ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 65

แม่นมถูกสายตานางมองจนเหงื่อกาฬผุดพรายท่วมร่าง

สวรรค์รู้ว่าเมื่อกี้นางออกไปเพียงเดินวนเรื่อยเปื่อย เดิมทีไม่ได้ไปจวนท่านลุงด้วยซ้ำ!

ไฉนเลยจะรู้ว่า พอวนกลับมาก็เห็นคนสวมเสื้อผ้าขันทีสองคนถือเทียบเชิญมาสองใบ!

“พระชายา… เดิมทีขันทีสองท่านนั้นอยากมอบให้เองกับมือเพคะ บ่าวเกรงจะลำบากพวกเขาเกินควรเลยตัดสินใจรับมา..”

“เทียบเชิญพวกนี้สำหรับมอบให้พระชายาอ๋องอี้เพคะ!”

แม่นมยื่นส่งเทียบเชิญสองใบออกไป

“โอ้โห พระชายาผิงหยางมีสัมพันธ์อันดีกับไทเฮาจริง ๆ ! เพิ่งไปขอก็ได้มาเลย...”

บรรดาคุณหนูไม่รู้ความจริงจึงเกิดเสียงดังอื้ออึงทันใด ก่อนจะพากันมุงชายาผิงหยางกันอย่างพร้อมเพรียง

ชายาผิงหยางรับเทียบเชิญที่บรรจงเคลือบทองมาอย่างสนเท่ห์แล้วดูให้ละเอียด พบว่านั่นเป็นเทียบเชิญร่วมงานเฉลิมฉลองพระราชสมภพของไทเฮาโดยแท้!

บนเทียบเชิญสองใบนั้นเดินทองสวยงาม คือการเชิญชวนหลิงอวี๋กับหลิงเยวี่ยคนละใบ!

เทียบเชิญทั้งสองใบเขียนด้วยลายมือมังกรเหินหงส์ระบำ(1) เมฆาล่องลอย สายธารไหลริน(2)

ฝูงชนต่างมองอึ้ง พอผ่านไปสักพัก สวี่เหยียนถึงกับมองค้อนไปทางชายาผิงหยางด้วยสีหน้าขุ่นเคือง ก่อนจะกล่าวด้วยแรงริษยา

“พระชายากู้เกียรติศักดิ์ศรีให้ชายาอ๋องอี้จริงด้วย ท่านช่วยนางให้ได้รับเทียบเชิญของไทเฮาจริง ๆ ช่างผิดคาดนัก!”

บรรดาคุณหนูก็มองค้อนไปทางชายาผิงหยางด้วยความอัปยศ

มิใช่ว่าอยากทำให้นางโง่เขลาหลิงอวี๋นั่นต้องอับอายหรอกรึ?

ไยถึงยังช่วยเอาเทียบเชิญให้หลิงอวี๋จริง ๆ ?

“นี่...” ชายาผิงหยางไม่กระจ่างว่าเกิดสิ่งใดขึ้น ไฉนเลยจะกล้าเปิดปากพูดสุ่มสี่สุ่มห้า

นี่คือเทียบเชิญของไทเฮาจริง นางรู้ว่าตนไม่ได้มีความสามารถพอไปรับมาเองได้

ตอนเมื่อคืนนี้มีสตรีมั่งคั่งผู้หนึ่งได้ยินข่าวก็รุดหน้าไปเรือนของนาง สัญญาว่าถ้านางช่วยตนให้ได้รับสักใบก็จะจ่ายห้าหมื่นตำลึงเงิน!

นางเลยไปหาลูกพี่ลูกน้องที่บ้านในตอนเช้าวันนี้ คิดอยากได้เทียบเชิญผ่านเส้นสาย แต่ผลสุดท้ายก็ถูกลูกพี่ลูกน้องปฏิเสธไป

ในขณะนั้นลูกพี่ลูกน้องก็กล่าวดูหมิ่นว่า “ห้าหมื่นตำลึงเงินนับเป็นสิ่งใด! เช้าวันนี้มีคนรุดหน้ามาหาข้าล้วนเสนอหนึ่งแสนตำลึงเงิน!”

“ผู้ใดบ้างไม่อยากออกงานสังคมในวังหลวงและได้รับความสนใจจากไทเฮา? ลูกพี่ลูกน้อง ข้าก็อยากได้เงินนั้นนะ แต่ทำอย่างไรก็เอาเทียบเชิญมาไม่ได้!”

เทียบเชิญสองใบ นั่นเป็นสองแสนตำลึงเงินสว่างตาพราวเชียวนะ!

หากชายาผิงหยางรับเทียบเชิญมาได้จริงนางจะเอาไปขายต่อแน่นอน ไยต้องเอาให้หลิงอวี๋ชั้นต่ำนั่นง่าย ๆ ด้วยเล่า?!

“ชายาอ๋องอี้ เจ้าควรขอบพระคุณพระชายาผิงหยางเสีย ครานี้โขกหัวคำนับไม่กี่ครั้งก็ยังมิเพียงพอต่อเทียบเชิญสองใบแล้ว! เพราะนี่คือบุญคุณมหาศาล!”

“ใช่แล้ว ถ้าเปลี่ยนเป็นข้า ผู้ใดทำให้ข้าได้รับเทียบเชิญ ข้าจะโขกหัวคำนับต่อนางยี่สิบทีถึงพอ!”

บรรดาคุณหนูเริ่มถากถางอย่างเจ็บใจ คนที่มุงดูในเหตุการณ์บางคนอิจฉาตาร้อน บางคนอิจฉายินดีและบางคนก็เลื่อมใสชายาผิงหยางเช่นกัน

เทียบเชิญเลอค่าขนาดนี้ ไม่คาดว่าชายาผิงหยางจะช่วยหลิงอวี๋ได้ถึงสองใบ ลูกพี่ลูกน้องของนางมีสัมพันธ์อันดีกับไทเฮาล้นหลามจริง ๆ !

ดูไปแล้ว ตำหนักชายาผิงหยางมิได้ขาดเงินขาดอำนาจดังคาด!

แต่นี้ไปก็เป็นการดีที่จะประจบสอพลอชายาผิงหยาง!

อันเจ๋อสบตากับเซียวหลินเทียนด้วยสายตาฉงนใจ ทั้งสองสีหน้ามืดครึ้มลงเล็กน้อย

หรือว่าในราชสำนักเกิดความแปรผันอะไรขึ้นอีก?

แต่พวกเขาไม่รู้อะไรต่อเรื่องนี้เลยรึ?

“เทียบเชิญเป็นคนในวังหลวงส่งมาจริงหรือ?” มีคนถามขึ้นอย่างแปลกใจ

“เจ้าค่ะ เป็นขันทีมีอายุสักหน่อยผอมสูงผู้หนึ่ง! ด้านหลังยังมีขันทีน้อยติดตาม!”

แม่นมของชายาผิงหยางกล่าวอึกอัก “บ่าวมิรู้จัก แต่เขาเรียกตัวเองแซ่เซี่ยเพคพะ!”

“นี่เป็นไปไม่ได้! ผู้ที่มีอายุสักหน่อยและแซ่เซี่ยในวังหลวงมีแค่ขันทีเซี่ย!”

“แต่ขันทีเซี่ยเป็นขันทีโปรดใกล้ชิดจักรพรรดิ ไฉนเลยจะกล้ารบกวนเขาให้ส่งเทียบเชิญเล่า?!”

“ใช่ เมื่อเช้าเป็นขันทีน้อยแผนกพิธีการส่งเทียบเชิญให้ท่านพ่อข้า ผู้ใดจะมีเกียรติมากถึงขนาดให้ขันทีเซี่ยส่งบัตรให้โดยเฉพาะกัน!”

หลิงอวี๋มองพวกนางคุยกันสนุกสนาน ก่อนจะยิ้มตาหยีกล่าวคำ “ข้าไง!”

พอเอ่ยออกมา ทุกคนก็หันมองไปทางหลิงอวี๋หมดสิ้น ก่อนที่สายตารังเกียจเหยียดหยามต่างแทงทะลวงบนร่างนางตาม ๆ กันดุจกระบี่

“ชายาอ๋องอี้ เจ้ายังหน้าด้านอยู่อีกรึ! แม้แต่หน้าคร่าตาของเจ้าขันทียังล้วนไม่รู้ทั้งสิ้น เจ้ายังมีหน้ามาพูดว่าเขาเจาะจงส่งเทียบเชิญให้เจ้าโดยเฉพาะงั้นรึ?”

“ถูกต้อง อาจมิใช่ขันทีเซี่ยส่ง แม่นมฟังผิดเป็นแน่!”

“ชายาอ๋องอี้ เป็นอันว่า ขันทีวังหลวงส่งเทียบเชิญให้เจ้า แต่นั่นเป็นเพราะเห็นแก่เกียรติของรองหัวหน้าขันทีกับพระชายาผิงหยางถึงได้รุดหน้ามาครั้งนี้ เจ้ายังคิดว่าเป็นเกียรติของตัวเองอีกรึ!”

“พระชายาผิงหยางขอเทียบเชิญช่วยเจ้า เจ้าไม่ซาบซึ้งก็ช่างเถอะ! แต่ยังพูดไร้คุณธรรมเช่นนี้ หัวใจถูกสุนัขกินไปแล้วกระมัง(3)?”

“ไม่รู้จักบุญคุณก็ไม่ต่างอะไรไปจากสัตว์เดรัจฉาน!”

จากนั้นคนในเหตุการณ์ล้วนพากันประณามหลิงอวี๋

ดวงหน้าของเซียวหลินเทียนมืดครึ้มทั้งดวง ถลึงตามองอันเจ๋ออย่างกริ้วโกรธ เขารู้นานแล้วว่าไม่ควรฟังอันเจ๋อให้มาที่นี่ เขาอยากรีบรุดจากไปเพื่อให้เหตุการณ์อยู่นอกสายตาจึงจะไม่หงุดหงิด!

“ทว่าเหตุการณ์นี้มีความพิกลอยู่เล็กน้อย!”

ชายาผิงหยางนึกแล้วก็ยิ่งรู้สึกมีลับลมคมในขึ้นเรื่อย ๆ นางกำลังคิดที่จะดึงแม่นมเข้าหาตนและแอบถามว่าเกิดสิ่งใดขึ้น ก็พลันเห็นเสี่ยวเอ้อร์กำลังพาลูกพี่ลูกน้องที่เพิ่งเอ่ยถึงเข้ามากับขันทีสองสามคนแล้ว

พวกเขาส่งเทียบเชิญเสร็จสิ้นแล้ว ทว่าเวลาไม่พอกลับวังหลวงเลยคิดหาที่ทานอาหารก่อนสักที่

ชายาผิงหยางใช้นิ้วหนีบเทียบเชิญของหลิงอวี๋ยื่นเข้าไปใกล้ เอ่ยถามว่า

“ลูกพี่ลูกน้อง มิใช่ว่าท่านเคยบอกหรือว่ายากมากที่จะได้รับเทียบเชิญงานเฉลิมฉลองพระราชสมภพของไทเฮา? เหตุใดถึง...”

มังกรเหินหงส์ระบำ เป็นสำนวนหมายถึง มีชีวิตชีวาและกระฉับกระเฉง

เมฆาล่องลอย สายธารไหลริน เป็นสำนวนหมายถึง ตัวอักษร ภาพวาดหรือบทกลอนเขียนอย่างไม่มีสิ่งผูกมัด กล่าวคือเขียนออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ

หัวใจถูกสุนัขกินแล้วหรือ อุปมาถึง ไร้คุณธรรมหรือขาดจิตสำนึก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา