ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 68

ห้องสุขาอยู่หลังเรือน เสี่ยวเอ้อร์พาหลิงอวี๋ส่งอยู่ประตูเข้าหลังเรือนกล่าวว่า “พระชายาอ๋องอี้ สุขาอยู่นั้น ข้าจะรอท่านอยู่ตรงนี้ขอรับ!”

หลิงอวี๋ยิ้มสักพักและกล่าวตรง ๆ ว่า “ข้ามิได้อยากใช้สุขาจริง ๆ ข้าต้องการพบท่านเกิ่งเอ้อร์ของพวกเจ้าหรือคนดูแลที่นี่!”

แม้เสี่ยวเอ้อร์ของในร้านแห่งนี้จะมีมารยาทดี แต่บนหน้าก็ยังปรากฏความดูถูกไปชั่วแวบหนึ่ง

เขากล่าวอย่างนิ่งสงบ “พระชายาอ๋องอี้ ท่านเกิ่งเอ้อร์ของเรากำลังดูแลแขกคนสำคัญอยู่ขอรับ สั่งไว้ว่าห้ามรบกวนเขาถ้าไม่มีเรื่องสำคัญอะไร”

“พระชายาอ๋องอี้หากจ่ายค่าอาหารไม่ไหว ท่านอ๋องอี้ก็อยู่ที่นี่มิใช่หรือขอรับ? ท่านไปขอเขาก็ได้!”

แต่ที่เมืองหลวงนี้ มีผู้ที่ไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของสองสามีภรรยาอ๋องอี้ด้วยหรือ?

ทันทีที่หลิงอวี๋ยืมเงินกู้ดอกเบี้ยสูง เซียวหลินเทียนก็เอ่ยออกมาว่าเขาจะไม่ชดใช้ให้หลิงอวี๋สักเฟินเดียว(1)

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อครู่ชายาอ๋องอี้ถูกเหล่าสตรีรุมทำให้อับอายขายขี้หน้า ท่านอ๋องอี้ก็อยู่ในเหตุการณ์ แต่ไม่ก็แสดงท่าทีอะไรทั้งสิ้น!

หลิงอวี๋กล่าวอย่างอดทนว่า “เจ้าช่วยไปแจ้งให้ข้าสักหน่อย บอกว่าข้าอยากคุยเรื่องคืนเงินกู้ดอกเบี้ยสูงกับเขา! และคุยเรื่องกิจการค้าขายด้วย! เป็นธุรกิจที่ได้เงินกำไรมหาศาล!”

เสี่ยวเอ้อร์เหลืออดกล่าวถากถางว่า “พระชายาอ๋องอี้ ถ้ามีธุรกิจทำเงินกำไรมหาศาลแล้วท่านทำเองมิได้หรือขอรับ?”

“ท่านเป็นหนี้เงินก้อนโตขนาดนั้นและไม่มีวิธีคืนให้ครบถ้วนด้วยซ้ำ! ถ้าให้ข้าไปแจ้งให้ท่าน ข้ายังกลัวว่าจะถูกท่านเอ้อร์ด่ากระจุยกระจายน่ะสิขอรับ!”

ครั้นหลิงอวี๋เห็นอิริยาบถเขาผันแปรก็ทำสีหน้าเรียบนิ่งกล่าวว่า “เจ้าไม่ไปแจ้งแล้วไม่กลัวขัดขวางลู่ทางมั่งคั่งของท่านเอ้อร์หรือไร?”

ให้ตายสิ ถ้าหาร้านยาสมุนไพรแห่งใดก็ได้ที่มีความรู้ด้านสรรพคุณยารักษาแผลของนาง คงสามารถทำเงินกำไรได้มหาศาลแน่

หากนางไม่ติดหนี้เงินกู้ดอกเบี้ยสูงกับท่านเกิ่งเอ้อร์ คงไม่ถึงขนาดต้องมารับความคับข้องใจของเสี่ยวเอ้อร์ผู้นี้หรอกใช่ไหม?

“อ้าว พวกเจ้ามาดูนี่เร็วเข้า หลิงอวี๋จ่ายเงินไม่ไหวจริง ๆ กำลังอ้อนวอนเสี่ยวเอ้อร์อยู่แหนะ!”

หลังจากที่เจิงจื่ออวี้เห็นหลิงอวี๋เดินมา ก็พลันดึงเสิ่นจวนและบรรดาพี่น้องให้หันมาแล้วพบกับฉากเหตุการณ์นี้เข้าพอดี จึงส่งเสียงเอะอะโวยวายขึ้น

สีหน้าหลิงอวี๋เปลี่ยนไปพริบตา นางอ้างไปสุขาก็เพราะอยากเลี่ยงคนพวกนนี้ เลี่ยงคุยเรื่องธุรกิจต่อหน้าธารกำนัลเพื่อรักษาเกียรติของเซียวหลินเทียน

ไหนเลยจะคิดว่าพวกนี้จะเป็นผีสางตามไม่เลิกรา และตอนนี้ไม่มีทางเลี่ยงความอลหม่านฉากใหญ่นี้ได้แล้ว!

“หลิงอวี๋ เจ้ามาถึงจุดนี้แล้วยังมีหน้าจะมีชีวิตอยู่ในใต้หล้าอยู่อีกหรือ?”

“ตามความคิดของข้า เจ้าควรเอาหัวจุ่มบ่อขี้ซะ! เพื่อไม่ให้ท่านพี่หลินเทียนต้องขายหน้า!” เสิ่นจวนกล่าวอย่างใจยักษ์

“ถูกต้อง ไม่มีเงินก็ยังแสร้งทำเป็นมีทั้ง ๆ ที่ไม่มี ตามความคิดข้าเลิกใช้ชีวิตที่สุรุ่ยสุร่ายกับค่าอาหารซะ!” เจิงจื่ออวี้สบโอกาสเหยียบซ้ำ

“หลิงอวี๋ ถึงเจ้าขอร้องเสี่ยวเอ้อร์ของร้าน แต่ก็ยังต้องจ่ายค่าอาหารนี้อยู่ดี!”

เสิ่นจวนมองรอบ ๆ ครั้นไม่เห็นเซียวหลินเทียนอยู่ นางจึงพูดอย่างไม่ต้องยับยั้งชั่งใจ

“ไม่เช่นนั้น เจ้าก็โขกหัวคำนับให้ข้าสามทีและเห่าเหมือนสุนัขเสีย! แล้วข้าจะทำเพื่อท่านพี่หลินเทียนออกค่าอาหารให้เจ้าเป็นไง?”

หลิงอวี๋กำลังมองพวกนางพูดให้ตนอับอายส่งกันไปมาอย่างเยือกเย็น

ครั้นได้ยินคำพูดนี้ของเสิ่นจวน นางก็อดกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป ก่อนจะยกมือฟาดลงบนหน้าเสิ่นจวนหนึ่งฝ่ามือ

ตามด้วยถีบเข้าไปหนึ่งบาทา ถีบจนเสิ่นจวนถอยหลังไปหลายก้าวและล้มก้นจ้ำเบ้ากับพื้น

เจิงจื่ออวี้และคนอื่น ๆ ล้วนตกตะลึงฉับพลันทันที เพิ่งคิดก้าวขาไปช่วยก็เห็นหลิงอวี๋ออกมีดแหลมคมเล่มหนึ่งก้าวไปตรงหน้าเสิ่นจวนสองสามก้าว

ปลายมีดเย็นเยือกแตะอยู่บนหน้าเสิ่นจวน ทำให้นางประหวั่นจนกรีดร้อง

“ช่วยด้วย! หลิงอวี๋ เจ้ากล้าทำร้ายข้า ท่านพี่หลินเทียนไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!”

“หุบปาก!”

หลิงอวี๋ใช้หลังมีดลากอยู่สักพัก เสิ่นจวนเพียงรู้สึกเย็นบนหน้าและยังคิดว่าหลิงอวี๋กรีดหน้าตนจนเป็นแผล จึงรีบหุบปากเร็วพลัน!

ฉินรั่วซือมองหลิงอวี๋อย่างตระหนก จากนั้นแววตาก็ผันแปร ถอยหลังออกไปอย่างเงียบเชียบ

นางต้องรีบไปเรียกคน!

“ข้าเห่าเหมือนสุนัขไม่เป็น! เช่นนั้นเจ้าสอนตัวข้าครั้งหนึ่งก่อนเป็นอย่างไร?”

หลิงอวี๋ใช้หลังมีดตบลงบนหน้าเสิ่นจวนและคลี่ยิ้มหยัน “เสิ่นจวน เจ้าไม่เคารพตัวข้าผู้เป็นพระชายาตั้งแต่ย่างกรายเข้าประตูมา วาจาเยือกเย็นนัก! แต่ข้าล้วนไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเจ้า!”

“เจ้าคิดว่าตัวข้ากลัวเจ้าจริง ๆ หรือ?”

“ข้าว่าเจ้าไร้การศึกษา! เจ้ายังไม่ยอมรับ! งั้นวันนี้ตัวข้าจะสั่งสอนบทเรียนเจ้าอย่างรัดกุมแทนพ่อแม่ของเจ้าเอง!”

“เซียวหลินเทียนเป็นบุตรผู้พี่ของเจ้า ส่วนข้าก็เป็นสะใภ้ผู้พี่ของเจ้า แต่เมื่อเจ้าพบตัวข้าไม่ยอมเรียกพี่สะใภ้ ไม่ทำความเคารพ! ไม่คำนึงลำดับระหว่างผู้อาวุโสและผู้เยาว์ ช่างไร้มารยาท! นี่คือข้อแรก!”

“ตัวข้าได้รับพระราชทานอภิเษกสมรสจากองค์จักรพรรดิเป็นพระชายาอ๋องอี้ หากเจ้าไม่ยอมเรียกว่าท่านพี่สะใภ้ก็ควรจะยอมรับฐานะที่องค์จักรพรรดิพระราชทาน!”

“แต่เจ้าเรียกคำก็หลิงอวี๋สองคำก็หลิงอวี๋ โดยไม่เห็นพระชายาอ๋องอี้ที่ฮ่องเต้พระราชทานอภิเษกสมรสอยู่ในสายตา ไม่รู้จักแบ่งแยกวรรณะสูงต่ำ!”

“พูดให้เบาหน่อยคือไร้การศึกษา! พูดให้หนักคือหยามเกียรติองค์จ้กรพรรดิ!”

หลิงอวี๋กำลังสั่งสอนเสิ่นจวนทีละข้อ ครั้นกล่าวถึงประโยคสุดท้ายทั่วใบหน้างดงามของเสิ่นจวนก็พลันซีด ร่างกายสั่นเทิ้ม

หยามเกียรติองค์จักรพรรดิเป็นโทษฐานร้ายแรงอย่างยิ่ง!

เจิงจื่ออวี้และคนอื่น ๆ สีหน้าก็แปรผันในบัดดล

ใช่!

ถึงแม้ว่าหลิงอวี๋จะทนไม่ไหวอีก แต่จนกว่าจะถูกขับไล่ออกจากราชสำนัก ปัจจุบันนางก็ยังคือลูกสะใภ้ของราชวงศ์ เป็นพระชายาอ๋องอี้ที่องค์จักรพรรดิพระราชทานอภิเษกสมรส!

พวกนางทำให้เครือญาติขององค์จักรพรรดิต้องอัปยศเช่นนี้ ถ้าหากเรื่องดังไปถึงหูองค์จักรพรรดิล่ะก็ พวกนางคงถูกมองว่าทำตัวไร้เหตุผล!

“ชายาอ๋องอี้ เรารู้ความผิดแล้ว! และเราจะเคารพเจ้า เจ้าปล่อยเสิ่นจวนเถิด!”

สวี่หยียนบุตรีของวิญญูสำนักฮั่นหลินค่อนข้างหลักแหลม รีบคารวะขอความเมตตาในนามเสิ่นจวนต่อหลิงอวี๋ในทันใด

“รีบกระไร!”

หลิงอวี๋ชายตามองนาง ยิ้มแล้วกล่าวคำ “ข้าเป็นสะใภ้ผู้พี่จะทำให้เสิ่นจวนลำบากใจได้อย่างไร! นี่มิใช่เพราะเห็นนางยังเด็กมิเข้าใจว่าสิ่งใดควรสิ่งใดมิควร เลยกำลังสอนให้นางรู้จักกาลเทศะหรือไร?”

ตู้ตงหงบุตรีของรองเจ้ากรมฝ่ายสงครามมีความอาจหาญค่อนข้างน้อยนัก แอบลอบมองมีดในมือหลิงอวี๋ กล้าเพียงด่านางในใจเท่านั้น

แล้วสั่งสอนคนจำเป็นต้องถือมีดด้วยรึ?

(1) เฟิน (分钱) คือ ค่าเงินจีน 10 เฟินเท่ากับ 1 เหมา/เจียว หรือ 100 เฟินมีค่าเท่ากับ 1 หยวน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา