ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 72

นางสลัดการเกาะกุมตนของเสี่ยวเอ้อร์ ก่อนจะยกชายกระโปรงขึ้นวิ่งรุดตามไปชั้นบน

เพียงตนช่วยชีวิตท่านเกิ่งเอ้อร์ได้ ความอัปยศในวันนี้ก็จะล้างมลทินออกไปได้…

หลิงอวี๋เพิ่งวิ่งถึงชั้นสองก็พลันเห็นแม่นมลี่ดึงหลิงอวี๋เอาไว้ หลิงซินยืนอยู่ทางออกใกล้บันไดอย่างพะว้าพะวัง

ครั้นเห็นเช่นนั้นก็รีบดึงแม่นมลี่มากล่าวปลอบขวัญ “พวกเจ้าไปนั่งรอข้าเถอะ หากอยากกินสิ่งใดสั่งได้เลย!”

“พวกเจ้าเชื่อข้า วันนี้พวกเราจะไม่ต้องจ่ายอาหารมื้อนี้สักเฟินเดียว!”

เมื่อนางเอ่ยจบก็รีบไล่ตามขึ้นไป

แม่นมลี่น้ำตาแทบไหล นางเพิ่งกลับมาก็เห็นหลิงอวี๋จะถูกลากไปประจาน!

หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้แต่แรก เมื่อกี้ก็ไม่น่าขอเทียบเชิญกับแม่นมเว่ย ควรจะขอเงินสองสามร้อยตำลึงแค่นี้ก็แก้ไขเรื่องจวนตัวเพื่อคุณหนูได้แล้ว

เฮ้อ จะมาเสียใจภายหลังก็ไม่ทันแล้ว!

“ดูสิ หลิงอวี๋กำลังคุยโวอย่างไม่กระดากอายอีกแล้ว!”

ครั้นได้ยินคำพูดนี้เสิ่นจวนที่ยืนอยู่ด้านล่างบันไดก็ลั่นวาจาเย้ยหยันทันใด

นางรั้งสายตาไปยังเซียวหลินเทียนแล้วกล่าวคำ “ผู้พี่ เราขึ้นไปดูสักหน่อยเถอะ! หม่อมฉันยังไม่เคยเห็นคนที่ถูกก้างปลาติดคอตายเลยเพคะ!”

“อีกทั้งเปี่ยวจิ้วก็ไปแล้วด้วย หม่อมฉันกังวลว่านางจะก่อเรื่องเพคะ!”

แต่เสิ่นจวนในใจกลับคิดสวนทาง ก่อเรื่องสิถึงจะดี คงจะดีที่สุดถ้าวันนี้ผู้พี่เดียดฉันท์นางถึงขีดสุด จะได้ชิงหย่ากับนางแต่เนิ่น ๆ !

วันนี้มาภัตตาคารจี๋เสียงไม่เสียเปล่า! เรื่องบันเทิงเร้าใจมากขึ้นทุกที!

เซียวหลินเทียนกำลังคิดหาโอกาสทำความรู้จักมักคุ้นกับท่านเกิ่งเอ้อร์ก็พลันผงกหัวทันควัน

เมื่อรอให้กลุ่มคนขึ้นไปข้างบน ท่านเกิ่งเอ้อร์ก็ถูกย้ายมาในห้องโถงใหญ่ พวกเสี่ยวเอ้อร์พยายามขวางคนที่มุงดูความชุลมุนไม่ให้เข้าใกล้สุดชีวิต

เซียวหลินเทียนผ่านพวกเขาก็เห็นท่านเกิ่งเอ้อร์ตกอยู่ในสภาพก้างปลาติดคอช่างน่าเวทนาจริง ๆ ดวงหน้าขาวซีด เขากุมคอไว้พร้อมกับไอจนเสียงแหบแห้ง

“แค่ก...” ท่านเกิ่งเอ้อร์พ่นเสมหะออกมาคำหนึ่งและภายในนั้นล้วนมีแต่โลหิต

“ท่านพ่อ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง? ท่านอย่าทำข้าตกใจสิขอรับ!

เกิ่งเสี่ยวหาวคุกเขาลงด้านข้างท่านเกิ่งเอ้อร์ มือหนึ่งกำลังพยุงเขาไว้ มือหนึ่งพัดช่วยเขาให้หายใจราบรื่น

ท่านเกิ่งเอ้อร์พูดไม่ได้ ทำได้แค่หอบหายใจแรงมองเขาอยู่

“หมอเล่า! ไยยังไม่เชิญหมอมาอีก?” เกิ่งเสี่ยวหาวแผดเสียงลั่น

เซียวหลินเทียนกวาดมองฝูงชนรอบหนึ่ง เขาไม่พบหลิงอวี๋ด้วยความแปลกใจก็พลันมองเห็นหลิงอวี๋กำลังเบียดเข้าไปจากอีกด้านหนึ่ง

ทว่าถูกเสี่ยวเอ้อร์ขวางไว้

“เกิ่งเสี่ยวหาว ข้าช่วยท่านเอ้อร์ได้! ให้ข้าเข้าไป!” หลิงอวี๋ตะโกนเสียงดังกังวาน

เกิ่งเสี่ยวหาวชำเลืองมองนางและเอ่ยตอบอย่างขุ่นเคือง “พระชายาอ๋องอี้ ชีวิตท่านพ่อข้าแขวนอยู่บนเส้นด้าย ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดเล่น!”

“ออกไปซะ! ถ้าท่านยังก่อเรื่องอีก ถึงแม้ท่านจะเป็นพระชายาอ๋องอี้ข้าก็จะไม่ไว้หน้า!”

“หลิงอวี๋ ชีวิตของท่านเอ้อร์น่าเป็นห่วง แม้เจ้าจะจ่ายค่าข้าวไม่ไหว แต่ก็ไม่ต้องพูดโกหกอะไรว่าสามารถช่วยชีวิตคนได้หรอก! นี่ไม่ถือเอาชีวิตคนมาล้อเล่นหรือ?”

ต่อหน้าเซียวหลินเทียน เสิ่นจวนต้องรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองเลยยุยงให้เจิงจื่ออวี้ออกหน้าแทน

“ใช่ เดิมทีนางไม่รู้วิชาแพทย์ด้วยซ้ำ! ไฉนเลยจะช่วยชีวิตคนได้!”

“คนผู้นี้ช่างไร้ยางอายเสียจริง เมื่อครู่ก็ปลอมแปลงเทียบเชิญเพื่อรักษาเกียรติ! ตอนนี้ก็จะหลอกคนเพื่อเงินไม่กี่ตำลึง!”

ฉินรั่วซือคว้าโอกาสที่ทำให้หลิงอวี๋ต้องอับอาย ก่อนจะส่งเสียงโห่ร้องตามมา

ครั้นได้ฟังคำพูดของพวกนาง ผู้คนที่กำลังยืนโดยรอบหลิงอวี๋ต่างจ้องมองนางสายตาเหยียดหยาม

ลู่หนานก็มองไปทางหลิงอวี๋อย่างผิดหวังเล็กน้อย วันที่เขารู้เห็นว่า หลิงอวี๋ใช้ความหลักแหลมของตนล้างมลทินโทษลักทรัพย์ของหลิงซิน เขาก็เริ่มมีทัศนคติที่ดีต่อนาง!

ไฉนเลยจะไม่นึกถึงว่าหลิงอวี๋ปลอมแปลงเทียบเชิญของไทเฮา!

บัดนี้เพื่อหลบหนีการชำระเงิน นางก็ยังสามารถพูดโกหกว่าช่วยชีวิตคนได้อีก!

ชายาอ๋องอี้ผู้นี้ยังคงเป็นเหมือนเมื่อก่อน!

“ถอย ถอยไป หมอมาแล้ว!”

เสี่ยวเอ้อร์เบียดเสียดฝ่าฝูงชนมา ข้างหลังมีหมออายุสี่สิบกว่าผู้หนึ่งถือกล่องยาเร่งเดินตามมาเร็วรี่

“เหวินป๋อ เจ้ารีบไปตรวจท่านพ่อข้าเร็วเข้า เขาก้างปลาติดคอ!”

“ขอรับ!”

หมอเหวินไม่แม้แต่จะมองผู้คนรอบข้าง เขาคุกเขาลงครึ่งหนึ่งแล้วเริ่มตรวจอาการท่านเกิ่งเอ้อร์

พอตรวจไปสักพัก เขาก็ยิ้มขมขื่นกล่าวกับเกิ่งเสี่ยวหาวว่า “เสี่ยวหาว ข้าอภัย… ข้า… ข้าไม่มีวิธีรักษา!”

“ทำไมเจ้าจะไม่มีวิธีเล่า? เจ้าเป็นหมอที่มีชื่อที่สุดแห่งโรงหมอเชียวนะ!”

เกิ่งเสี่ยวหาวกล่าวด้วยสีหน้ายากจะเชื่อ

“มันติดอยู่ลึกเกินไปมองไม่เห็นแล้ว ข้าไม่มีวิธีจริง ๆ !”

หมอเหวินรีบกล่าว “ไม่เช่นนั้น รีบหาคนไปเชิญหมอหลวงจางมา เขาเป็นหมอหลวงในวังวิชาเทพย์ของเขาต้องเหนือชั้นกว่าข้าแน่!”

เกิ่งเสี่ยวหาวบ่ายศีรษะอย่างหงุดหงิดตะโกนดัง ๆ ว่า “หาใครสักคนรีบไปเชิญหมอหลวงจางมาเร็วเข้า! ไม่ว่าจะจ่ายเงินมากเท่าไรก็ต้องเชิญมา!”

หลิงอวี๋รู้สึกได้ถึงอาการเจ็บอย่างรุนแรงของท่านเกิ่งเอ้อร์ที่อยู่ข้าง ๆ เขาอยากไอแต่ไอไม่ได้!

ผ่านไปประเดี๋ยวเดียว ท่านเกิ่งเอ้อร์ก็อดกลั้นจนหน้าม่วง เขาเพียงหายใจออกไม่หายใจเข้าแล้ว!

“แม้เจ้าจะไปเชิญหมอหลวงจางมา แต่เดินไปกลับก็เสียเวลาไปไม่น้อยเลย เกรงว่าหากรอเชิญคนมา ท่านเกิ่งเอ้อร์คงไม่รอดแน่...”

“ผู้ใด?”

“ผู้ใดพูดคำน่ารังเกียจเช่นนี้”

“โคตรแม่ผู้ใดแช่งท่านพ่อข้าตาย? ไสหัวออกมาซะ!”

เกิ่งเสี่ยวหาวเดือดดาลเป็นเจ้าเข้า ภายใต้ความโกรธก็ล้วนแยกไม่ออกว่าใครเป็นคนพูด

เจิงจื่ออวี้กับฉินรั่วซือร้องขึ้นพร้อมเพรียง “เป็นหลิงอวี๋! เป็นชายาอ๋องอี้ที่พูด! นางอยู่นั่น...”

มือของพวกนางชี้ไปทางที่ที่หลิงอวี๋ยืนอยู่พร้อมกัน

เกิ่งเสี่ยวหาวส่งสายตาอำมหิตมองมา…

ผู้คนที่อยู่โดยรอบหลิงอวี๋ต่างกระจายออกในพริบตา เพราะเกรงว่าความขุ่นเคืองของเกิ่งเสี่ยวหาวเกี่ยวพันมาถึงตน

“ชายา… อ๋อง… อี้!”

ครั้นเห็นหลิงอวี๋อีกครั้งพลันวางท่านพ่อลง จากนั้นพุ่งพรวดเข้ามาพร้อมตวาดลั่นไปด้วย

“ถ้าวันนี้ข้าไม่สำแดงเดชให้ดู ข้าก็ไม่ใช่คนแซ่เกิ่ง!”

อันเจ๋อเห็นหลิงอวี๋ยังยืนเซ่ออยู่ ก็รีบร้องเรียก “หลิงอวี๋ เจ้าวิ่งเร็ว! เจ้าเซ่อไปแล้ว

รึ?”

เขาจ้องมองฉินรั่วซืออย่างโหดเหี้ยม ช่วงก่อนหน้านี้ไม่นานนัก พระชายาผิงหนานมารดาของเขายังมีความคิดจะให้เขาตบแต่งกับฉินรั่วซือ

อย่างไรเสียเรื่องนี้ก็ยังมิได้เปิดเผยต่อธารกำนัล ชายาผิงหนานเพียงหยิบยกขึ้นตามใจเท่านั้น แถมบอกอีกว่านางยังต้องลองดูฉินรั่วซือดี ๆ ก่อนค่อยตัดสินใจ!

วันนี้สตรีผู้นี้ได้ทีขี่แพะไล่หลิงอวี๋ซ้ำแล้วซ้ำเล่า คนเช่นนี้จะคู่ควรมาเป็นภรรยาของตนได้เยี่ยงไร!

อันเจ๋อตัดสินใจกลับไปคุยเรื่องนี้กับมารดา ทำให้นางยุติความคิดนี้ลง

มีเพียงเซียวหลินเทียนกับลู่หนานที่ไม่กังวล พวกเขาเคยรู้เห็นอุบายของหลิงอวี๋และรู้ด้วยว่าเอาชนะนางไม่ได้ง่าย ๆ เพราะนางจะใช้สิ่งของประหลาด ๆ นั้นที่อยู่ในมือนาง

“เกิ่งเสี่ยวหาว ขอเวลาเพียงหนึ่งก้านธูป! ขอเพียงเจ้ายอมให้ข้าช่วยเขา ท่านพ่อเจ้าก็จะหายเป็นปกติ!”

หลิงอวี๋กล่าวเย็นชา “ถ้าเจ้าไม่ยอมให้ข้าช่วย เช่นนั้นท่านพ่อเจ้าก็จะตายเพราะเจ้าเอง!”

“ข้าไม่ได้พูดผิดสักประโยคเดียว! ถ้าเจ้าไม่เชื่องั้นก็เข้ามาสู้เลย! มีศพท่านเกิ่งเอ้อร์ฝังไว้ข้าง ๆ ข้า แม้ตายก็คุ้มค่าแล้ว!”

“เจ้าพูดหามารดารึ คิดว่าข้าไม่กล้าตีสตรีจริง ๆ หรือไร?”

เกิ่งเสี่ยวหาวบันดาลโทสะจนยกหมัดไปทางนาง

หลิงอวี๋ยิ้มหยัน “ข้าเชื่อว่าเจ้าขี้ขลาด! สกุลเจ้าเปิดกิจการบ่อนพนัน ผู้อื่นกล้าเล่นแล้วเจ้าไม่กล้าเล่นหรือ?”

“เจ้าลองไปดูสภาพตอนนี้ของท่านพ่อเจ้าสิ เจ้าเชื่อจริงหรือว่าเขาจะรอหมอหลวงจางมาถึงได้น่ะ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา