ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 73

เกิ่งเสี่ยวหาวหันหน้ากลับมามองบิดาของตนเอง พบว่าเกิ่งเสี่ยวเหยนิ่งเงียบไปแล้ว เหลือเพียงหน้าอกที่ยังกระเพื่อมแผ่วเบา

“เรามาเดิมพันกันเถอะ! ภายในเวลาหนึ่งก้านธูป ข้าจะช่วยชีวิตท่านพ่อของเจ้า!”

“หากข้าทำสำเร็จ เจ้าต้องยอมรับข้าเป็นพี่สาว! แต่หากข้าทำล้มเหลว ข้าจะชดใช้ให้เจ้าด้วยชีวิต!”

หลิงอวี๋พบว่าคนสกุลเกิ่งผู้นี้ในแววตาค่อนข้างพอใจ แม้ว่าเขาจะพุ่งปราดมาตรงหน้าตนแล้ว แต่หมัดนั้นกลับไม่เคยโดนนางเลย

อีกนัยหนึ่งคือนางอยากสร้างรายได้นั่นเอง ถ้ามีลู่ทางสายนี้ของเกิ่งเสี่ยวหาวคงจะราบรื่นยิ่ง

ความคิดเรื่องยอมรับเป็นน้องชายนี้ก็พลันแวบสว่างเข้ากลางใจทันใด

“คุณชายเกิ่ง อย่าฟังนาง! เดิมทีนางมิได้วิชาแพทย์ด้วยซ้ำ! หมอของโรงหมอยังไม่มีวิธี แล้วนางจะมีวิธีทำอะไรได้!” เจิงจื่ออวี้กล่าวดังลั่น

ครั้นหมอเหวินได้ยินชื่อตนหยิบยกขึ้นก็กระแอมไอเบา ๆ และกล่าวคำ

“เรารอหมอหลวงจางดีกว่าเถอะ! ถ้าหมอหลวงไม่มีวิธี เช่นนั้นผู้ใดก็ไม่มีวิธีเหมือนกัน! คงต้องปล่อยไปตามยถากรรมแล้ว!”

แต่เกิ่งเสี่ยวหาวกลับจ้องเขม็งไปยังหลิงอวี๋และนางก็กำลังมองเขาอย่างยั่วยุเช่นกัน สายตาทั้งสองประสานกัน

“เสี่ยวหาว อย่าเสียแรงเปล่าเลย! มาอำลาท่านพ่อเจ้าเถอะ! เขาร่อแร่แล้วจริง ๆ!”

ท่านผังกล่าวเหน็บแนม

เมื่อเกิ่งเสี่ยวหาวได้ยินเสียงท่านผังก็หันหน้ากลับไปมอง แล้วคำตัดสินใจก็พลันเกิดขึ้นในใจพริบตา

“ได้ ข้าจะเดิมพัน!”

เกิ่งเสี่ยวหาวลดหมัดลง ก่อนจะกระชากหลิงอวี๋เข้าหาตัว

“ครึ่งก้านธูป! จำไว้ให้ขึ้นใจ!”

“เสี่ยวหาว เจ้าวุ่นวายหาปะไร? ท่านพ่อเจ้ากำลังจะตายแล้ว เจ้ายังคิดจะกลับกลอกเขาอยู่รึ?”

ท่านผังรีบพุ่งพรวดไปข้างหน้าขวางหลิงอวี๋ไว้ ท่านเกิ่งเอ้อร์ใกล้จะตายอยู่แล้ว และเจ้าเด็กกะโปโลเกิ่งเสี่ยวหาวผู้นี้มิใช่คู่ประมือของตนเลยสักนิด!

แม้จะมีโอกาสหนึ่งในหมื่นที่ช่วยชีวิตท่านเกิ่งเอ้อร์ได้ เขาก็ไม่ยอมเช่นกัน!

“ท่านอาผัง ตอนนี้ชีวิตของท่านพ่อข้าขึ้นอยู่กับข้าแล้ว ไม่ใช่กงการคนนอกอย่างท่านต้องสอดมือ!”

เกิ่งเสี่ยวหาวผลักหลิงอวี๋ไป “ไปช่วยคน ทางนี้ข้าจัดการเอง!”

หลิงอวี๋รีบเลี่ยงจากท่านผังฉับไว แต่ท่านผังยังคิดโฉบนาง ขณะเพิ่งแตะชายผ้าของนางมือก็พลันถูกเกิ่งเสี่ยวหาวสกัดไว้ได้

เกิ่งเสี่ยวหาวจ้องเขม็งที่เขาอย่างเหี้ยมเกรียม ก่อนจะเอ่ยขึ้นทีละคำทีละประโยคว่า “ท่านผัง พอได้แล้ว! อย่าบีบคั้นให้ข้าลงมือ...”

เมื่อเหล่าเสี่ยวเอ้อร์เห็นสถานการณ์ก็พลันต่างเดินเข้ามายืนอยู่ข้าง ๆ เกิ่งเสี่ยวหาวอย่างเงียบงัน

ท่านผังโมโหมาจนทั่วร่างสั่นสะท้าน ก่อนจะชี้เกิ่งเสี่ยวหาวตวาดลั่น

“เจ้าเดรัจฉาน ขวัญกล้าลงมือข้ารึ? เจ้าแข็งขืนไปแล้ว! ข้าจะแจ้งเหล่าสกุลเกิ่งตามกฏ!”

“รอท่านพ่อข้าจากไปจริง ๆ ก่อนเถอะ ท่านจะไปแจ้งสิ่งใดก็ได้ตามที่ท่านต้องการ! แต่ตอนนี้ถ้าไม่อยากด่วนตาย ก็เชิญท่านอาผังไปอยู่ด้านข้างเฉย ๆ เถิด!”

เซียวหลินเทียนกับอันเจ๋อสบตากัน แอบนึกในใจว่าเสี่ยวเอ้อร์สองคนนี้ไม่ธรรมดาเลย!

เมื่อพวกเขาเห็นก็มองออกเลยว่า เสี่ยวเอ้อร์นี้แม้ภายนอกดูดาษดื่น แต่ล้วนเป็นคนมีฝีมือต่อสู้เด่นล้ำ!

หากสู้กันจริงขึ้นมา ท่านผังผู้นี้คงไม่มีทางครองความได้เปรียบมิได้ง่าย ๆ !

เพราะคนสกุลเกิ่งพวกนี้รับมือไม่ง่าย!

และเกิ่งเสี่ยวหาวผู้นี้ก็รับมือไม่ง่ายเช่นกัน!

ฉะนั้นเซียวหลินเทียนใจยิ่งคิดแน่วแน่ที่จะดึงเหล่าสกุลเกิ่งมาเป็นพวก!

ด้วยการลงมือคราวนี้ของเกิ่งเสี่ยวหาวทำให้ท่านผังสงบลงได้

เนื่องท่านผังก็มองศักยภาพเหล่าสมุนของเกิ่งเสี่ยวหาวออกเหมือนกับเซียวหลินเทียน!

“เฮอะ!”

ครั้นท่านผังรู้สึกว่าครองความได้เปรียบไม่ง่าย และการวิวาทกันภายในกับเกิ่งเสี่ยวหาวต่อหน้าการจับจ้องของธารกำนัลไม่ใช่เรื่องดีนัก เขาจึงสะบัดแขนเสื้อเดินไปด้านข้างแล้วสังเกตการณ์อย่างเงียบเชียบ

ท่าทางเช่นนี้ของเกิ่งเสี่ยวหาวและเหล่าสมุนก็ข่มพวกเสิ่นจวนเหมือนกัน

ทำให้พวกนางต่างก็ไม่กล้าเอะอะอีกต่อไป พลันหวั่นว่าจะแหย่อารมณ์เกิ่งเสี่ยวหาวถึงขั้นถูกเฆี่ยนตี

หลิงอวี๋สบโอกาสระหว่างความอลหม่านเมื่อครู่ซ่อนตัวอยู่ในห้องหับชั้นบนและหยิบสิ่งของที่จำเป็นต่อการรักษาออกมา

ขณะนั้นเองก็คุกเข่าลงครึ่งหนึ่งลงข้างกายท่านเกิ่งเอ้อร์แล้วฉีดยาบำรุงหัวใจหนึ่งเข็มให้เป็นสิ่งแรก

จากนั้นก็สวมถุงมือปลอดเชื้อ ดึงลิ้นของเกิ่งเสี่ยวเหยออกมาพ่นยาชาเล็กน้อย

“นี่นางกำลังทำอะไรน่ะ?”

ตู้ตงหงเอ่ยถามสวี่เหยียนเสียงแผ่ว

“ผู้ใดจะรู้ว่านางมาลูกไม้ไหน?” สวี่เหยียนก็ดูสับสนเช่นกัน

หลังจากที่เกิ่งเสี่ยวหาวสะสางกับท่านผังแล้วก็เดินไปข้างกายหลิงอวี๋ ลอบมองอย่างเคร่งเครียด

เขารู้ตัวว่าด่วนรีบเดิมพันเกินไป แต่เขาก็กระจ่างแล้วว่าที่หลิงอวี๋พูดเป็นความจริง!

ในสถานการณ์ของท่านพ่อเขา ไม่อาจทนรอหมอหลวงจางมาได้แล้วจริง ๆ

“คาดหวังว่าเจ้าจะชนะเดิมพัน!”

นี่คือครั้งแรกเลยที่เกิ่งเสี่ยวหาวสวดภาวนาเพื่อคู่แข่ง หากเรื่องนี้แพร่สะพัดออกไป พฤติกรรมนี้ของเขาคงจะน่าขันทีเดียว!

ผู้ใดจะไปสวดภาวนาให้คู่แข่งตัวเองชนะกันเล่า!

รอครั้นหลิงอวี๋สวมหน้ากากอนามัยและหมวกแปลก ๆ ไม่ใช่แค่ฝูงชนเท่านั้น แม้เซียวหลินเทียนก็ถูกดึงดูดสายตาเช่นกัน

ไม่เคยเห็นหมวกเช่นนั้นมาก่อน มันเปล่งแสงสว่างตรงกลาง พอหลิงอวี๋กดเปิดใช้ก็พลันฉายแสงเจิดจ้าพุ่งออกสายหนึ่ง

“สวมถุงมือซะ! ช่วยข้าดึงลิ้นของท่านพ่อเจ้า!” หลิงอวี๋ส่งถุงมือปลอดเชื้อให้เกิ่งเสี่ยวหาวคู่หนึ่ง

เกิ่งเสี่ยวหาวมองแผ่นบาง ๆ แล้วกลัวว่าถ้ามือของตนสวมเข้าไปจะทำให้ถุงมือจะขาด

“มัวอืดอาดหาปะไร? ไม่ได้กินข้าวมารึ?”

หลิงอวี๋กลอกตาไปมาใส่เขา

จากนั้นเกิ่งเสี่ยวหาวรีบสวมทันควัน โชคดีที่ไม่ขาด

“ดึงเลย ข้าบอกให้เจ้าปล่อย เจ้าค่อยปล่อย!”

หลิงอวี๋หยิบแหนบทางการแพทย์ยาว ๆ ออกมา ฝูงชนต่างมองอย่างตะลึงพรึงเพริด นางจะใช้สิ่งของชิ้นนี้สอดแทรกเข้าในลำคอของท่านเกิ่งเอ้อร์งั้นรึ?

อย่างนั้นจะไม่เจ็บตายหรือ?

“เกิ่งเสี่ยวหาว เจ้าจะปล่อยสตรีผู้นี้ยุ่งกับพ่อเจ้าแน่รึ?”

ท่านผังแผดร้องไม่ยินยอม “เจ้าคนอกตัญญู!”

“อย่าสนใจเขา! มืออย่าสั่น! ชีวิตท่านพ่อเจ้าจะอยู่หรือตายขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว!”

หลิงอวี๋ปลอบขวัญเกิ่งเสี่ยวหาว

เกิ่งเสี่ยวหาวมองนัยน์ตาของนางที่เผยอยู่นอกหน้ากาก ดวงตาคู่นั้นสว่างสุกใสระคนความอบอุ่นในประเภทหนึ่งที่อธิบายไม่ได้

ความอบอุ่นประเภทที่อธิบายไม่ได้นี้ทำให้หัวใจของเกิงเสี่ยวห่าวสงบลงในพริบตา

เกิ่งเสี่ยวหาวดึงลิ้นของบิดาไว้มั่น

“ดึงออกมาอีกนิด ข้ามองไม่เห็น!”

หลิงอวี๋ก้มศีรษะลง ในสายตามีเพียงผู้ป่วยท่านเกิ่งเอ้อร์คนนี้เท่านั้น

ท่านเกิ่งเอ้อร์ถางตากว้าง สถานการณ์น่าอับอายที่ถูกก้างติดคอนี้ได้ทำให้เขารู้สึกค่อนข้างตายตาไม่หลับ

ลมหายใจที่พ่นออกจากปากนั่นมีกลิ่นแรงอย่างยิ่ง หลิงอวี๋กับเกิ่งเสี่ยวหาวอยู่ใกล้จึงได้กลิ่นเข้าเต็มเปา สูดกลิ่นจนทั้งสองเกือบเป็นลม

เกิ่งเสี่ยวหาวมองหลิงอวี๋ด้วยความกระอักกระอ่วน

ในแววตาของหลิงอวี๋ไม่ได้เผยท่าทีรังเกียจออกมา เพียงยื่นแหนบเข้าไปอย่างมั่นคง

ทันใดนั้น ทุกคนต่างกลั้นหายใจกันโดยสัญชาตญาณ แม้แต่เสิ่นจวนกับฉินรั่วซือที่อยากก่อปัญหาก็ยังไม่กล้าหายใจ

พวกนางต่างกำลังมองหลิงอวี๋ฆ่าคนหรือนี่?

ลู่หนานก็กลั้นหายใจเหมือนกัน เขากำมือแน่นและในฝ่ามือเต็มไปด้วยเหงื่อกาฬ

ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที หลิงอวี๋ก็ชักแหนบกลับมา ก่อนจะกล่าวตื่นเต้นดีใจ “เสร็จแล้ว ก้างปลาเอาออกมาแล้ว!”

เท่านี้ก็หายแล้วใช่หรือไม่?

สำหรับหลิงอวี๋แล้วผ่านไปแค่ไม่กี่วินาที แต่สำหรับเกิ่งเสี่ยวหาวกับลู่หนานกลับรู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปนานยิ่ง

“หยุดมือ!”

ครั้นหลิงอวี๋เห็นเกิ่งเสี่ยวหาวยังดึงลิ้นของท่านเกิ่งเอ้อร์อยู่ก็พลันกล่าวติติง “เจ้าอยากดึงลิ้นของพ่อเจ้าออกมาหมดเลยหรือไง!”

“พอแล้ว พอแล้ว...”

เมื่อเกิ่งเสี่ยวหาวถูกนางดุก็ปล่อยมือโดยไม่รู้ตัว แต่กลับเอ่ยถามอย่างเหลือจะเชื่อว่า “เสร็จแล้วจริงหรือ? เอาออกมาแล้วจริงหรือ?”

“จะหลอกเจ้าหาปะไร! ดูนี่สิ?”

หลิงอวี๋นำแหนบที่คีบก้างปลาชูขึ้นให้เขาดู

ไม่ใช่แค่เกิ่งเสี่ยวหาวเท่านั้นที่เห็น แต่ฝูงชนล้วนก็เห็นก้างปลายาวครึ่งนิ้วในแหนบ และยังมีโลหิตกับเศษใบผักประปรายติดมาด้วย...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา