ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 38

พอเท่านี้หลิงอวี๋ก็ถือตะบองโบกนำทั้งสามคนเดินออกจากเรือนบุหงาอย่างลำพอง

แน่นอนว่าแม่นมลี่ไม่ได้ถือไปด้วย ใบหน้านางชราเหี่ยวย่น กำลังจูงมือหลิงเยว่เดินตามด้านหลัง

แม่นมลี่สิ้นวิธีเกลี้ยกล่อมหลิงอวี๋ แต่นางไม่อาจขัดขวางคุณหนูของตนได้ เลยทำตามความคิดเผชิญความยากลำบากร่วมกัน

หลิงอวี๋ยังมีรอยแผลเป็นอัปลักษณ์บนหน้าอยู่ แม้แผลจะสมานแล้ว แต่รอยก็ยังไม่หายไป มองไปแล้วยิ่งดูน่าเกลียดยิ่งนัก!

เหล่าคนรับใช้เห็นพวกนางสี่คนปรากฏตัวพร้อมกับไม้ตะบองด้วยอิริยาบถกำลังมองหาคนที่จะประมือด้วย ก็ตกใจกลัวจนพูดไม่ออก

หลิงอวี๋เห็นสีหน้าประหลาดใจของพวกเขา ก็นึกถึงประโยคยอดฮิตในยุคปัจจุบันอย่างรู้สึกขบขัน

เป็นคนอัปลักษณ์ไม่ใช่ความผิดของคุณ แต่ออกมาทำให้คนตกใจกลัวนั้นเป็นความผิดของคุณ!

เพียงแต่พวกนางยังไม่ได้ไปถึงครัว ความโกลาหลก็ได้แพร่กระจายไปหลังเรือนอย่างเร็วรี่และเรือนริมวารีที่เซียวหลินเทียนกำลังพำนักอยู่

“เป็นไปไม่ได้… เส้นลมปราณหัวใจของพระชายาล้วนสูญสิ้นไปหมดแล้วนี่ มีชีวิตเดินออกมาได้เยี่ยงไร!”

หลังไป่สือได้ฟังองครักษ์แจ้งให้ทราบ ก็รุดออกไปพร้อมกับเสียงตื่นตระหนก

เซียวหลินเทียนสีหน้าผันเปลี่ยนเช่นกัน สองวันมานี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ทำให้เขาลืมเรื่องของหลิงอวี๋ไป

หลังจากองครักษ์มากราบทูลเขาถึงนึกเรื่องนี้ขึ้นได้!

ไม่คิดเลยว่าหลิงอวี๋จะยังไม่ตาย? เซียวหลินเทียนสีหน้าฉงน

เส้นลมปราณหัวใจของนางขาดอย่างสิ้นเชิง เหมือนกับที่ไป่สือกล่าวในวันนั้น นอกเสียจากว่าจะมีโอสถหิรัณย์ทั้งแปดของซือคงชวิ่น มิฉะนั้นก็มิมีผู้ใดช่วยชีวิตนางได้!

โอสถหิรัณย์ทั้งแปด!

นั่นเป็นโอสถรักษาชีวิตที่ปรุงขึ้นโดยซือคงชวิ่น นักปราชญ์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งเขาอูซานของราชวงศ์ก่อน!

แม้แต่เงินมหาศาลก็แลกมาไม่ได้!

เซียวหลินเทียนเชื่อไป่สือว่าวินิจฉัยไม่พลาด เขารู้สึกว่าแม้หลิงอวี๋จะยังทรมานและเหลือลมหายใจอ่อนล้าใกล้สิ้นใจ

ใครจะไปคิดว่านางมีชีวิตรอดออกมา!

นางได้ประสบเรื่องประหลาดอะไรมาบ้างหรือ?

“เป็นจริงหรือไม่ ต้องทอดพระเนตรด้วยตัวพระองค์จึงจะรู้พ่ะย่ะค่ะ!”

ชิวเฮ่าเกือบกล่าวคำนี้ออกมาอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

ฝ่ามือนั้นเขาฟาดเองกับมือ เขาใช้กำลังไปสิบส่วนแล้ว!

เขาฟาดสตรีผู้นั้นไม่ตาย แสดงว่าหลายปีมานี้เขาฝึกปรือวรยุทธเสียเปล่า

“ท่านอ๋อง พระชายานำคนบุกมาในลานครัว ทำลายสิ่งของในครัวมากมาย พี่เหวินซวงส่งบ่าวมาขอความช่วยเหลือพ่ะย่ะค่ะ!”

คนในเรือนยังไม่ออกมา ก็มีบ่าวรับใช้ผู้หนึ่งวิ่งหอบแฮ่ก ๆ มาแล้ว

“ท่านอ๋อง รีบเสด็จไปทอดพระเนตรเถิดพ่ะย่ะค่ะ พระชายาทำร้ายแม่ครัวแล้ว แถมยังกล่าวว่าจะฆ่าหลิงหลาน… หากมาไปบ่าวกลัวกว่าหลิงหลานจะถูกพระชายาฆ่าพ่ะย่ะค่ะ!”

ข่าวสารเหล่านี้น่าตระหนกมากขึ้นเรื่อย ๆ !

เซียวหลินเทียนรู้สึกใจเต้นตึกตัก

“ไป ไปดูเสียหน่อย!”

เซียวหลินเทียนบันดาลโทสะ หลิงอวี๋ผู้นี้สามารถออกมีดแทงลำคอตัวเองได้แล้วยังจะอยากฆ่าหลิงหลานอีก!

ผู้ใดเป็นผู้มอบความหาญกล้าแก่นาง ช่างเป็นเวรเป็นกรรมจริงเชียว!

เซียวหลินเทียนรีบพากลุ่มคนมาถึงลานครัว ยังไม่ทันเข้าประตูไปก็ได้ยินเสียงด่าทอของหลิงหลาน

“คนแซ่หลิง เจ้าขวัญกล้าจะฆ่าข้ารึ! ท่านอ๋องจะทรงแสวงความยุติธรรมเพื่อข้าเป็นแน่!”

จากนั้นเสียงหัวเราะเยาะหยันของหลิงอวี๋ก็ดังขึ้น

“ข้ามิได้ขวัญกล้า! เจ้าต่างหากที่ขวัญกล้า! หากเจ้ากล้าก็แตะต้องคนของข้าอีกสิ!”

“เหล่าเหนียง(1)บอกเจ้า ฟันต่อฟัน ข้ามิได้แค่กล่าวเล่น เจ้าทุบตีหลิงซินไม้เดียว แต่หลิงซินจะคืนให้เจ้าสิบไม้!”

“ฉะนั้นคราวหน้าคิดจะลงมืออีก ต้องลองไตร่ตรองก่อนว่าเจ้าเล่นได้หรือไม่!”

เซียวหลินเทียนได้ยินวาจานี้สีหน้าก็เคร่งขรึม หลิงหลานลงมือต่อหลิงซินก่อนใช่หรือไม่?

เพราะเหตุใด?

“พระชายา หลิงหลานมิได้ตีหลิงซินเสียหน่อย แค่ผลักนางสองสามครั้งเอง เป็นตัวนางเองไม่ระวังทำให้กระแทกเข้าที่หน้า!”

“เจ้ามิควรเชื่อคำพูดเหลวไหลที่ใส่ความหลิงหลานเพียงเพราะนางเป็นทาสของเจ้า! เจ้าทำแบบนี้ทำให้พวกเราทำงานยากลำบาก!”

นี่เป็นเสียงของชิวเหวินซวง

“ชิวเหวินซวง ข้ามีตาไว้ให้ตัวเองดู! ทุบตีกับกระแทกข้าแยกแยะได้กระจ่างชัด!”

หลิงอวี๋ยิ้มหยัน หางตานางเห็นเซียวหลินเทียนและผู้ติดตามมาถึงปากประตูทางเข้าแล้ว

ชิวเหวินซวงสตรีปลอมเปลือกผู้นี้ ก่อนหน้าไม่ได้ขอร้องช่วยหลิงหลาน นี่จงใจปล่อยให้เรื่องบานปลายมาถึงตนเพื่อดึงดูดความสนใจของเซียวหลินเทียนหรือ?

เซียวหลินเทียนมาแล้ว นางก็พลันรีบแสดงตัวทันที

แต่นางหลิงอวี๋หาญกล้ามาก่อความวุ่นวายในวันนี้ ก็แสดงว่ามิหวั่นเกรงการมาของเซียวหลินเทียนเลย

เซียวหลินเทียนกับผู้ติดตามเดินเข้าไป และพบกับความยุ่งเหยิงในลานครัว

แม่ครัวและคนรับใช้หลายคนถอยอยู่ในมุมด้วยสีหน้าพรั่นพรึง กระถางกระเบื้องใบผักล้วนแตกหักเป็นเศษเล็กเศษน้อยเต็มพื้น

หลิงหลานโดนหลิงซินทุบตีล้มลงพื้น ผมยุ่งเหยิง และนางก็หมอบอยู่พื้นอย่างจนตรอก

หลิงหลานเห็นเซียวหลินเทียนเข้ามา ก่อนจะร้องตะโกนเสียงดังอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ “ท่านอ๋อง ท่านต้องแสวงความยุติธรรมเพื่อบ่าวนะเพคะ! พระชายานาง… รังแกคนเกินไปแล้ว!”

“นางชังบ่าวเพราะวันนั้นบ่าวเปิดโปงนาง นางอยากตีบ่าวให้ตายเพคะ!”

เซียวหลินเทียนเห็นหลิงหลานจมูกเขียวหน้าบวมที่ถูกทำร้ายอย่างหนัก มุมริมฝีปากยังเปรอะคราบโลหิต ก่อนจะถลึงตาไปทางหลิงอวี๋ด้วยความโกรธจนระงับอารมณ์ไม่อยู่

แต่ไป่สือกลับไม่สนใจหลิงหลาน กำลังจ้องมองหลิงอวี๋ไม่ละสายตา

สีหน้าหลิงอวี๋ยังมีความขาวซีดประปราย แต่สีหน้ากลับดีกว่าตอนลมหายใจอ่อนแรงขึ้นมาก!

“พระชายา… ให้กระผมดูท่านหน่อยขอรับ!”

ไป่สือมองมากเท่าใดก็ยิ่งดูแปลกมากเท่านั้น เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง

คนที่เคยถูกตัดสินโทษประหารในเมื่อก่อน ยังมีชีวิตอยู่ได้เยี่ยงไร!

และยังสามารถเดินไปใช้กำลังเหมือนคนปกติได้ด้วย!

เขารีบถลันเดินไปหลายก้าวดึงมือของหลิงอวี๋คิดตรวจชีพจรให้นาง ลองดูว่าตนได้วินิจฉัยพลาดหรือไม่

เหล่าเหนียง (老娘) ใช้แทนตัวเองแบบไม่สุภาพ หรือแม่ใช้แทนตัวเอง แปลว่า แม่(ผู้มีอายุ)

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา