พอเท่านี้หลิงอวี๋ก็ถือตะบองโบกนำทั้งสามคนเดินออกจากเรือนบุหงาอย่างลำพอง
แน่นอนว่าแม่นมลี่ไม่ได้ถือไปด้วย ใบหน้านางชราเหี่ยวย่น กำลังจูงมือหลิงเยว่เดินตามด้านหลัง
แม่นมลี่สิ้นวิธีเกลี้ยกล่อมหลิงอวี๋ แต่นางไม่อาจขัดขวางคุณหนูของตนได้ เลยทำตามความคิดเผชิญความยากลำบากร่วมกัน
หลิงอวี๋ยังมีรอยแผลเป็นอัปลักษณ์บนหน้าอยู่ แม้แผลจะสมานแล้ว แต่รอยก็ยังไม่หายไป มองไปแล้วยิ่งดูน่าเกลียดยิ่งนัก!
เหล่าคนรับใช้เห็นพวกนางสี่คนปรากฏตัวพร้อมกับไม้ตะบองด้วยอิริยาบถกำลังมองหาคนที่จะประมือด้วย ก็ตกใจกลัวจนพูดไม่ออก
หลิงอวี๋เห็นสีหน้าประหลาดใจของพวกเขา ก็นึกถึงประโยคยอดฮิตในยุคปัจจุบันอย่างรู้สึกขบขัน
เป็นคนอัปลักษณ์ไม่ใช่ความผิดของคุณ แต่ออกมาทำให้คนตกใจกลัวนั้นเป็นความผิดของคุณ!
เพียงแต่พวกนางยังไม่ได้ไปถึงครัว ความโกลาหลก็ได้แพร่กระจายไปหลังเรือนอย่างเร็วรี่และเรือนริมวารีที่เซียวหลินเทียนกำลังพำนักอยู่
“เป็นไปไม่ได้… เส้นลมปราณหัวใจของพระชายาล้วนสูญสิ้นไปหมดแล้วนี่ มีชีวิตเดินออกมาได้เยี่ยงไร!”
หลังไป่สือได้ฟังองครักษ์แจ้งให้ทราบ ก็รุดออกไปพร้อมกับเสียงตื่นตระหนก
เซียวหลินเทียนสีหน้าผันเปลี่ยนเช่นกัน สองวันมานี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ทำให้เขาลืมเรื่องของหลิงอวี๋ไป
หลังจากองครักษ์มากราบทูลเขาถึงนึกเรื่องนี้ขึ้นได้!
ไม่คิดเลยว่าหลิงอวี๋จะยังไม่ตาย? เซียวหลินเทียนสีหน้าฉงน
เส้นลมปราณหัวใจของนางขาดอย่างสิ้นเชิง เหมือนกับที่ไป่สือกล่าวในวันนั้น นอกเสียจากว่าจะมีโอสถหิรัณย์ทั้งแปดของซือคงชวิ่น มิฉะนั้นก็มิมีผู้ใดช่วยชีวิตนางได้!
โอสถหิรัณย์ทั้งแปด!
นั่นเป็นโอสถรักษาชีวิตที่ปรุงขึ้นโดยซือคงชวิ่น นักปราชญ์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งเขาอูซานของราชวงศ์ก่อน!
แม้แต่เงินมหาศาลก็แลกมาไม่ได้!
เซียวหลินเทียนเชื่อไป่สือว่าวินิจฉัยไม่พลาด เขารู้สึกว่าแม้หลิงอวี๋จะยังทรมานและเหลือลมหายใจอ่อนล้าใกล้สิ้นใจ
ใครจะไปคิดว่านางมีชีวิตรอดออกมา!
นางได้ประสบเรื่องประหลาดอะไรมาบ้างหรือ?
“เป็นจริงหรือไม่ ต้องทอดพระเนตรด้วยตัวพระองค์จึงจะรู้พ่ะย่ะค่ะ!”
ชิวเฮ่าเกือบกล่าวคำนี้ออกมาอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
ฝ่ามือนั้นเขาฟาดเองกับมือ เขาใช้กำลังไปสิบส่วนแล้ว!
เขาฟาดสตรีผู้นั้นไม่ตาย แสดงว่าหลายปีมานี้เขาฝึกปรือวรยุทธเสียเปล่า
“ท่านอ๋อง พระชายานำคนบุกมาในลานครัว ทำลายสิ่งของในครัวมากมาย พี่เหวินซวงส่งบ่าวมาขอความช่วยเหลือพ่ะย่ะค่ะ!”
คนในเรือนยังไม่ออกมา ก็มีบ่าวรับใช้ผู้หนึ่งวิ่งหอบแฮ่ก ๆ มาแล้ว
“ท่านอ๋อง รีบเสด็จไปทอดพระเนตรเถิดพ่ะย่ะค่ะ พระชายาทำร้ายแม่ครัวแล้ว แถมยังกล่าวว่าจะฆ่าหลิงหลาน… หากมาไปบ่าวกลัวกว่าหลิงหลานจะถูกพระชายาฆ่าพ่ะย่ะค่ะ!”
ข่าวสารเหล่านี้น่าตระหนกมากขึ้นเรื่อย ๆ !
เซียวหลินเทียนรู้สึกใจเต้นตึกตัก
“ไป ไปดูเสียหน่อย!”
เซียวหลินเทียนบันดาลโทสะ หลิงอวี๋ผู้นี้สามารถออกมีดแทงลำคอตัวเองได้แล้วยังจะอยากฆ่าหลิงหลานอีก!
ผู้ใดเป็นผู้มอบความหาญกล้าแก่นาง ช่างเป็นเวรเป็นกรรมจริงเชียว!
เซียวหลินเทียนรีบพากลุ่มคนมาถึงลานครัว ยังไม่ทันเข้าประตูไปก็ได้ยินเสียงด่าทอของหลิงหลาน
“คนแซ่หลิง เจ้าขวัญกล้าจะฆ่าข้ารึ! ท่านอ๋องจะทรงแสวงความยุติธรรมเพื่อข้าเป็นแน่!”
จากนั้นเสียงหัวเราะเยาะหยันของหลิงอวี๋ก็ดังขึ้น
“ข้ามิได้ขวัญกล้า! เจ้าต่างหากที่ขวัญกล้า! หากเจ้ากล้าก็แตะต้องคนของข้าอีกสิ!”
“เหล่าเหนียง(1)บอกเจ้า ฟันต่อฟัน ข้ามิได้แค่กล่าวเล่น เจ้าทุบตีหลิงซินไม้เดียว แต่หลิงซินจะคืนให้เจ้าสิบไม้!”
“ฉะนั้นคราวหน้าคิดจะลงมืออีก ต้องลองไตร่ตรองก่อนว่าเจ้าเล่นได้หรือไม่!”
เซียวหลินเทียนได้ยินวาจานี้สีหน้าก็เคร่งขรึม หลิงหลานลงมือต่อหลิงซินก่อนใช่หรือไม่?
เพราะเหตุใด?
“พระชายา หลิงหลานมิได้ตีหลิงซินเสียหน่อย แค่ผลักนางสองสามครั้งเอง เป็นตัวนางเองไม่ระวังทำให้กระแทกเข้าที่หน้า!”
“เจ้ามิควรเชื่อคำพูดเหลวไหลที่ใส่ความหลิงหลานเพียงเพราะนางเป็นทาสของเจ้า! เจ้าทำแบบนี้ทำให้พวกเราทำงานยากลำบาก!”
นี่เป็นเสียงของชิวเหวินซวง
“ชิวเหวินซวง ข้ามีตาไว้ให้ตัวเองดู! ทุบตีกับกระแทกข้าแยกแยะได้กระจ่างชัด!”
หลิงอวี๋ยิ้มหยัน หางตานางเห็นเซียวหลินเทียนและผู้ติดตามมาถึงปากประตูทางเข้าแล้ว
ชิวเหวินซวงสตรีปลอมเปลือกผู้นี้ ก่อนหน้าไม่ได้ขอร้องช่วยหลิงหลาน นี่จงใจปล่อยให้เรื่องบานปลายมาถึงตนเพื่อดึงดูดความสนใจของเซียวหลินเทียนหรือ?
เซียวหลินเทียนมาแล้ว นางก็พลันรีบแสดงตัวทันที
แต่นางหลิงอวี๋หาญกล้ามาก่อความวุ่นวายในวันนี้ ก็แสดงว่ามิหวั่นเกรงการมาของเซียวหลินเทียนเลย
เซียวหลินเทียนกับผู้ติดตามเดินเข้าไป และพบกับความยุ่งเหยิงในลานครัว
แม่ครัวและคนรับใช้หลายคนถอยอยู่ในมุมด้วยสีหน้าพรั่นพรึง กระถางกระเบื้องใบผักล้วนแตกหักเป็นเศษเล็กเศษน้อยเต็มพื้น
หลิงหลานโดนหลิงซินทุบตีล้มลงพื้น ผมยุ่งเหยิง และนางก็หมอบอยู่พื้นอย่างจนตรอก
หลิงหลานเห็นเซียวหลินเทียนเข้ามา ก่อนจะร้องตะโกนเสียงดังอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ “ท่านอ๋อง ท่านต้องแสวงความยุติธรรมเพื่อบ่าวนะเพคะ! พระชายานาง… รังแกคนเกินไปแล้ว!”
“นางชังบ่าวเพราะวันนั้นบ่าวเปิดโปงนาง นางอยากตีบ่าวให้ตายเพคะ!”
เซียวหลินเทียนเห็นหลิงหลานจมูกเขียวหน้าบวมที่ถูกทำร้ายอย่างหนัก มุมริมฝีปากยังเปรอะคราบโลหิต ก่อนจะถลึงตาไปทางหลิงอวี๋ด้วยความโกรธจนระงับอารมณ์ไม่อยู่
แต่ไป่สือกลับไม่สนใจหลิงหลาน กำลังจ้องมองหลิงอวี๋ไม่ละสายตา
สีหน้าหลิงอวี๋ยังมีความขาวซีดประปราย แต่สีหน้ากลับดีกว่าตอนลมหายใจอ่อนแรงขึ้นมาก!
“พระชายา… ให้กระผมดูท่านหน่อยขอรับ!”
ไป่สือมองมากเท่าใดก็ยิ่งดูแปลกมากเท่านั้น เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
คนที่เคยถูกตัดสินโทษประหารในเมื่อก่อน ยังมีชีวิตอยู่ได้เยี่ยงไร!
และยังสามารถเดินไปใช้กำลังเหมือนคนปกติได้ด้วย!
เขารีบถลันเดินไปหลายก้าวดึงมือของหลิงอวี๋คิดตรวจชีพจรให้นาง ลองดูว่าตนได้วินิจฉัยพลาดหรือไม่
เหล่าเหนียง (老娘) ใช้แทนตัวเองแบบไม่สุภาพ หรือแม่ใช้แทนตัวเอง แปลว่า แม่(ผู้มีอายุ)
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
ลุ้นจะหนียังไง...
หงุดหงิด กับเด็กนรกก...
อ๋องอี้กับชิวเหวินซวงเหมาะสมกันมาก เหมือนผีเน่ากับโลงผุเลย คนนึงเป็นอ๋องใจบอด อีกคนมักใหญ่ใฝ่สูง เล่เหลี่ยมมากมาย...
ถ้านางเอกกับลูกยอมรับอ๋องอี้ในที่สุดคือไม่เข้าท่าเลยนะ...
จะได้เปิดโรงหมอแล้ว เย่ๆๆๆ...
อ๋องอี้ก็ยังโง่ให้คนอื่นจูงจมูกง่ายๆเหมือนเดิม...
ต่อให้ไม่ใช่ลูกเห็นเด็กเล็กโดนขนาดนั้นก็ต้องรู้สึกอะไรบ้างไหม แต่นี่คือจิตใจอำมหิตมากกกก...
ในที่สุดควสมจริงก็เปิดเผยสักที แล้วทุกคนจะรับผิดชอบที่รักแกเยวี่ยเยวี่ยกับหลิงอวี่อย่างไรล่ะ...
อ๋องอี้ก็เฮงซวย ฮ่องเต้ก็ถูกจูงจมูกง่ายๆ หวังว่านางเอกกับลูกจะรอด แล้วทำให้พ่อกับปู่รู้ว่าตัวเองชั่วช้าคิดฆ่าลูกกับหลานแท้ๆได้ลงคอ หรือยัยน้องกับลูกต้องถูกทรมานเจียนตายจนใกล้ตอนจบเลยหรือเปล่า ส่วนไทเฮานั้นถ้าน้องรอดชีวิตไปได้ก็อย่าได้พบหญิงชรานางนี้อีกเลย...
อ๋องอี้คือผัวสารเลวสุดแสนเฮงซวยที่สุดแล้ว ต่อไปข้างหน้า ถ้านางเอกมารักกับผัวเฮงซวยแทนที่จะเลิกรากันไปนี่คือ เธอช่างใจกว้างไปละ...