วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋กำลังคิดว่าต้องพูดคุยเรื่องธุรกิจกับเกิ่งเสี่ยวหาว นางสั่งให้หลิงเยวี่ยเชื่อฟังแม่นมลี่ จากนั้นก็ออกตำหนักพร้อมกับหลิงซิน
หลิงซินได้สวมเสื้อผ้าอาภรณ์ที่ซื้อใหม่และกำลังถือกระปุกยารักษาแผลที่หลิงอวี๋เตรียมไว้ เดินตามนางออกตำหนักอย่างเบิกบาน
คราวนี้พอทั้งสองคนมาถึงภัตตาคารจี๋เสียงก็ได้รับการปฏิบัติแตกต่างไปจากเมื่อวานอย่างสิ้นเชิง
เสี่ยวเอ้อร์ของร้านคนนั้นก็ไม่เหมือนเมื่อวานแล้ว สีได้หน้าผันแปรใหม่
ครั้นเห็นหลิงอวี๋ก็กล่าวอย่างเคารพนบน้อม “พระชายาอ๋องอี้ ท่านมาแล้ว คุณชายน้อยเหลือห้องส่วนตัวไว้ให้ท่านที่ชั้นสามขอรับ!”
“ท่านขึ้นไปดื่มชาก่อนเถิด กระผมจะส่งคนไปแจ้งคุณชายน้อยและท่านเอ้อร์เดี๋ยวนี้ขอรับ!”
หลิงอวี๋ผงกศีรษะด้วยรอยยิ้มแล้วเดินตามขึ้นไปชั้นสาม
การตกแต่งของชั้นนี้หรูหราโอ่อ่ากว่าชั้นสองเสียอีก!
เมื่อวานหลิงอวี๋วุ่นอยู่กับการช่วยคน ไม่ได้สังเกตให้ละเอียด
วันนี้มีเวลาว่างแล้วจึงได้ดูละเอียดถี่ถ้วน
หลิงซินสับสนวุ่นใจจนทำสิ่งใดไม่ถูก สถานที่หรูหราแห่งนี้ทำให้นางรู้สึกประหม่ายิ่ง
ผ่านไปสักพักหนึ่ง เสี่ยวเอ้อร์ก็ยกชาดีกับขนมอบมา
หลิงอวี๋ดึงหลิงซินให้นั่งลง กล่าวยิ้ม ๆ ว่า “วันข้างหน้าหากติดตามตัวข้าออกมาจะได้พบเหตุการณ์เช่นนี้ท่วมท้น เจ้าเรียนรู้ที่จะสง่าผ่าเผยสักหน่อยเถอะ!”
“เจ้าจงจำไว้ว่า กระทั่งความตายพวกเราล้วนไม่หวั่นและในใต้หล้านี้ไร้สิ่งใดให้เราเกรง!”
“เจ้าค่ะ คุณหนู บ่าวจะจำไว้ในขึ้นใจ!”
หลิงซินพลันสงบสุขุมทันที เมื่อนึกถึงฉากที่ตนถือไม้ตะบองทุบตีหลิงหลาน
ตราบใดที่มีความกล้า คนที่ต้องหวั่นคือผู้อื่น!
นางรำพันคำพูดของหลิงอวี๋ในใจ เพื่อทวีความกล้าให้ตัวเอง
หลิงอวี๋เพียงนั่งไปเดี๋ยวเดียว ท่านเกิ่งเอ้อร์และเกิ่งเสี่ยวหาวก็มาแล้ว
หลังพักฟื้นมาหนึ่งคืน วันนี้สีหน้าท่านเกิ่งเอ้อร์ดีขึ้นมาก เพราะก้างปลาติดคอไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรนัก นอกจากยังมีเสียงแหบแห้งเล็กน้อย อาการผิดปกติอื่น ๆ ก็ไม่มีแล้ว!
“พระชายาอ๋องอี้ บุญคุณช่วยชีวิตนี้ ท่านเอ้อร์จะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต! เพื่อแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้ง ท่านเอ้อร์จะไม่มากพิธีแล้ว!”
ท่านเกิ่งเอ้อร์พูดตรงไปตรงมาอย่างยิ่ง เขาประสานมือคำนับหลิงอวี๋ ก่อนจะโบกมือกล่าวคำ
“เสี่ยวหาว คืนหลักฐานการกู้ยืมเงินกู้ดอกเบี้ยสูงและมรดกตกทอดวงศ์ตระกูลที่จำนำไว้แก่พระชายาอ๋องอี้ให้หมดเสีย!”
เกิ่งเสี่ยวหาวก้าวไปข้างหน้า นำกล่องกล่องหนึ่งและหลักฐานกู้ยืมวางตรงหน้าหลิงอวี๋ ก่อนเขาจะกล่าวเสียงทุ้มต่ำ
“พระชายาอ๋องอี้ เมื่อวานเสี่ยวหาวหุนหันแล้ว! ลืมตัวว่าฐานะพวกเราต่างกัน!”
“ความสัมพันธ์ฉันพี่น้องของพวกเราคงยอมรับไม่ได้แล้ว! ถือว่าการคืนหลักฐานกู้ยืมและมรดกตกทอดวงศ์ตระกูลแก่พระชายาเป็นการแทนคำขอบคุณในบุญคุณช่วยชีวิตแล้วกัน!”
หลิงอวี๋ชะงักงันชั่วขณะ จากนั้นครุ่นคิดสักพักก็พลันกระจ่างแจ้ง
นับแต่อดีตมารัฐกับโจรไม่คบค้ากัน สองพ่อลูกสกุลเกิ่งปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูง เปิดบ่อนพนันธุรกิจมืด
ส่วนหลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนถือว่าไร้มลทิน สองพ่อลูกกังวลต่อสถานะพวกเขาไม่อยากให้เรื่องพัวพันถึงราชสำนัก!
หลิงอวี๋ยิ้มอ่อนกล่าวคำ “งั้นอยู่ภัตตาคารจี๋เสียงข้าก็กินดื่มแบบไม่จ่ายไม่ได้แล้วหรือ?”
เกิ่งเสี่ยวหาวรู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่บ้าง เมื่อวานเขาเพิ่งประกาศต่อหน้าธารกำนัลไป พอถึงวันรุ่งขึ้นก็ไม่ยอมรับเสียแล้ว ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไปไม่เพียงหลิงอวี๋จะเสียเกียรติ เขาเองก็เสียเกียรติเช่นกัน!
“พระชายา มรดกตกทอดวงศ์ตระกูลและหนี้เงินกู้ดอกเบี้ยสูงเหล่านี้เพียงพอเลี้ยงปากท้องท่านได้นานนักหนาแล้ว!” ท่านเกิ่งเอ้อร์กล่าวคำ
หลิงอวี๋มองไปยังหลิงซิน เอ่ยคำ “เจ้าไปคอยข้างนอกก่อนเถิด!”
หลิงซินทำตัวไม่ถูกต่อเหตุการณ์พลิกผันฉากนี้ เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวอย่างพะวง “คุณหนู เราไปกันเถอะเจ้าค่ะ!”
“ออกไปรอก่อน! ข้ายังมีธุระพูดคุยกับท่านเกิ่งเอ้อร์และเกิ่งเสี่ยวหาวอีก!”
สีหน้าหลิงอวี๋มืดครึ้มลงเล็กน้อยส่งผลให้หลิงซินตกใจจนรีบรุดออกไป
“ท่านเอ้อร์ไม่อนุญาตเสี่ยวหาวคบค้ากับข้าเพราะกลัวจะเกิดเรื่องยุ่งยากหรือ?”
หลิงอวี๋ยื่นนิ้วมือนิ้วหนึ่งชี้ขึ้นฟ้า(1) กล่าววาจามีนัยแฝง
ชี้นิ้วขึ้นฟ้า เป็นวัฒนธรรมจีน หมายถึง 1) การชี้นิ้วก้อย นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ลง แสดงถึงความดูถูกเหยียดหยาม 2) การชี้นิ้วหัวแม่มือขึ้น แสดงถึงความเห็นชอบหรือชมเชย 3) การชี้นิ้วกลาง แสดงถึงการยั่วยุ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
ลุ้นจะหนียังไง...
หงุดหงิด กับเด็กนรกก...
อ๋องอี้กับชิวเหวินซวงเหมาะสมกันมาก เหมือนผีเน่ากับโลงผุเลย คนนึงเป็นอ๋องใจบอด อีกคนมักใหญ่ใฝ่สูง เล่เหลี่ยมมากมาย...
ถ้านางเอกกับลูกยอมรับอ๋องอี้ในที่สุดคือไม่เข้าท่าเลยนะ...
จะได้เปิดโรงหมอแล้ว เย่ๆๆๆ...
อ๋องอี้ก็ยังโง่ให้คนอื่นจูงจมูกง่ายๆเหมือนเดิม...
ต่อให้ไม่ใช่ลูกเห็นเด็กเล็กโดนขนาดนั้นก็ต้องรู้สึกอะไรบ้างไหม แต่นี่คือจิตใจอำมหิตมากกกก...
ในที่สุดควสมจริงก็เปิดเผยสักที แล้วทุกคนจะรับผิดชอบที่รักแกเยวี่ยเยวี่ยกับหลิงอวี่อย่างไรล่ะ...
อ๋องอี้ก็เฮงซวย ฮ่องเต้ก็ถูกจูงจมูกง่ายๆ หวังว่านางเอกกับลูกจะรอด แล้วทำให้พ่อกับปู่รู้ว่าตัวเองชั่วช้าคิดฆ่าลูกกับหลานแท้ๆได้ลงคอ หรือยัยน้องกับลูกต้องถูกทรมานเจียนตายจนใกล้ตอนจบเลยหรือเปล่า ส่วนไทเฮานั้นถ้าน้องรอดชีวิตไปได้ก็อย่าได้พบหญิงชรานางนี้อีกเลย...
อ๋องอี้คือผัวสารเลวสุดแสนเฮงซวยที่สุดแล้ว ต่อไปข้างหน้า ถ้านางเอกมารักกับผัวเฮงซวยแทนที่จะเลิกรากันไปนี่คือ เธอช่างใจกว้างไปละ...