ฝูงชนมองไปทางท่านเกิ่งเอ้อร์อีกครั้ง พบเพียงท่านเกิ่งเอ้อร์ไอค่อกแค่กสองสามครั้งและหายใจทางปาก
“มา นี่คือลูกอมเย็นสดชื่นเป็นยาอมแก้เจ็บคอ ให้ท่านพ่อเจ้าอมเสีย!”
เมื่อเห็นลมหายใจเข้าออกของท่านเกิ่งเอ้อร์ค่อย ๆ สม่ำเสมอ ดังนั้นจึงถอดถุงมือหยิบยาอมแก้เจ็บคอสองสามเม็ดส่งให้เกิ่งเสี่ยวหาว
ครั้นเกิ่งเสี่ยวหาวเห็นสีหน้าบิดาดีขึ้นเยอะแล้วก็ถอดถุงมืออย่างเชื่อฟัง ก่อนจะแกะยาอมแล้วป้อนเข้าในปากเขา
ท่านเกิ่งเอ้อร์คว้าตัวเขาไว้ แค่นกล่าวสองคำ “ช่วย… นั่ง!”
เกิ่งเสี่ยวหาวรีบคุกเข่าลงทันควัน พยุงเขาขึ้นนั่ง
หายใจได้ราบรื่นมากแบบนี้ทำให้ท่านเกิ่งเอ้อร์รู้สึกสบายขึ้นเยอะ
เมื่ออมยาอมแก้เจ็บคอที่หลิงอวี๋ให้ไว้ในปาก ความรู้สึกเจ็บปวดแผดเผาที่ถูกก้างปลาแทงในลำคอก็เริ่มมลายหายไปอย่างช้า ๆ
เขามองไปยังหลิงอวี๋ด้วยความซึ้งใจ เมื่อครู่เขาพูดไม่ได้เพราะถูกก้างปลาแทงคอ ทว่าก็รู้กระจ่างถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว
และเขาก็รู้ด้วยว่าถ้าไม่มีหลิงอวี๋ ตนก็คงสิ้นใจไปธารเหลือง(1)แล้วจริง ๆ
“ดียิ่ง… ขอบคุณพระชายาอ๋องอี้...”
ท่านเกิ่งเอ้อร์บีบมือเกิ่งเสี่ยวหาวอย่างลึกซึ้ง
พ่อลูกเกิ่งเสี่ยวหาวมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นและนางก็เข้าใจถึงความคิดของท่านเกิ่งเอ้อร์ด้วยการบีบเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
เขาพยักหน้าแล้วลุกขึ้นคำนับต่อหลิงอวี๋ กล่าวเสียงดังว่า
“พระชายาอ๋องอี้ ท่านช่วยชีวิตท่านพ่อข้าก็เทียบเท่ากับช่วยข้าเกิ่งเสี่ยวหาวด้วยเช่นกัน! ตั้งแต่วันนี้ไป เจ้าคือพี่สาวข้า!”
“ทุกคนที่ภัตตาคารจี๋เสียงฟังข้าไว้ให้ดี แต่นี้ไปเมื่อพี่สาวข้ามากินข้าวจะไม่เสียค่าอาหารสักเฟินเดียว!”
เอ่อ… เสิ่นจวนและคนอื่น ๆ เมื่อได้เช่นนั้นต่างก็ตะลึงตาค้างฉับพลัน
นี่… เมื่อครู่หลิงอวี๋แค่กระทำสิ่งง่าย ๆ ไปไม่กี่ขั้นตอนก็ได้กินข้าวไม่ต้องจ่ายเงินตลอดชีพแล้วหรือ?
แม่เจ้า นี่มันจะเอาเปรียบกันอะไรมากขนาดนี้!
งั้นที่พวกนางทำนางต้องอัปยศเรื่องจ่ายค่าอาหารไม่ไหววันนี้ หมายความว่าเหนื่อยเปล่าอย่างนั้นหรือ?
ฉินรั่วซือมีความชิงชังระคนอิจฉา นางมีทรัพย์สินน้อยและเดิมทีก็เข้าภัตตาคารจี๋เสียงไม่ไหว ทุกคราที่มาที่นี่ล้วนตีเนียนเกาะคนอื่นกินทั้งนั้น
ถึงแม้พวกเสิ่นจวนจะเอื้อเฟื้อเลี้ยงทุกครั้ง แต่ลับหลังก็เยาะเย้ยที่นางอวดดีและอัตคัด
สิ่งนี้ยิ่งเพิ่มความมุ่งมั่นของฉินรั่วซือคิดหาหนทางการออกเรือนให้ดีและจะแสดงให้พวกนางเห็นว่า สักวันหนึ่งนางจะซื้อภัตตาคารจี๋เสียงได้แน่นอน!
“ไอ้ลูกล้างผลาญ!(2)”
ท่านผังแอบยิ้มเยาะหยันเงียบ ๆ ปล่อยให้พวกเขามีความสุขกันไปก่อน
รอให้ภัตตาคารจี๋เสียงกลายเป็นของตน แล้วมาดูกันว่าคำพูดที่เจ้าหนุ่มนี่พูดวันนี้จะผันเป็นเรื่องขบขันเยี่ยงไร!
พระชายาอ๋องอี้ผู้นี้… แส่ไม่เข้าเรื่อง!
ท่านผังถลึงตามองหลิงอวี๋อย่างเหี้ยมเกรียม จดจำนางไว้
เซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ด้วยสีหน้าแปลกไป ไม่รู้ควรกล่าวสิ่งใดดี
เมื่อครู่นี้ นางยังถูกลากไปประจานเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าข้าวอยู่เลย!
เพียงพริบตาเดียวภัตตาคารที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวงแห่งนี้ยอมให้นางกินแบบไม่ต้องจ่ายตั้งแต่นี้ไปแล้วเสียอย่างนั้น!
ขนาดเขาเซียวหลินเทียนยังไม่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้เลย!
หลิงอวี๋… นางบอกว่าจะจัดการหนี้เอง!
แสดงว่านางจะใช้วิธีเช่นนี้มาจัดการหรือ?
หลิงอวี๋ก็แปลกใจเช่นกัน แรกเริ่มนางแค่อยากช่วยท่านเกิ่งเอ้อร์ทำธุรกิจสร้างความสัมพันธ์ฉันพี่น้อง!
ไฉนเลยจะคิดว่า เกิ่งเสี่ยวหาวจะหาญกล้าประกาศให้ตนกินข้าวไม่ต้องจ่ายหลังจากนี้ไป!
น้องชายคนนี้เป็นคนตรงไปตรงมา ควรค่าให้คบหาเสียจริง!
“สองวันนี้ให้ท่านเอ้อร์กินโจ๊กและกินของอ่อน ๆ สักหน่อยเพื่อถนอมลำคอ วันพรุ่งข้าจะมาตรวจดูอีก!”
เมื่อหลิงอวี๋พบว่า วันนี้ท่านเกิ่งเอ้อร์ไม่มีเรี่ยวแรงคุยธุรกิจกับตนแล้ว เลยเก็บเครื่องมือและบอกลา
การคุยเรื่องธุรกิจและไถ่ถอนมรดกตกทอดวงศ์ตระกูลเซียวหลินเทียนจะต้องรอคุยวันพรุ่ง!
เกิ่งเสี่ยวหาวก็ไม่ได้รั้งให้อยู่ต่อเช่นกัน เนื่องโดยรอบมีผู้ชุลมุนมากเกินไป และเขาต้องพะวงถึงฐานะของหลิงอวี๋ด้วย
เขาเร่งดูแลบิดาจึงให้คนที่ไว้ใจของตนส่งหลิงอวี๋ลงไป
คราวนี้เสิ่นจวนและคนอื่น ๆ ต่างไม่กล้าแดกดันถากถางหลิงอวี๋ต่อหน้าเกิ่งเสี่ยวหาวแล้ว
แม้แต่ชายาผิงหยางที่คิดจะกล่าวคำถากถางหลิงอวี๋อีก ยังต้องปิดปากสงบคำ!
คนในยุทธภพเหล่านี้ไม่ควรยุแหย่ ผู้ใดจะไปรู้ว่าอาจถูกลอบสังหารเมื่อไร!
กระทั่งคนปากตะไกรยังต้องคำนึงถึงจังหวะเลย!
พวกนางแค่ลอบดูหลิงอวี๋เดินลงไปอย่างเงียบสงบ
ชายาผิงหยางปลอบใจคนอื่น ๆ “อย่ารีบร้อนไป พวกเรารองานเฉลิมฉลองพระราชสมภพ วันนั้นค่อยทำให้นางอับอายอีกเถอะ! ตัวข้าก็จะรอดูว่านางถือเทียบเชิญปลอมไปจะเข้าร่วมงานได้เยี่ยงไร!”
ครั้นคนอื่น ๆ ได้ยินเช่นนั้นในใจถึงจะรู้สึกโล่งใจ
ใช่ เมื่อถึงตอนนั้นหลิงอวี๋ก็จะสิ้นหนทางเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองพระราชสมภพ หลังจากนั้นเมื่อหลิงอวี๋เห็นพวกนางก็จะต้องไปหลบซ่อนอย่างหดหู่!
แม่นมลี่และหลิงซินอยู่ข้างล่างมานานจนกังวลแทบตาย ขณะพวกนางได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากชั้นบนก็พยายามจะขึ้นไป แต่ก็ถูกเสี่ยวเอ้อร์ขวางกั้นไว้
รอจนใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ พลันเห็นเสี่ยวเอ้อร์ผู้หนึ่งเดินลงมาส่งหลิงอวี๋อย่างเคารพนบนอม
“ท่านแม่!”
เมื่อหลิงเยวี่ยเห็นหลิงอวี๋ก็พรวดเข้าไปคว้าหลิงอวี๋และเอ่ยถามอย่างเคร่งเครียด “พวกเขารังแกท่านหรือไม่? ได้รับบาดเจ็บหรือไม่ขอรับ?”
คนมากมายถึงเพียงนั้นทำเรื่องลำบากใจแก่ท่านแม่ ท่านแม่คงเอาชนะมิได้เป็นแน่?
หลิงอวี๋บีบแก้มน้อย ๆ ของเขายิ้มตอบว่า “เจ้าดูสิ แม่เหมือนไม่สบายหรือ? มิมีผู้ใดรังแกแม่หรอก เจ้าวางใจเถอะ!”
เสี่ยวเอ้อร์เมื่อเห็นหลิงเยวี่ยหัวใจก็สั่นไหว ก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า
“พระชายา พวกท่านกลับไปก่อนเถิด วันนี้พ่อครัวในครัวจะทำขนมอบใหม่เพราะตอนนี้ขายเกลี้ยงแล้ว! อีกสักพักจะให้พ่อครัวทำแบบพิเศษส่งให้คุณชายน้อยลองชิมถึงตำหนักอ๋องเลยขอรับ!”
หลิงอวี๋กำลังจะปฏิเสธ แต่คำพูดนั้นก็คาอยู่ในปากและกลืนลงไป
พวกคนเลือกปฏิบัติในตำหนักอ๋องอี้ต่างมีสีหน้าเยาะหยันเหมือนเสิ่นจวนและคนอื่น ๆ ถึงเวลาแล้วที่ภัตตาคารจี๋เสียงจะส่งขนมอบไปตบหน้าพวกนาง
เสี่ยวเอ้อร์ผู้นี้ช่างปราดเปรื่องนัก หลิงอวี๋จึงยอมรับน้ำใจส่วนนี้
นางคลี่ยิ้มกล่าวคำ “พี่เสี่ยวเอ้อร์ ต้องรบกวนเจ้าบ่อยแล้ว พี่เสี่ยวเอ้อร์มีชื่อแซ่อันใดรึ!”
“ข้าชื่อเปียวจือขอรับ!” เสี่ยวเอ้อร์ยิ้มนอบน้อม
หลิงเยวี่ยผงกศีรษะ จำได้แล้ว
คราหน้านางจะนำสิ่งของดี ๆ มอบให้เปียวจือผู้เมตตาปราดเปรื่องผู้นี้ด้วยแล้วกัน!
แม่นมลี่เดินตามหลิงอวี๋มาไกล แต่ยังรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังฝันอยู่ก็ไม่ปาน!
พวกนางคาดไม่ถึงเลยว่าจะไม่ต้องจ่ายค่าอาหารราคาแพงหูฉี่มื้อนี้สักตำลึงเงินเดียว?
แถมเสี่ยวเอ้อร์ยังกล่าวอีกว่าจะไปตำหนักอ๋องอี้เพื่อส่งขนมอบให้หลิงเยวี่ย!
ขนาดท่านอ๋องเองก็เหมือนจะยังไม่เคยได้รับการปฏิบัติเช่นนี้เลย!
แน่นอนว่า ในภายหลังมีเสี่ยวเอ้อร์หลายคนซึ่งนำหน้าโดยเปียวจือมาส่งขนมอบให้หลิงเยวี่ยกันอย่างเอิกเกริก
ไม่ใช่แค่ขนมอบเท่านั้นยังมีอาหารจานใหญ่อีกด้วย เหล่าเสี่ยวเอ้อร์ยกเข้าไปทำให้คนรับใช้ของตำหนักอ๋องอี้ต่างมองกันอย่างตะลึงอ้าปากค้าง
“แม่เจ้า มิใช่ว่าภัตตาคารจี๋เสียงเป็นร้านที่ขึ้นชื่อที่สุดแห่งเมืองหลวงแต่ไหนมาก็ไม่มีบริการส่งอาหารนี่?”
“พระชายาอ๋องอี้ผู้นี้ต้องได้รับเกียรติมากเพียงใดกัน ถึงได้ให้เสี่ยวเอ้อร์ของภัตตาคารจี๋เสียงมาส่งด้วยตนเอง!”
“ดูเหมือนว่าในอนาคตจะไม่อาจดูแคลนพระชายาอ๋องนี้ผู้ได้แล้ว...”
ก่อนที่พวกเปียวจือจะออกจากตำหนักอ๋องอี้ เรื่องนี้ก็ได้แพร่กระจายไปทั่วทุกสารทิศตำหนักอ๋องอี้แล้ว
เมื่อได้ยินข่าวว่า ภัตตาคารจี๋เสียงส่งขนมอบให้หลิงอวี๋ ชิวเหวินซวงสีหน้าก็ผันขุ่นเคือง หลิงอวี๋ผู้นี้เจตนาเยาะเย้ยหรือ?
นางทั้งยืมเงินกู้ดอกเบี้ยสูงไปตั้งเท่าไร และจ่ายคืนไปมากแค่ไหนถึงได้รับสินบนจากคนที่ภัตตาคารจี๋เสียง แล้วเผยเหตุการณ์นี้ขึ้น
หลิงอวี๋ เจ้าอย่าได้ดีใจเร็วเกินไปนัก ไม่ช้าก็เร็วเจ้าจะถูกเหยียดหยามอีกครั้งเพราะไม่จ่ายเงิน!
หากคราวนี้เจ้ายังรอดไปได้ ข้าก็จะใช้แซ่ของเจ้า!
ธารเหลือง (黄泉) เป็นความเชื่อของคนจีน ถ้าคนตายแล้วดวงวิญญาณจะเคลื่อนไหลไปตามกระแสของธารใต้ดินที่เรียกว่าธารเหลือง
ลูกล้างผลาญ เป็นสำนวน หมายถึง ลูกที่ใช้เงินฟุ่มเฟือย ทำครอบครัวล่มจม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา