สาว ๆ คนอื่นมองบนตัวของตนเอง กระทั่งเข็มขัดก็ยังเทียบไม่ติดเลย
จบ พลันรีบหุบปากกันทั้งหมด!
คนเทียบกับคนยังทำให้โกรธได้! สิ่งของเทียบสิ่งของ ย่อมต้องมีทิ้งกันบ้างปะไร!
“หลิงซิน เจ้าดูสิคนที่เขาดูของเป็นล้วนบอกว่าเป็นของจริง เช่นนั้นข้าก็วางใจแล้ว! เงินนี้จ่ายไปอย่างคุ้มค่าแล้ว!”
“ไปเถอะ! ท่านอ๋องรอพวกเราอยู่ทางนั้น!”
หลิงอวี๋กำลังจะก้าวเท้าเดินออกไป
พระชายาผิงหยางก็เหลือบมองผ้าคลุมหน้าของนาง แล้วยื่นมือไปจับนางไว้ “พระชายาอ๋องอี้ ไม่ต้องรีบร้อนกระมัง! นี่ยังคุยไม่จบเลยมิใช่รึ?”
“เมื่อสองวันก่อนข้าได้รับตำรับยาพื้นบ้านมา ได้ยินว่าถูกท่านอ๋องอี้ทุบตีจนบาดเจ็บไปทั้งหน้า ตำรับยาพื้นบ้านของข้าช่วยรักษารอยแส้ได้นะ!”
นางพูดแล้วยื่นมือจะมาคว้าผ้าคลุมหน้าของหลิงอวี๋…
หลิงอวี๋เห็นว่าพระชายาผิงหยางยื่นมือมา ก็หันหน้าหลบตามสัญชาตญาณ
พระชายาผิงหยางเห็นดังนั้นก็เอ่ยอย่างเยาะเย้ย “ผ้าคลุมหน้าผืนนี้ของเจ้าไม่ต้องคลุมแล้วกระมัง เจ้าไม่ให้ข้าดู ข้าจะรู้ได้เยี่ยงไรว่าตำรับยาพื้นบ้านเหมาะกับเจ้าหรือไม่!”
“ใช่!” เจิงจื่ออวี้เห็นว่าหาโอกาสที่จะให้หลิงอวี๋อับอายได้อีกครั้งแล้ว มีหรือจะปล่อยโอกาสนี้ไป จึงช่วยพูด
“แม้แต่ตัวประหลาดน่าเกลียดยังต้องเจอพ่อแม่ของมันฉันใด ก็ต้องเจอกับสังคมภายนอกฉันนั้น การปิดหน้าคุยกับพระชายาผิงหยางมันเสียมารยาท!”
“อีกไม่นาน พระชายาก็ต้องเปิดหน้าต่อหน้าองค์จักรพรรดิอยู่แล้ว ก็เปิดรับอากาศเสียตอนนี้เลยปะไร!”
สาว ๆ รอบข้างเหล่านั้นได้ยินที่พระชายาผิงหยางพูด ก็เริ่มพูดขึ้นมา
“จริงหรือ? นางถูกท่านอ๋องอี้โบยห้าสิบแส้จริงรึ?”
“โธ่สวรรค์ ทั้งใบหน้านั้นก็คงจะเละเลยสิ! เช่นนั้นก็ต้องน่ารังเกียจมากแน่ ๆ!”
“ใช่ ข้ามีรอยสิวแล้วก็รอยสิวตรงคางไม่กี่เม็ดยังกังวลเลย! รอยแส้เต็มหน้าของนางนั่นจะน่ากลัวแค่ไหนกันนะ!”
“ไม่ต้องพูดแล้ว ข้าฟังแล้วก็กลัวจะแย่! ให้นางปิดหน้าไว้ดีแล้ว! มิฉะนั้นข้ากลัว… เห็นแล้วคืนนี้จะฝันร้าย!”
เสิ่นจวนได้ยินประโยคนี้ก็ยิ้มออกมา “พระชายาผิงหยาง ท่านอย่าให้ลูกพี่ลูกน้องของหม่อมฉันเปิดหน้าเลย ท่านไม่ได้ยินที่พี่สาวคนนี้พูดหรือว่า กลัวจะตกใจจนเก็บไปฝันร้ายตอนนอน?”
พระชายาผิงหยางพูดอย่างมือถือสากปากถือศีล “หืม เจ็บหนักถึงเพียงนั้นเลยรึ! เช่นนั้นก็ช่างเถิด คาดว่าตำรับยาพื้นบ้านของข้าคงจำทำให้รอยแผลมากมายถึงเพียงนั้นหายไปมิได้หรอก!”
“พระชายาอ๋องอี้ หากเจ้าไม่มีหน้าจะไปพบใครเขา เช่นนั้นก็ปิดไว้เถอะ!”
หลิงอวี๋กดผ้าคลุมหน้าไว้แล้วยิ้ม “ไม่รบกวนให้พวกเจ้ามาเป็นห่วงหรอก หน้าข้าทายาแล้ว ต้องถูกแดดน้อย ๆ ! ไม่ใช่ว่าจะพบหน้าใครมิได้!”
“อย่าได้หาข้ออ้างเลย! ไม่รู้หรือว่ามันมีสำนวนว่ายิ่งปิดก็จะยิ่งน่าสงสัย?”
“ใส่ชุดงามแค่ไหน แต่คนน่าเกลียดก็ไม่มีทางปกปิดได้ น่าเสียดายชุดนี้เสียจริง…อยู่บนตัวพระชายาเสียดายของยิ่ง!”
ฉินรั่วซือก็วางเดิมพันไปหนึ่งร้อยเช่นกัน
ทันทีที่นึกได้ว่า หลิงอวี๋ทำให้นางต้องเสียงเงินที่ตนเองต้องลำบากหามาตั้งนาน ก็เกลียดจนอยากจะบีบคอให้ตาย ดังนั้นยิ่งพูดก็เลยยิ่งอวดดีมากขึ้น
สาว ๆ หลายคนรอบนอกต่างรู้สึกเสียใจ มีคนพูดขึ้นมาอย่างเศร้า ๆ ว่า “บางทีอาจจะเป็นเพราะพระชายาอ๋องอี้มิกล้าสู้หน้าใคร ดังนั้นถึงได้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้อชุดนี้มาปกปิดไว้กระมัง!”
พระชายาผิงหยางได้ยินคำพูดของพวกนางก็เอ่ยขึ้นมาอย่างดูถูก
“ชุดที่หลิงอวี๋ใส่คาดว่าคงไม่ได้ซื้อด้วยตัวเอง พวกเจ้าไม่ได้ยินข่าวลือหรือ? ว่านางไปกู้เงินมาไม่น้อย! คาดว่าคงจะไปกู้มาอีกไม่น้อยเลยเพื่อจะซื้อชุดนี้ไงเล่า!”
“ทำได้แค่เสียดาย คนน่ารังเกียจก็คือคนน่ารังเกียจ ใส่ชุดที่ดีแค่ไหน ก็ไม่มีทางปกปิดความจริงที่น่ารังเกียจได้!”
พระชายาผิงหยางภาคภูมิใจ รู้สึกว่า นับว่าตนเองหาทางพลิกกลับเรื่องที่เสียหน้าเรื่องชุดเมื่อครู่ได้แล้ว
เซียวหลินเทียนที่อยู่ไกล ๆ ได้ยินคำพูดนี้ ก็นึกถึงรอยแส้บนใบหน้าของหลิงอวี๋ แล้วก็รู้สึกรังเกียจ
แม้จะรู้สึกว่าพระชายาผิงหยางพูดจาไม่ดี แต่ก็ต้องยอมรับความจริงข้อนี้!
หลิงเยวี่ยเป็นเด็ก ต้องเงยหน้าถึงจะมองเห็นพวกนาง เขาได้ยินคนรอบ ๆ วิจารณ์ว่าหลิงอวี๋เป็นคนน่ารังเกียจ ก็ทนไม่ได้แล้ว
เขาพูดไปด้วยเสียงเด็ก ๆ ของเขา “ท่านแม่ของข้าไม่ได้น่าเกลียด ท่านแม่ของข้าเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในใต้หล้า!”
“หืม… ผู้หญิงที่สวยที่สุด! พระชายาอ๋องอี้ เจ้ามิอายรึ! ที่สอนลูกเช่นนี้!”
เจิงจื่ออวี้ไม่ทน หัวเราะออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
ลุ้นจะหนียังไง...
หงุดหงิด กับเด็กนรกก...
อ๋องอี้กับชิวเหวินซวงเหมาะสมกันมาก เหมือนผีเน่ากับโลงผุเลย คนนึงเป็นอ๋องใจบอด อีกคนมักใหญ่ใฝ่สูง เล่เหลี่ยมมากมาย...
ถ้านางเอกกับลูกยอมรับอ๋องอี้ในที่สุดคือไม่เข้าท่าเลยนะ...
จะได้เปิดโรงหมอแล้ว เย่ๆๆๆ...
อ๋องอี้ก็ยังโง่ให้คนอื่นจูงจมูกง่ายๆเหมือนเดิม...
ต่อให้ไม่ใช่ลูกเห็นเด็กเล็กโดนขนาดนั้นก็ต้องรู้สึกอะไรบ้างไหม แต่นี่คือจิตใจอำมหิตมากกกก...
ในที่สุดควสมจริงก็เปิดเผยสักที แล้วทุกคนจะรับผิดชอบที่รักแกเยวี่ยเยวี่ยกับหลิงอวี่อย่างไรล่ะ...
อ๋องอี้ก็เฮงซวย ฮ่องเต้ก็ถูกจูงจมูกง่ายๆ หวังว่านางเอกกับลูกจะรอด แล้วทำให้พ่อกับปู่รู้ว่าตัวเองชั่วช้าคิดฆ่าลูกกับหลานแท้ๆได้ลงคอ หรือยัยน้องกับลูกต้องถูกทรมานเจียนตายจนใกล้ตอนจบเลยหรือเปล่า ส่วนไทเฮานั้นถ้าน้องรอดชีวิตไปได้ก็อย่าได้พบหญิงชรานางนี้อีกเลย...
อ๋องอี้คือผัวสารเลวสุดแสนเฮงซวยที่สุดแล้ว ต่อไปข้างหน้า ถ้านางเอกมารักกับผัวเฮงซวยแทนที่จะเลิกรากันไปนี่คือ เธอช่างใจกว้างไปละ...