ลูกพี่ลูกน้องของชายาผิงหยางเป็นรองเจ้ากรมวังที่แจกเทียบเชิญ ครั้นได้ยินเข้าก็คิดว่าชายาผิงหยางยังไม่ยอมแพ้ในเรื่องเมื่อเช้าแล้วจึงกล่าวอย่างหงุดหงิดว่า
“อย่าขอให้ข้าจัดหาเทียบเชิญช่วยเจ้าอีก! ข้าพูดไปแล้วมิใช่หรือ? ข้าทำไม่ได้!”
“ข้าบอกเจ้าไปตอนเช้าแล้วว่ามีคนยอมจ่ายหนึ่งแสนตำลึงเงินเพื่อเทียบเชิญเพียงใบเดียว!”
“เอาล่ะ เจ้าลองถามขันทีหลาย ๆ คนดู พวกเขาติดตามข้า เมื่อสักครู่เผอิญเจอใต้เท้าหลี่… ใต้เท้าหลี่เสนอสองแสนตำลึงเงินให้ข้า...สองแสนเชียวนะ!”
ผู้คนล้วนตะลึงเบิกตากว้าง สองแสนกับเทียบเชิญใบเดียวนี่มันจะราคาสูงเกินไปแล้ว!
“สองแสนเยอะมากงั้นหรือ? แต่ในสายตาคนรวยหาเป็นอะไรแบบนั้นไม่!”
รองเจ้ากรมวังมองท่าทางตกตะลึงของฝูงชนจึงกล่าวอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องไปหลายส่วน
“งานเฉลิมฉลองพระราชสมภพของไทเฮาในปีนี้ ผู้ที่เชิญมีจำกัด เพื่อเทียบเชิญใบเดียวเสนาบดีผู้มีคุณธรรมบารมีสูงส่งหลายท่านล้วนมาหาและขอร้องข้า!”
“แต่ข้าก็จนปัญญาแล้วเช่นกัน! ถ้าสามารถหาวิถีทางเอาเทียบเชิญได้จริง ๆ ข้าจะมิเอาไว้พึ่งความร่ำรวยทางนี้ได้อย่างไรเล่า?”
เขามองค้อนพระชายาผิงหยางและเอ่ยดุ “ฉะนั้นอย่าหยิบเรื่องเล็กน้อยนี้มารบกวนข้า! ข้าจะทานอาหารแล้วยังต้องกลับวังไปกราบทูลด้วย!”
พระชายาผิงหยางสะบัดเทียบเชิญในมือ ก่อนจะเอ่ยน้อยอกน้อยใจว่า
“ทว่า… ลูกพี่ลูกน้อง ข้าได้รับเทียบเชิญมาสองใบจริง แม่นมบอกว่าเป็นขันทีเซี่ยอะไรนี่ส่งมาเอง!”
“น่าขัน ขันทีเซี่ยจะส่งเทียบเชิญให้เจ้าเองรึ?”
“ตั้งหลายคนส่งเทียบเชิญให้พวกเราเมื่อเช้า! ท่านมั่นใจหรือว่าที่ท่านเห็นเป็นขันทีเซี่ยคนใกล้ชิดองค์จักรพรรดิจริง ๆ ?”
“หรือว่าเทียบเชิญใบนั้นของท่านจะเป็นของปลอม? ยืมชื่อเสียงขันทีเซี่ยมายกระดับตน!” รองเจ้ากรมวังกล่าวอย่างผยอง
“แต่เทียบเชิญใบนี้เหมือนกับที่ข้าได้รับมานะ!” ชายาผิงหยางนำเทียบเชิญส่งให้ลูกพี่ลูกน้อง
รองเจ้ากรมวังกวาดมองอย่างหงุดหงิดแล้วกล่าวว่า “เทียบเชิญจากวังครั้งนี้ล้วนเป็นใต้เท้าเฉิงแผนกพิธีการเขียนทั้งสิ้น!”
“ลายมือใต้เท้าเฉิงงามวิจิตรและประณีตเรียบร้อย เดิมทีมิใช่ลายมือแบบนี้! นี่คือของปลอม!”
พอเขาเอ่ยจบก็ไม่สนใจชายาผิงหยางอีก ก่อนจะพาขันทีหลายคนเข้าไปห้องว่างส่วนตัว!
“ชายาอ๋องอี้ เจ้าได้ยินคำที่ลูกพี่ลูกน้องของข้าพูดแล้วใช่หรือไม่? ว่าเทียบเชิญใบนี้ของเจ้าเป็นของปลอม!”
“หลิงอวี๋ คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะขวัญกล้าเพียงนี้ เพื่อเอาหน้าแล้วถึงกับกล้าปลอมแปลงเทียบเชิญของไทเฮาเลยรึ!”
ชายาผิงหยางโยนเทียบเชิญทิ้งด้วยท่าทีไม่พอใจ หลิงอวี๋คว้าเทียบเชิญอย่างมือรีบตาเร็ว
เสิ่นจวนกล่าวเรียกอยู่ด้านข้าง “พระชายาผิงหยาง ท่านไม่อาจเอาเทียบเชิญให้นางได้เพคะ พวกเราควรนำไปสถานที่ราชการแจ้งว่านางปลอมแปลงเอกสาร! ”
หลิงอวี๋ยิ้มตาหยีรับเทียบเชิญมาเรียบร้อย กล่าวว่า “อยากฟ้องว่าข้าปลอมแปลงรึ? เจ้ายังไม่มีคุณสมบัตินั้น!”
“ข้าพูดไปแล้วว่าไทเฮาให้เทียบเชิญข้า แต่พวกเจ้าแค่ไม่เชื่อข้า!”
“ไอหยา ข้าแค่รับมาเก็บให้ดีรอถึงวันเฉลิมฉลองวันพระราชสมภพของไทเฮา แล้วค่อยถือเทียบเชิญนี้ไปเข้าร่วม!”
ชายาผิงหยางถูกทำให้ทั้งโกรธและขบขันแล้ว กล่าวยิ้ม ๆ ว่า “ได้ ๆ … หลิงอวี๋ให้เจ้ารับเก็บไว้ให้ดีเถอะ ตัวข้าผู้เป็นพระชายาก็จะคอยดูเจ้าถือเทียบเชิญปลอม ๆ เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองวันพระราชสมภพ! แต่เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าอย่ากลัวที่จะออกจากเรือนก็แล้วกัน!”
ทุกคนหัวเราะลั่นครึกโครม
“ข้าได้ยินมาว่า งานเฉลิมฉลองวันพระราชสมภพที่โอ่อ่าเช่นนี้ต่างมีองครักษ์คอยปฏิบัติหน้าที่ ชายาอ๋องอี้ เจ้าคงเข้าประตูหน้าพระราชวังมิได้แล้วกระมัง!”
“ใช่เลย หากกล้าถือเทียบเชิญปลอมนี้ไปจริง ๆ แน่นอนเลยว่าจะถูกองครักษ์ตวัดดาบฟัดตาย!”
“ชายาอ๋องอี้ เจ้าโอ้อวดเพื่อหน้าศักดิ์ศรีก็ละเมิดเกินไปแล้ว! รีบไสหัวกลับเรือนไปซ่อนน่าจะดีกว่า อย่ามาสวมรอยเป็นเชื้อเจ้าแถวนี้!”
“ท่านอ๋องอี้ก็ไม่ทรงยอมรับนางแล้วนางยังจะยกยอตนอีก!”
“อย่าเอ่ยถึงว่าได้รับเทียบเชิญของไทเฮาเลย ข้าเดาว่านางไม่เงินมีจ่ายค่าข้าววันนี้ด้วยกระมัง ถ้ามิเชื่อ พวกเจ้าก็รอดูว่านางจะขายหน้าอย่างไรอีกสักหน่อยเถอะ!”
เสิ่นจวนยังจำเรื่องนี้ได้และรีบเตือนทุกคน
หลิงอวี๋ชำเลืองตามองไปทางเซียวหลินเทียนที่นิ่งดูดาย ก็พูดไม่ออกอยู่บ้าง
อย่างไรเสียก็เป็นสามีภรรยากัน หลิงอวี๋ยังกำเนิดบุตรหนึ่งคนเพื่อเขาด้วย เห็นผู้อื่นทำให้พระชายาของเขาอับอายเช่นนี้ เขาก็จะไม่พูดอะไรสักคำเลยรึ?
นางกลอกตาไปมากล่าวเสียงแผ่ว
“เสิ่นจวน ในเมื่อเจ้าบอกว่า เทียบเชิญข้าเป็นของปลอม หากข้าถือเทียบเชิญปลอมไปเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองพระราชสมภพ ถึงไทเฮาจะตำหนิข้า… เจ้าคิดว่าพระนางจะตำหนิท่านอ๋องอี้เหมือนกันหรือไม่?”
“หากข้าถูกดาบตวัดฟันตาย ท่านอ๋องอี้จะได้รับทัณฑ์อะไรด้วยล่ะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
ลุ้นจะหนียังไง...
หงุดหงิด กับเด็กนรกก...
อ๋องอี้กับชิวเหวินซวงเหมาะสมกันมาก เหมือนผีเน่ากับโลงผุเลย คนนึงเป็นอ๋องใจบอด อีกคนมักใหญ่ใฝ่สูง เล่เหลี่ยมมากมาย...
ถ้านางเอกกับลูกยอมรับอ๋องอี้ในที่สุดคือไม่เข้าท่าเลยนะ...
จะได้เปิดโรงหมอแล้ว เย่ๆๆๆ...
อ๋องอี้ก็ยังโง่ให้คนอื่นจูงจมูกง่ายๆเหมือนเดิม...
ต่อให้ไม่ใช่ลูกเห็นเด็กเล็กโดนขนาดนั้นก็ต้องรู้สึกอะไรบ้างไหม แต่นี่คือจิตใจอำมหิตมากกกก...
ในที่สุดควสมจริงก็เปิดเผยสักที แล้วทุกคนจะรับผิดชอบที่รักแกเยวี่ยเยวี่ยกับหลิงอวี่อย่างไรล่ะ...
อ๋องอี้ก็เฮงซวย ฮ่องเต้ก็ถูกจูงจมูกง่ายๆ หวังว่านางเอกกับลูกจะรอด แล้วทำให้พ่อกับปู่รู้ว่าตัวเองชั่วช้าคิดฆ่าลูกกับหลานแท้ๆได้ลงคอ หรือยัยน้องกับลูกต้องถูกทรมานเจียนตายจนใกล้ตอนจบเลยหรือเปล่า ส่วนไทเฮานั้นถ้าน้องรอดชีวิตไปได้ก็อย่าได้พบหญิงชรานางนี้อีกเลย...
อ๋องอี้คือผัวสารเลวสุดแสนเฮงซวยที่สุดแล้ว ต่อไปข้างหน้า ถ้านางเอกมารักกับผัวเฮงซวยแทนที่จะเลิกรากันไปนี่คือ เธอช่างใจกว้างไปละ...