“ถึงคราวนั้นองค์ชายคังสามารถไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทฟ้องร้องท่านได้ โดยตรัสว่าท่านบังคับรื้อถอนบ้านเรือนร้านค้าพวกเขาจึงเกิดเรื่องเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ!”
“องค์ชาย ยามนี้คือเวลาสำคัญของศึกชิงรัชทายาท หากท่านคร่าชีวิตคน ยั่วยุฝ่าบาทกริ้วโกรธ ท่านจะนั่งบนตำแหน่งนี้ได้อยู่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”
“กระทั่งโครงการฟื้นฟูย่านการค้าที่เพิ่งได้รับก็อาจถูกฝ่าบาทยกให้คนอื่นทำพ่ะย่ะค่ะ!”
หานหลินวิเคราะห์ผลเสียบานปลายเรื่องนี้ให้องค์ชายเว่ย
ครั้นองค์ชายเว่ยฟังก็ตระหนักถึงความรุนแรงของเรื่องได้ สิ่งที่หลานหลินเอ่ยอาจจะเกิดขึ้นได้จริง ๆ!
หากรักษากิจราชการโครงการฟื้นฟูย่านการค้าไว้ได้ เขายังหาเงินจากแหล่งอื่นได้อยู่
แต่หากเสียกิจราชการไปจะสะเทือนถึงการชิงตำแหน่งรัชทายาท มันได้ไม่คุ้มเสีย!
“ได้ ท่านหาน ตัวข้าเชื่อฟังท่าน ข้าจักออกไปปลอบพวกเข้าประเดี๋ยวนี้!”
ขณะองค์ชายเว่ยกล่าวก็รีบรุดหมายไป
หานหลินพลันเอ่ย “องค์ชาย โปรดส่งคนของเราออกไปเฝ้าดู จะปล่อยให้คนขององค์ชายคังปะปนด้านในก่อเรื่องมิได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ!”
“ไหน ๆ จักเป็นคนดีแล้ว ให้คนของเราช่วยพ่อค้าพวกนั้นส่งของกลับด้วย! อย่างนี้จักได้ชื่อเสียงที่ดีขึ้นอีก!”
เมื่อองค์ชายเว่ยขบคิดก็รู้สึกว่ามีเหตุผล พลันกล่าว
“ได้ ตัวข้าเชื่อฟังเจ้า… น้องรองลอบกัดข้าเยี่ยงนี้ ตัวข้าไม่จบกับเขาแน่!”
“ท่านหาน คิดแผนดี ๆ ให้ตัวข้าที ข้าต้องจัดการน้องรองให้สมน้ำสมเนื้อ!”
หานหลินเดินตามองค์ชายเว่ย เมื่อนึกเรื่องหนึ่งขึ้นได้ก็พลันกล่าว
“องค์ชาย ความคิดนี้เป็นคุณหนูใหญ่กวนคิดให้ท่าน! กระหม่อมมักรู้สึกผิดปกติอยู่บ้าง!”
“วันนี้ได้ยินข่าวว่าคนขององค์ชายคังมาก่อกวน ในที่สุดกระหม่อมก็หยั่งรู้แล้ว… คุณหนูใหญ่กวนไม่ได้มีเจตนาดีต่อท่านพ่ะย่ะค่ะ!”
องค์ชายเว่ยคิ้วเข้มกระตุก “ไยไม่ได้มีเจตนาดี?”
หานหลินพูดอย่างระวัง “ก่อนหน้านี้องค์ชายหมายให้คุณหนูใหญ่กวนเป็นพระชายารองมิใช่หรือ?”
“คุณหนูใหญ่กวนปฏิเสธมาตลอด… กระหม่อมได้ยินว่าเจ้านางเอ่ยว่าท่านไม่เข้าตา…”
ใบหน้าองค์ชายเว่ยดำทะมึนพลันอ้าปากด่าขึ้น
“หญิงชั้นต่ำ ที่ตัวข้ารับนางเป็นพระชายารองคือให้เกียรตินาง!”
“นางเป็นแค่ลูกพ่อค้ามีเงินน้อยนิดบังอาจว่าตัวข้าไม่เข้าตา! คิดว่าตัวเองเป็นใคร?”
หานหลินส่งยิ้ม “องค์ชาย ท่านทรงให้เกียรตินาง แต่นางไม่รู้จักดีชั่ว…”
“ทว่าในเมื่อคุณหนูใหญ่กวนไม่อยากออกเรือนกับท่าน… เหตุใดนางเป็นฝ่ายเข้าหาและเสนอความคิดให้ท่านครานี้เล่า?”
“กระหม่อมหามิได้ดูถูกองค์ชาย ท่าน… องค์ชายคังหนุ่มแน่น ทั้งเติบโตมาดูดี…”
“องค์ชาย ท่านลองคิดว่าองค์ชายคังอาจสัญญาอะไรบางอย่างกับนาง… นางถึงช่วยองค์ชายคังวางหลุมพรางท่าน?”
เมื่อองค์ชายเว่ยฟังก็โกรธจนหน้าบิดเบี้ยว
ถูกต้อง เรื่องนี้เป็นกวนอิ่งเสี้ยมตนไปทำ และเรื่องที่เหล่าพ่อค้าวิ่งมาตันตำหนักองค์ชายเว่ยก็คือองค์ขายคังยุยง!
ระหว่างสองฝ่ายจะไม่เกี่ยวข้องกันได้อย่างไร?
พวกเขาหมายฉวยโอกาสสร้างความโกลาหลเป็นแน่ ทำชื่อเสียงตนเน่าเฟะพลางถูกองค์จักรพรรดิเดียดฉันท์!
“หญิงชั้นต่ำ ตัวข้าจักมิปล่อยนางไปเด็ดขาด!”
องค์ชายเว่ยเอ่ยอย่างเหี้ยมเกรียม “รอจัดการเรื่องพวกนี้เสร็จ ตัวข้าจักทำให้หญิงชั้นต่ำนั่นอยู่มิสู้ตาย!”
หานหลินรีบกล่าว “เรื่องนี้ค่อยว่ากันทีหลัง จัดการเรื่องข้างนอกก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
กลุ่มคนเดินออกไปอย่างเร่งรีบ เพื่อไม่ให้องค์ชายคังมีโอกาส องค์ชายเว่ยจึงส่งพ่อค้าเหล่านั้นกลับไปโดยเร็วที่สุด
เขาสาบานว่าจะไม่รื้อถอนร้านของพ่อค้าพวกนั้น และให้เหล่าพ่อค้ากลับไปอยู่ให้สบายใจ
เมื่อเถ้าแก่หลี่ที่เป็นผู้นำพ่อค้าเหล่านั้นได้ยินก็ดีใจยกใหญ่ ไม่คิดว่าจะแก้ไขปัญหาเช่นนี้ได้จริง!
ภายใต้การนำของเถ้าแก่หลี่ ทุกคน “ซาบซึ้งน้ำตาไหลพราก” ยกย่ององค์ชายเว่ยอย่างสูงกล่าวว่าพระองค์ทรงเมตตาราษฎร์ทรงคำนึงถึงปวงประชา พูดจนหมดถ้อยคำสรรเสริญ
เหล่าพ่อค้าหวั่นเรื่องบานปลายและเกิดจลาจล จึงนั่งรถม้ากลับบ้านอย่างมีความสุขภายใต้การคุ้มครองจากองครักษ์องค์ชายเว่ย…
หลิงอวี๋พาเถาจื่อยืนดูบรรดาพ่อค้าจากไปอย่างสงบอยู่ที่ไกล ๆ ถึงวางใจลง
สำเร็จ ไม่มีคนบาดเจ็บล้มตายไม่พอ เหล่าพ่อค้ายังเลี่ยงการสูญเสียได้ด้วย! นางพอใจมาก!
ส่วนเรื่องที่มิอาจสั่งสอนองค์ชายเว่ยจากในเหตุการณ์นี้ได้ หลิงอวี๋คิดเห็นอย่างเดียวกับเซียวหลินเทียน
อนาคตยังอีกยาวไกล ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาต้องสบโอกาสล้างแค้น!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา