ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 93

ทันในนั้นพลันมีความคิดมหาศาลแวบผ่านสู่สมอง ครั้นเห็นรอยยิ้มของขันทีเซี่ย ทฤษฎีสมคบคิดทั้งหมดก็มลายหายไป

นางกระจ่างแจ้งเจตนาของไทเฮาแล้ว นี่คือโอกาสที่ไทเฮามอบให้ตนเพื่อล้างมลทิน!

หลิงอวี๋กล่าวหนักแน่น “หลิงอวี๋ขอถามขันทีเซี่ยสักสองสามคำถามได้หรือไม่?”

จักรพรรดิอู่อันจับจ้องนางอย่างสนใจใคร่รู้ ถือเทียบเชิญปลอมเข้าวังมายังสามารถนิ่งเฉยได้อยู่รึ?

สตรีดาษดื่นเมื่อต้องเผชิญกับคำประณามจากผู้คนมากมาย คงหวาดกลัวร้องห่มร้องไห้ตั้งนานแล้ว หลิงอวี๋ผู้นี้ค่อนข้างน่าสนใจนัก!

ขันทีเซี่ยคลี่ยิ้ม “พระชายาอ๋องอี้เชิญถามขอรับ!”

หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างกิริยางามสง่า “ขันทีเซี่ย ท่านกล่าวว่ากระดาษและมาตรฐานรูปแบบล้วนเป็นของแท้หรือ?”

“ถูกต้อง!” ขันทีเซี่ยตอบไร้กังวล “และเทียบเชิญอื่น ๆ ล้วนผลิตจากกรมการผลิตในวังหลวงทั้งสิ้น ภายนอกไม่มีทางทำเลียนแบบได้ขอรับ!”

“ขันทีเซี่ย ในเมื่อกระดาษมาจากในวังหลวงแล้วหมึกที่ใช้เล่า?” หลิงอวี๋เอ่ยถาม

หัวใจขันทีเซี่ยสั่นไหว เขาชำเลืองมองหลิงอวี๋อย่างเหนือคาดพลางตอบว่า “หมึกที่ใช้ก็จัดเตรียมมาเป็นพิเศษเช่นเดียวกันขอรับ!”

หลิงอวี๋คลี่ยิ้ม “หลิงอวี๋ไร้ความสามารถ แต่ทราบว่าใต้เท้าเฉิงชอบแท่งหมึกฮุยโม่(1)และฝ่าบาทเองก็ทรงโปรดปรานแท่งหมึกนั้นเช่นกัน แท่งหมึกฮุยโม่ของฝ่าบาทมีส่วนผสมสมุนไพรยางสน ผู้คนในใต้หล้าต่างรู้กันถ้วนทั่ว!”

“ขันทีเซี่ย ใต้เท้าเฉิงชอบผสมสิ่งใดในแท่งหมึกฮุยโม่อีกเล่า?”

ขันทีเซี่ยมองไปยังใต้เท้าเฉิงที่อยู่ไกล ๆ พลางตอบว่า “ใต้เท้าเฉิงมีความสนใจพิเศษอยู่ แท่งหมึกของเขาผสมกลิ่นหอมจากดอกท้อขอรับ!”

หลิงอวี๋คลี่ยิ้ม “อย่างที่ทุกคนทราบ ส่วนที่ยากที่สุดของแท่งหมึกฮุยโม่คือการผสมกลิ่นหอมจากบุปผา หลิงอวี๋ไม่รู้ว่ากรมการผลิตสามารถผสมแท่งหมึกกลิ่นดอกท้อได้หรือไม่!”

“มิสู้ลองถามใต้เท้าเฉิงดูสักหน่อย นอกจากเขาแล้วยังมีผู้ใดสามารถผสมแท่งหมึกฮุยโม่เช่นนี้ได้!”

ใต้เท้าเฉิงไม่รอให้ขันทีเซี่ยมองไปทางตน พลันเหยียดกายยืนขึ้นกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ

“กราบทูลฝ่าบาท กระหม่อมกล้ารับประกันภายใต้ทั่วทั้งแดนดินว่า นอกจากกระหม่อมแล้วมิมีผู้อื่นสามารถผสมกลิ่นหอมดอกท้อใส่แท่งหมึกฮุยโม่ได้แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”

“แท่งหมึกนี้สืบทอดทักษะจากปรมาจารย์ของกระหม่อม ตัวกระหม่อมเองผสมล้มเหลวเก้าครั้งในสิบครั้ง! ฉะนั้นกระหม่อมถึงใช้เพียงหมึกฮุยโม่ชนิดพิเศษนี้เขียนลงหนังสือสำคัญเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ!”

ชายาผิงหยางมองหลิงอวี๋คิดว่านางเอาแต่ก่อกวนไร้มูลเหตุ ไม่ยอมรับว่าตัวเองปลอมแปลง จึงร้องเรียกขึ้นอย่างหงุดหงิด

“ฝ่าบาท เวลานี้กำลังร่วมหารือเรื่องขันทีเซี่ยกับองครักษ์ผางรับสินบนเพคะ เกี่ยวข้องอันใดกับการใช้หมึกเขียนบนเทียบเชิญ! หลิงอวี๋แค่ต้องการเบี่ยงเบนประเด็นเพคะ!”

“ถึงแม้แท่งหมึกฮุยโม่ของใต้เท้าเฉิงจะมีความพิเศษ แล้วผู้ใดจะไปรู้ว่านางแอบส่งคนไปขโมยแท่งหมึกที่จวนใต้เท้าเฉิงหรือไม่เพคะ!”

เสียงโกลาหลดังเซ็งแซ่!

จักรพรรดิทอดมองชายาผิงหยางอย่างโกรธกริ้ว ภายในใจนึกดูแคลนสตรีไร้สมองผู้นี้ยิ่ง!

นางไม่เข้าใจหรือว่า หลิงอวี๋กำลังใช้เรื่องแท่งหมึกฮุยโม่มาพิสูจน์ว่านางไม่อาจปลอมแปลงเทียบเชิญได้น่ะ?

“พระชายาผิงหยาง ฝ่าบาทยังมิได้ซักถามข้าพเจ้า แล้วท่านมีสิทธิ์อันใดซักถาม? หรือท่านจะบอกว่ามีอำนาจเหนือหัวฝ่าบาทงั้นหรือ?”

ขันทีเซี่ยสีหน้าสงบลง เขารำคาญชายาผิงหยางผู้โง่เขลานี้มานานแล้ว

อย่างไรเสียเขาก็เป็นคนใกล้ชิดสนิทชิดเชื้อของฝ่าบาท กระทั่งขุนนางขั้นหนึ่ง(2)เมื่อพบเขาก็ล้วนเคารพนบนอบทั้งนั้น

สตรีนางนี้คิดว่าตนเป็นแค่บ่าวจริงหรือ?

นึกอยากใส่ไคล้ก็ใส่! นึกอยากประณามก็ประณาม!

ชายาผิงหยาง เจ้ารอก่อนเถอะ! วันนี้ข้าจะทำให้เจ้าต้องชดใช้กับคำพูดเหลวไหลซ้ำซากของเจ้า!

ครั้นขันทีเซี่ยกล่าววาจานี้ ชายาผิงหยางชะงักไปชั่วขณะพลางมองไปทางจักรพรรดิอู่อัน เมื่อพบว่าสีหน้าของเขามืดลงเล็กน้อยก็พลันหดลำคอทันควัน

“ฝ่าบาทโปรดประทานอภัยเถิดเพคะ หม่อมฉันเพียงว้าวุ่นชั่วขณะ มิมีเจตนาซักถามฝ่าบาทเด็ดขาดเพคะ!”

ชายาผิงหยางยังไม่จำยอมจึงกล่าวอย่างกราดเกรี้ยวว่า

“หม่อมฉันยอมรับว่าปากพล่อยเพคะ! แต่หม่อมฉันก็จะอดทนฟังและมาดูกันว่าหลิงอวี๋จะเถียงข้าง ๆ คู ๆ เช่นไร!”

ครั้นหลิงอวี๋เห็นว่า ขันทีเซี่ยแสดงอำนาจบารมีก็แอบยืนไว้อาลัยแก่ชายาผิงหยางเงียบเชียบ

คาดไม่ถึงเลยว่า ชายาผิงหยางจะขวัญกล้ากล่าวหาขันทีเซี่ยว่ารับสินบน ขันทีเซี่ยจะจดจำความแค้นนี้ไว้!

“ใต้เท้าเฉิง… หลิงอวี๋ขอถามว่าแท่งหมึกฮุยโม่ในจวนท่านถูกขโมยไปหรือไม่เจ้าค่ะ?”

แท่งหมึกฮุยโม่(徽墨) จากเมืองฮุยโจว (徽州) ในมณฑลอันฮุย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเลิศของศิลปะแท่งหมึกของจีน

ขุนนางขั้นหนึ่ง (一品大员) คือ อัครมหาเสนาบดี (丞相) เทียบเท่านายกรัฐมนตรีในปัจจุบัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา