กำลังรอการช่วยชีวิตจากพระองค์ออกไป!”
หลิงอวี่ยิ้มหยันกล่าว “ส่งคนไปขอเข้าเฝ้าไทเฮาในวังอีก กล่าวว่าพวกเรากำลังรอการช่วยเหลือจากองค์ชายเว่ยอย่างร้อนใจ แต่กำลังคนมีจำกัดขอให้ไทเฮาส่งคนช่วยตามหาคน!”
จ้าวซวนผงะชั่วขณะ ชิวเหวินซวงพลันเอ่ยร้อนใจ
“พระชายา ท่านคิดกระไรช่างมิเข้าท่า! หากเรื่องวุ่นวายขึ้นแล้วแหย่องค์ชายเว่ยกริ้ว พระองค์จะให้มุกตะขาบฟ้าพวกเราหรือ?”
หลิงอวี๋เหล่มองชิวเหวินซวงถามกลับว่า
“อ้อ งั้นเจ้ามีความคิดกระไรเข้าท่า เจ้าลองพูดแลกเปลี่ยนดูสิ?”
ไฉนชิวเหวินซวงจะมีความคิดอะไรเข้าท่าพลางปรายมองหลิงอวี๋เคียดแค้น กล่าวเหน็บ
“ข้าไม่มีความคิดดี ๆ หรอก! แต่พระชายาท่านทำเช่นนี้ เดิมทีก็มิใช่อยากช่วยท่านอ๋อง!”
“ท่านแค่อยากยั่วโทสะองค์ชายเว่ยและตัดหนทางรอดของท่านอ๋อง!”
หลิงอวี๋หัวเราะเยือกเย็นคร้านจะสนใจนาง พูดต่อจ้าวซวนตรง ๆ ว่า
“หากองค์ชายเว่ยหมายทำให้เรายุ่งยากก็อย่าไปกดดันพระองค์ คาดว่าแม้พวกเราจะรอยันฟ้ามืด พระองค์ก็จะมิยอมพบเรา!”
“ไปประกาศให้ภายนอกรู้ว่าองค์ชายเว่ยสามารถช่วยเซียวหลินเทียนได้ นั่นจักทำให้พระองค์กดดัน!”
“ปุถุชนต่างรู้ว่าในมือองค์ชายเว่ยมีสิ่งของที่ช่วยเซียวหลินเทียนได้ แต่พระองค์กลับหลบซ่อนมิเผยตัว!”
“หากองค์จักรพรรดิทราบก็จักทรงคิดว่า องค์ชายเว่ยขาดความรักแบบพี่น้อง!”
“สภาขุนนางก็คิดว่าองค์ชายเว่ยไร้น้ำใจสิ้นคุณธรรม นี่จะส่งผลต่อชื่อเสียงองค์ชายเว่ยอย่างมิต้องสงสัย...”
“หากองค์ชายเว่ยยังต้องการตำแหน่งจักมิปล่อยให้เรารออีก!”
เมื่อหลิงอวี๋อธิบายแบบนี้ จ้าวซวนพลันเข้าใจดวงตาวับวาบพลางหาองครักษ์ไปทำตามคำสั่งของหลิงอวี๋ทันควัน!
ชิวเหวินซวงไม่พอใจที่โดนหลิงอวี๋แย่งแสง เอ่ยแค้นเคือง
“พระชายาท่านทำเช่นนี้ แม้จะบังคับองค์ชายเว่ยพบเราได้ แต่ก็ยั่วโทสะองค์เว่ยเช่นกัน! เขาจะไม่ให้มุกตะขาบฟ้าแก่เราหนาเจ้าคะ!”
“จะทำเรื่องไม่เหลียวหน้าแลหลังได้เยี่ยงไร แก้ไขปัญหาแรกก่อนค่อยพูดอย่างอื่น!”
หลิงอวี๋ตะโกนเหลืออด “พวกเจ้าให้ข้าแก้ไขปัญหาเข้าประตู ปัญหาแก้แล้วก็เลิกบ่นจุกจิกซะ!”
จ้าวซวนไม่อยากให้ความวัวไม่ทันหายความควายเข้ามาแทรกพลันเอ่ยต่อชิวเหวินซวง “เหวินซวง เจ้ากลับไปก่อนเถอะ!”
ชิวเหวินซวงสองตาแดงทันทีพลางพูดน้อยอกน้อยใจ
“พี่ใหญ่จ้าว ข้าก็เป็นห่วงท่านอ๋อง! หรือว่ามิอนุญาตให้ข้าซักข้อสงสัยหรือเจ้าคะ?”
หลิงซวนทนไม่ไหมอีกตอ่ไป ยิ้มเยาะเอ่ยว่า
“นี่คือข้อสงสัยเจ้าหรือ? น้ำเสียงนี้ของเจ้าถ้าเป็นคนที่ไม่รู้คงคิดว่าเจ้าเป็นพระชายากระมัง?”
“คุณหนูของเราไม่เป็นห่วงท่านอ๋องหรือไร? เมื่อคืนก็มิใช่คุณหนูของเราเฝ้าท่านอ๋องจนมิได้หลับมิได้นอนทั้งคืนหรอกรึ?”
“เจ้ามีสถานะเป็นกระไร? กล้าดีอย่างไรมาซักถามคุณหนูของข้า! เจ้านี่มันขวัญกล้าได้คืบจะเอาศอกจริง ๆ!”
ไพ่ (名帖) คนสมัยโบราณเรียก นามบัตร เป็น ไพ่ (ซึ่งมาจากคำว่า Card)
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
ลุ้นจะหนียังไง...
หงุดหงิด กับเด็กนรกก...
อ๋องอี้กับชิวเหวินซวงเหมาะสมกันมาก เหมือนผีเน่ากับโลงผุเลย คนนึงเป็นอ๋องใจบอด อีกคนมักใหญ่ใฝ่สูง เล่เหลี่ยมมากมาย...
ถ้านางเอกกับลูกยอมรับอ๋องอี้ในที่สุดคือไม่เข้าท่าเลยนะ...
จะได้เปิดโรงหมอแล้ว เย่ๆๆๆ...
อ๋องอี้ก็ยังโง่ให้คนอื่นจูงจมูกง่ายๆเหมือนเดิม...
ต่อให้ไม่ใช่ลูกเห็นเด็กเล็กโดนขนาดนั้นก็ต้องรู้สึกอะไรบ้างไหม แต่นี่คือจิตใจอำมหิตมากกกก...
ในที่สุดควสมจริงก็เปิดเผยสักที แล้วทุกคนจะรับผิดชอบที่รักแกเยวี่ยเยวี่ยกับหลิงอวี่อย่างไรล่ะ...
อ๋องอี้ก็เฮงซวย ฮ่องเต้ก็ถูกจูงจมูกง่ายๆ หวังว่านางเอกกับลูกจะรอด แล้วทำให้พ่อกับปู่รู้ว่าตัวเองชั่วช้าคิดฆ่าลูกกับหลานแท้ๆได้ลงคอ หรือยัยน้องกับลูกต้องถูกทรมานเจียนตายจนใกล้ตอนจบเลยหรือเปล่า ส่วนไทเฮานั้นถ้าน้องรอดชีวิตไปได้ก็อย่าได้พบหญิงชรานางนี้อีกเลย...
อ๋องอี้คือผัวสารเลวสุดแสนเฮงซวยที่สุดแล้ว ต่อไปข้างหน้า ถ้านางเอกมารักกับผัวเฮงซวยแทนที่จะเลิกรากันไปนี่คือ เธอช่างใจกว้างไปละ...