กวนอิ่งยังใคร่มาชมฉากโรงเหยียนหลิงถูกรื้อถอน
นางรุดมาถึงพบว่าพ่อค้าพวกนั้นต่างมิได้ย้ายบ้าน อีกทั้งกำลังขนของกลับ
เมื่อกวนอิ่งสอบถามถึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
นางขาดการมองการณ์ไกลเรื่องพ่อค้าล้อมกั้นตำหนักองค์ชายเว่ย รู้สึกพระองค์ไม่ได้เรื่องโดยแท้!
พอโดนขวางประตูก็กลัวจนอะลุ้มอล่วยเสียแล้ว!
กวนอิ่งไฉนจะยอมเลิกราเช่นนี้ นางยังคิดยืมอิทธิพลองค์ชายเว่ยกดหลิงอวี๋ จึงพาคนไปประตูตำหนักองค์ชายเว่ย
นางคิดว่า หากตนยั่วยุองค์ชายเว่ยไม่กี่ประโยค องค์ชายเว่ยจะช่วยตนรื้อโรงเหยียนหลิงของหลิงอวี๋วันนี้แน่!
ขณะนี้องค์ชายเว่ยกริ้วเต็มทรวง เรื่องบังคับรื้อมิเพียงมิได้ประโยชน์ยังเกือบไปถึงหูองค์จักรพรรดิด้วย
ทั้งหมดนี้เป็นหลุมพรางที่องค์ชายคังกับกวนอิ่งวางใส่ตน
เขากำลังมีน้ำโหว่าจะชำระทั้งสองอย่างไร คิดไม่ถึงว่าคนเฝ้ายามจะมาแจ้งว่าคุณหนูใหญ่กวนมา
“นางยังกล้ามาอีกรึ? ข้ากำลังจะไปหานาง! ให้นางเข้ามา!”
หลังองค์ชายเว่ยเอ่ยจบ จู่ ๆ ก็นึกถึงถ้อยคำนั้นของหานหลิน ‘คุณหนูใหญ่กวนเอ่ยว่าท่านมิเข้าตานาง!’
องค์ชายเว่ยแสยะยิ้ม ตัวข้าไม่เข้าตาหรือ?
ตัวข้ารับเจ้าเป็นพระชายารอง ข้ายังไม่เข้าตาเจ้าอีกรึ!
ได้ งั้นตัวข้าจะไม่ให้เจ้าเป็นแม้แต่พระชายารอง…
องค์ชายเว่ยแสยะยิ้มหยิบยาผงห่อหนึ่งออกจากช่องลับในห้องตำราพลางถือถ้วยชาสองใบ โรยยาผงเล็กน้อยลงถ้วยชาถ้วยหนึ่งอย่างใจเย็น
“องค์ชายเว่ย…”
กวนอิ่งเดินรุดเข้ามา เอ่ยร้อนใจ “ไฉนท่านมิรื้อถอน ท่านมิอยากได้เงินกำไรแล้วหรือเพคะ?”
องค์ชายเว่ยหัวเราะน้อย ๆ พลางส่งสายตาให้องครักษ์คนสนิทของตนเทชาลงถ้วย
“คุณหนูกวน เหนื่อยแล้วกระมัง มาดื่มชาเสีย เราค่อย ๆ คุยกัน!”
องค์ชายเว่ยรุนถ้วยที่โรยยาผงให้กวนอิ่ง เทชาให้ตนพลาง เอ่ยทอดถอนใจพลาง
“ตัวข้าลำบากใจ…”
“ท่านมีเรื่องอันใดลำบากใจ?! ท่านเป็นองค์ชาย เป็นพระโอรสในองค์จักรพรรดิ พวกดื้อด้านนั่นผู้ใดจักกล้าต่อต้านท่าน?!”
กวนอิ่งเอ่ยจองหอง “พวกเขากล้าล้อมกั้นตำหนักองค์ชายเว่ย ท่านฆ่าพวกดื้อด้านไม่กี่คนก็หยุดพวกเขาได้แล้ว!”
ครั้นองค์ชายเว่ยได้ยินกวนอิ่งเสี้ยมคนฆ่าประชาชน ก็ยิ่งกริ้วจนคันฟัน
โชคดีที่วันนี้ท่านหานเตือนตนไว้ เขาตัดสินใจปลอบพ่อค้าพวกนั้นกลับไปอย่างเด็ดขาด มิฉะนั้นหากถูกคนขององค์ชายคังแทรกซึมสังหารคนด้านในล่ะก็…
ผลที่ตามมาคงเลวร้ายเหนือจินตนาการ!
“ดื่มชา…”
องค์ชายเว่ยยิ้มขื่นพลางส่ายศีรษะ มีท่าทียากเกินอธิบาย
ในระหว่างทางที่กวนอิ่งมา นางรู้สึกปากกระหายน้ำ หลังคว้าถ้วยชาดื่มสองสามอึกก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม
“องค์ชาย หากเรารื้อถอนร้านเยอะ ๆ ก็จะได้เงินกำไรก้อนโต ท่านจะปล่อยไปเช่นนี้มิได้!”
“พลาดโอกาสนี้ไปก็จะไม่มีโอกาสดี ๆ เช่นนี้แล้วเพคะ!”
องค์ชายเว่ยมองถ้วยชาของกวนอิ่งที่จวนว่างเปล่าพลันยิ้มตาหยีกล่าว
“ชาอร่อยหรือไม่?”
“ไอหยา นี่เวลาไหนแล้ว ท่านยังห่วงชาอร่อยไม่อร่อย!”
กวนอิ่งกล่าวร้อนใจ “ท่านชอบดื่มชา คราวหน้าหม่อมฉันจะส่งใบชาที่ดีกว่านี้มาให้ท่าน!”
องค์ชายเว่ยยิ้มตาหยีกล่าว “ได้สิ เล่าลือว่านายท่านสกุลกวนชอบดื่มชา งั้นก็ส่งมาให้มาก ๆ เถิด!”
“คุณหนูใหญ่กวน… เจ้าก็ส่งมาด้วย!”
องค์ชายเว่ยหัวร่อเหลาะแหละ พลางเอื้อมมือมาลูบปรางแก้มกวนอิ่ง
กวนอิ่งโกรธฉับพลัน ฟาดมือขององค์ชายเว่ยออกหนึ่งฝ่ามือดังเพียะ เอ่ยด้วยหน้าแขยงแขงขน
“ในเมื่อองค์ชายเว่ยมิต้องการเงิน งั้นก็ช่างมัน หม่อมฉันจะไปหาคนอื่น!”
นางยืนขึ้นกะทันหัน แต่จู่ ๆ ก็รู้สึกวิงเวียนฉับพลัน โซเซพักหนึ่งพลางคิดว่าเจ้าตัวลุกไวเกินไป
“เจ้าจักหาผู้ใด? องค์ชายคังรึ?”
รอยยิ้มบนหน้าองค์ชายเว่ยหายวับไป เขาลุกขึ้นพลางโอบเอวกวนอิ่งไว้ พูดด้วยเสียงมืดมน
“หญิงชั่ว! ที่ตัวข้าชอบพอเจ้าคือให้เกียรติเจ้าแล้ว!”
“ในเมื่อเจ้าไม่เห็นค่า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
ลุ้นจะหนียังไง...
หงุดหงิด กับเด็กนรกก...
อ๋องอี้กับชิวเหวินซวงเหมาะสมกันมาก เหมือนผีเน่ากับโลงผุเลย คนนึงเป็นอ๋องใจบอด อีกคนมักใหญ่ใฝ่สูง เล่เหลี่ยมมากมาย...
ถ้านางเอกกับลูกยอมรับอ๋องอี้ในที่สุดคือไม่เข้าท่าเลยนะ...
จะได้เปิดโรงหมอแล้ว เย่ๆๆๆ...
อ๋องอี้ก็ยังโง่ให้คนอื่นจูงจมูกง่ายๆเหมือนเดิม...
ต่อให้ไม่ใช่ลูกเห็นเด็กเล็กโดนขนาดนั้นก็ต้องรู้สึกอะไรบ้างไหม แต่นี่คือจิตใจอำมหิตมากกกก...
ในที่สุดควสมจริงก็เปิดเผยสักที แล้วทุกคนจะรับผิดชอบที่รักแกเยวี่ยเยวี่ยกับหลิงอวี่อย่างไรล่ะ...
อ๋องอี้ก็เฮงซวย ฮ่องเต้ก็ถูกจูงจมูกง่ายๆ หวังว่านางเอกกับลูกจะรอด แล้วทำให้พ่อกับปู่รู้ว่าตัวเองชั่วช้าคิดฆ่าลูกกับหลานแท้ๆได้ลงคอ หรือยัยน้องกับลูกต้องถูกทรมานเจียนตายจนใกล้ตอนจบเลยหรือเปล่า ส่วนไทเฮานั้นถ้าน้องรอดชีวิตไปได้ก็อย่าได้พบหญิงชรานางนี้อีกเลย...
อ๋องอี้คือผัวสารเลวสุดแสนเฮงซวยที่สุดแล้ว ต่อไปข้างหน้า ถ้านางเอกมารักกับผัวเฮงซวยแทนที่จะเลิกรากันไปนี่คือ เธอช่างใจกว้างไปละ...