ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 55

หลิงอวี๋ตัวน้อยในความทรงจำยืนอยู่ที่ประตู เห็นว่าหลิงเสียงเซิงผลักหลานฮุ่ยจวนล้มลงกับพื้น นางไอออกมาหลายครั้ง แล้วกระอักเลือดสีดำออกมาจำนวนมาก

หลิงเสียงเซิงพบหลิงอวี๋ตัวน้อยที่หน้าประตู ก็ก่นด่า “เจ้าผู้หญิงบ้า เจ้าทำให้ลูกตกใจ!”

เขาอุ้มหลิงอวี๋ตัวน้อยขึ้นแล้วเดินออกไป

ผ่านไปไม่กี่วัน หลานฮุ่ยจวนก็ตาย

วันนั้นหลิงอวี๋ตัวน้อยตกใจมากจนป่วยหนัก ไปร่วมพิธีศพอย่างมึนงง ความทรงจำที่มีต่อหลานฮุ่ยจวนเลือนรางมาก

หลิงอวี๋ยืนมองอยู่ในมุมของคนที่มองเข้าไป ก็เห็นอะไรแปลก ๆ เยอะมาก

หลานฮุ่ยจวนตายไปยังไม่ทันครบปี หลิงเสียงเซิงก็ทนไม่ไหวไปพาอนุภรรยาตระกูลหวังมาอยู่ด้วย!

แล้วนางก็กระอักเลือดสีดำออกมา!

นี่มันคล้ายกับอาการที่ได้รับพิษมาก!

หรือว่าในปีนั้นหลายฮุ่ยจวนจะตายอย่างแปลกประหลาดจริง ๆ ?

นางไม่ได้ตายแบบปกติ แต่ถูกคนวางยาพิษหรือ?

คำพูดนั้นที่หลานฮุ่ยจวนพูด ‘พวกเจ้าทำร้ายข้า...’

บางทีนี่อาจจะไม่ได้หมายถึงทำร้ายความรู้สึกของหลานฮุ่ยจวน!

แต่มันหมายถึงทำร้ายชีวิตของนาง?

หากอยากจะหาสาเหตุการตายของหลานฮุ่ยจวนในแน่ชัด ยังต้องหาโอกาสไปหาที่จวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนอีก ตอนนี้หลิงอวี๋จึงทำได้เพียงแค่ปล่อยไปก่อน

หลังจากทำความสะอาดหลุมศพแล้ว ก็จัดวางเครื่องเซ่นไหว้ แม่นมลี่เผากระดาษเงินไปแล้ว หลิงอวี๋ก็ดึงตัวหลิงเยว่ไปจุดธูปให้หลานฮุ่ยจวน

“นี่คือท่านยายของเจ้า… ไปจุดธูปให้นางเสีย ให้นางอวยพรให้เยว่เยว่ของพวกเราเติบโตยิ่ง ๆ ขึ้นไป ! สุขภาพร่างกายแข็งแรง!”

หลิงเยว่คุกเข่าลงอย่างตั้งใจ คำนับไปสามครั้งแล้วพูดอย่างเด็ก ๆ

“ท่านยาย เยว่เยว่มาคำนับท่านยายขอรับ! หวังว่าดวงวิญญาณของท่านยายที่อยู่บนสวรรค์จะอวยพรให้ท่านแม่อยู่เย็นเป็นสุข สุขภาพร่างกายแข็งแรงนะขอรับ...”

“อวยพรให้เยว่เยว่โตไว ๆ ให้ปกป้องท่านแม่ได้ ทำท่านไม่ถูกใครรังแกอีกเลย!”

แม่นมลี่น้ำตารื้น แล้วคำนับให้หลานฮุ่ยจวนพลางพูด

“นายหญิง วิญญาณของนายหญิงบนสวรรค์ต้องคุ้มครองพวกเขาทั้งสองนะเจ้าคะ อวยพรให้พวกเขาได้มีชีวิตที่ดี มีชีวิตที่ราบรื่นตลอดชีวิตเลย...”

กระทั่งทั้งสี่คนจุดธูปเสร็จและกินอาหารแห้งที่นำมาเสร็จแล้ว คุณแม่นมลี่ยังคงคิดที่จะไปเติมน้ำมันหอมที่วัดชิงเหลียนให้หลิงอวี๋ จึงเร่งให้ทั้งสามคนเก็บข้าวของและลงจากภูเขา

กระทั่งลงมาจากภูเขาด้านหลัง ยังไม่ทันจะถึงวัดชิงเหลียน หลิงอวี๋ก็ได้ยินเสียงใครบางคนเรียกอย่างคลุมเครือ "ช่วยด้วย..."

ตั้งแต่ที่หลิงอวี๋ได้น้ำศักดิ์สิทธิ์ในมิติ แล้วก็พบว่าความสามารถในการเชื่อมโยงความรู้สึกยิ่งแข็งแกร่งขึ้น การได้ยินและการดมกลิ่นของนางก็ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน

หลิงอวี๋หยุดฝีเท้า ขมวดคิ้วมองไปที่ป่าไม้ที่อยู่ไกล ๆ เวลานี้เสียงขอให้ช่วยชีวิตยิ่งชัดเจนขึ้น

“แม่นม… ทางนั้นดูเหมือนจะเกิดเรื่องแล้ว! ข้าได้ยินมีคนร้องให้ช่วย พวกเจ้ารออยู่ที่นี่นะ ข้าจะไปดู!”

หลิงอวี๋วางตะกร้าที่ถืออยู่ลง แล้ววิ่งไปในทิศทางนั้น

“คุณหนู มีคนร้องให้ช่วยที่ไหนกันเจ้าคะ! คุณหนูอย่าวิ่งไปทั่วเจ้าค่ะ ในภูเขานี้มีงูนะเจ้าคะ...”

แม่นมลี่คิดจะเรียกนางเอาไว้อย่างร้อนใจ แต่หลิงอวี๋วิ่งออกไปไกลนานแล้ว แม่นมลี่ทำได้เพียงพาพวกหลิงซินตามไป

“ช่วยด้วย… ช่วยข้าด้วย...”

หลิงอวี๋วิ่งเข้าไปใกล้แล้ว แล้วก็ได้ยินเสียงร้องอย่างตื่นตระหนกของผู้หญิงสองคน

เมื่อทะลุป่าไม้ไป นางก็เห็นผู้หญิงมีอายุใส่ชุดหรูหรากำลังนอนอยู่ที่พื้น

หลิงอวี๋หยุดฝีเท้าไว้ทันที แล้วใช้ใจรู้สึกถึงอาการของหญิงผู้นี้

นางรู้สึกว่าหน้าอกตัวเองอึดอัด หายใจไม่ออก… ที่แท้ก็ใจสั่นเพราะเกิดจาดโรคหอบหืด...

หลิงอวี๋หันไปมอง เห็นว่าพวกแม่นมลี่ยังเดินเข้ามาไม่ใกล้เท่าไหร่ นางจึงรีบเข้าไปในมิติ เอายาและเข็มฉีดยาออกมา อีกทั้งยังหยิบสเปรย์แก้หอบหืดออกมาจากมิติด้วย

นางวิ่งต่อไปข้างหน้า แล้วก็เห็นแม่นมคนหนึ่งร้องไห้อยู่

“ฮะ… ฮูหยินใหญ่ ท่านอย่าทำให้ข้าตกใจสิเจ้าคะ… เสี่ยวลิ่วจื่อวิ่งลงไปเรียกคนแล้ว ท่านจะต้องไม่เป็นอะไรนะเจ้าคะ!”

“แม่นมเว่ย… นี่จะทำเยี่ยงไรดี? เสี่ยวลิ่วจื่อจะมาทันหรือไม่? หากฮูหยินใหญ่สิ้นชีพอยู่ที่นี่… พวกเราเองก็จะต้องถูกตีตายอยู่เป็นเพื่อนข้างหลุมศพเป็นแน่!”

นางรับใช้ที่อยู่ข้าง ๆ ผู้นั้นใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาคุกเข่าอยู่ข้างกายฮูหยินใหญ่แล้วร้องไห้ออกมาอย่างสิ้นหวัง

หลิงอวี๋กวาดสายตามองฮูหยินใหญ่ที่พื้น ดูท่าทางจะอายุประมาณหกสิบปี แม้ว่าบนใบหน้าจะมีริ้วรอยอยู่บ้าง แต่ก็แต่งกายด้วยผ้าอย่างดี

แม้ว่าใบหน้าของฮูหยินใหญ่จะดูใจดี มีผมขาวขึ้น แต่คิ้วก็มีความคมกริบ แม้ว่าจะอยู่ในอาการโคม่า แต่ก็ยากที่จะปิดออร่าที่อยู่รอบตัวได้

แม่นมที่อยู่ข้าง ๆ นางอายุน่าจะพอ ๆ กันกับฮูหยินใหญ่ รูปร่างสูงมาก แม้ว่าหางตาจะมีริ้วรอยเยอะ แต่ผิวกลับได้รับการดูแลปกป้องไว้อย่างดี

ทั้งสามคนล้วนใส่ชุดสุภาพ ดูท่าทางแล้วน่าจะมาจากตระกูลร่ำรวย!

หลิงอวี๋มองฮูหยินใหญ่ที่หอบอย่างรุนแรง ตาเบิกกว้างจ้องไปในอากาศอย่างสิ้นหวัง ท่าทางดูเจ็บปวดมาก

“แม่นม ข้ารู้ทักษะการแพทย์อยู่บ้าง ข้าสามารถดูอาการให้ฮูหยินใหญ่ผู้นี้ได้หรือไม่?” หลิงอวี๋ก้าวเข้าไปถาม

แม่นมเว่ยหันไปมองอย่างตกใจ เห็นใบหน้าที่มีบาดแผลเต็มหน้าของนางแล้วก็ตะลึงไป

“เจ้าเป็นใคร?”

นางรับใช้ปาดน้ำตา แล้วตะคอกถามเสียงแข็ง

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าฮูหยินใหญ่ของพวกเราคือใคร? พอจะรู้ทักษะการแพทย์แล้วคิดจะมารักษาให้ฮูหยินใหญ่ของพวกเรารึ? ชีวิตของเจ้ามันยืนยาวเกินไปหรืออย่างไร?”

“เจ้ารีบไปเถิด! อย่าเอาชีวิตมาทิ้งโดยไม่ยุติธรรมเลย!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา