ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 61

เสิ่นจวนเห็นเจิงจื่ออวี้เสียหน้าก็พลันช่วยพูดทันควัน “อย่าว่าแต่เรื่องดูแคลนอันใดเจ้า ตัวข้าสามารถดูแคลนเจ้าได้ประเดี๋ยวนี้เลย!”

“หากเจ้าไม่มีเงินกินข้าวจริง ๆ มาเป็นนางรับใช้ให้ข้าสักวัน แล้วข้าจะช่วยค่าอาหารของวันนี้แก่เจ้าเป็นเช่นไร?”

สตรีที่กำลังจ้องหลิงอวี๋อย่างอาฆาตคือฉินรั่วซือ น้องสาวของฉินซาน

นางทนไม่ไหวเลยกล่าวเสียงเย็นชา

“เสิ่นจวน นางเลือกภัตตาคารจี๋เสียงแล้วกลับยังต้องการให้เจ้าออกเงินช่วยอีกรึ!”

“นางยังติดหนี้เกิ่งเอ้อเหยอยู่เลย ถ้านางจะเข้าไปยืมอีกก็ไม่เห็นจะเป็นไร! ลำบากขนาดนี้แล้วยังจะกลัวอะไรอีก!”

คุณหนูคนอื่น ๆ ได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเอิ๊กอ๊าก แม้การพรรณนานี้จะหยาบ แต่เหมาะกับหลิงอวี๋ยิ่ง!

เมื่อได้ยินเช่นนั้นหัวใจหลิงอวี๋กลับเต้นผิดจังหวะ คาดมิถึงว่านี้คือภัตตาคารที่เกิ่งเอ้อเหยเปิดกิจการ?

นางกำลังใคร่ครวญว่า จะไถ่ถอนมรดกตกทอดวงศ์ตระกูลของเซียวหลินเทียนกลับมาอย่างไรดีและคืนเงินกู้ดอกเบี้ยสูงที่ตัวเองติดค้าง!

นี่คือการหลับในแล้ววิ่งชนหมอนจริงๆ(1)ชัด ๆ!

ในบรรดาร้านยาสมุนไพรพวกนั้นไม่มีความรู้สรรพคุณยาเสียเลย แต่เกิ่งเอ้อเหยเป็นคนในยุทธภพเช่นนี้ต้องรู้เป็นแน่!

“แม่นม เราไปร้านนี้ล่ะ!”

หลิงอวี๋ไม่สนใจเสิ่นจวนและคนอื่น ๆ อีก ก่อนจะจูงหลิงเยวี่ยและลากแม่นมลี่เดินเข้าไป

ฝั่งตรงข้ามบนถนน มีคุณชายฐานะมั่งคั่งผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงนั้นกับเด็กรับใช้สองคน และเขาได้เห็นฉากเหตุการณ์นี้ทั้งหมด

เขากำลังสวมอาภรณ์ชั้นในสีขาวเงิน ทับด้วยอาภรณ์ชั้นนอกเนื้อโปร่งสีเงินปักลายต้นไผ่ขาว และผูกผ้าคาดเอวสีขาวขอบเงิน

มีเค้าหน้ารูปงาม ผิวพรรณขาวผ่อง ขนตายาวและคู่นัยน์ตานิลพร่างพราย ครั้นคลี่ยิ้มดุจเดือนเสี้ยว

คุณชายฐานะมั่งคั่งกำลังมองหลิงอวี๋เดินเข้ามา ในมือสะบัดพัดคลี่กล่าวยิ้มแย้มว่า

“นั่นมิใช่พระชายาอ๋องอี้หรือ? เหตุใดมีเรื่องน่าขบขันทุกคราที่พบนางเสมอเลย!”

คราก่อนก็พบหลิงอวี๋สตรีปากคอเราะรายกำลังข่วนหน้าเส้าเจิ้งซานอยู่บ่อนพนันเช่นกัน จนเกือบทำเขาหัวเราะพรวด!

ไม่คิดเลยว่า หลังเดินทางไกลกลับมาเที่ยวหนึ่งก็พบหลิงอวี๋ซ้ำอีกหน ทั้งยังกล่าววาจาน่าขันเช่นนี้!

มิผิด ผู้นี้คือสหายสนิทในวัยเยาว์ของเซียวหลินเทียน องค์รัชทายาทอันเจ๋อแห่งแคว้นเจิ้นหนาน!

“เพียงอดทน… มิต้องไปสนใจ รออีกสักสองสามปีดูว่าเขาจะเป็นเยี่ยงไร! ฮ่าฮ่า น่าขันยิ่ง!”

ยิ่งอันเจ๋อวิจารณ์คำพูดนี้ก็ยิ่งรู้สึกว่ามีหลักปรัชญาอยู่

เดิมทีเขาคิดไปเยี่ยมเซียวหลินเทียน ทว่าเมื่อเห็นเสิ่นจวนกับกลุ่มพวกนางกำลังตามหลิงอวี๋เข้าไปในภัตตาคารจี๋เสียง พลันก็เปลี่ยนใจทันควัน ก่อนจะเอ่ยกับเด็กรับใช้ตน

“เจ้าเอาของกํานัลไปถวายตำหนักอ๋องอี้ แล้วทูลว่าตัวข้าเรียนเชิญท่านอ๋องเสวยพระกระยาหาร ไปเชิญพระองค์มาเสีย!”

เด็กรับใช้เหลือบมองเจ้านายตนอย่างไร้ทางเลี่ยงเช่นกันและรู้ดีว่าพระองค์โปรดการชมความบันเทิงแบบผิด ๆ ยิ่ง เขาขานตอบรับพร้อมถือของกำนัลเดินจากไป

อันเจ๋อรู้จักเสิ่นจวนและเจิงจื่ออวี้แถมรู้ด้วยว่า พวกนางกับหลิงอวี๋ไม่ลงรอยกัน พวกนางเข้าไปตามหลิงอวี๋ ซึ่งต้องเกิดความชุลมุนขึ้นอีกเป็นแน่

ด้วยสีหน้าไร้คลื่นอารมณ์ของเซียวหลินเทียนมักมิโปรดการชมเหตุการณ์บันเทิงเป็นเนืองนิตย์ งั้นวันนี้ก็ให้เขาได้ชมความบันเทิงสักครั้งเถอะ!

เมื่อรอให้อันเจ๋อขึ้นไปก็พบว่า มีแค่ชั้นสองที่ยังเหลือที่นั่งสามโต๊ะ

เมื่อก่อนเคยนั่งแค่ห้องส่วนตัวเท่านั้น ทำให้เกิ่งเสี่ยวหาวได้เหลือห้องหนึ่งให้เขาโดยเฉพาะที่ภัตตาคารจี๋เสียง

แต่เมื่อเขาเห็นหลิงอวี๋และเสิ่นจวนยึดนั่งคนละโต๊ะไม่ได้ไปห้องส่วนตัว ก็เลยเลือกโต๊ะที่อยู่ข้าง ๆ หลิงอวี๋

หลิงอวี๋กำลังสั่งอาหาร อันเจ๋อนึกถึงคำพูดที่ได้ยินเมื่อครู่เลยบอกเสี่ยวเอ้อร์ว่าตนสั่งตามหลิงอวี๋หนึ่งชุด…

เขาคิดคำนวณเงินไปเงียบ ๆ แล้วมันก็นับจนเกือบถึงสามร้อยตำลึง!

อาหารหลายอย่างนี้ล้วนมิใช่จานโปรดของเซียวหลินเทียน อันเจ๋อจึงสั่งเพิ่มอีกสองสามอย่าง

หลิงอวี๋สั่งอาหารไม่ดูราคา แต่ละอย่างที่สั่งล้วนอ้างอิงมาจากรสนิยมของแม่นมลี่ หลิงเยวี่ยและหลิงซิน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา