หลิงอวี๋เร่งถามเร็วรี่ “พระชายาผิงหยางกล่าวว่าข้าแอบส่งคนไปขโมยแท่งหมึกฮุยโม่ที่จวนของใต้เท้าเฉิง ข้าหวังว่าใต้เท้าจะพูดอย่างสัตย์จริง!”
“เป็นไปมิได้เด็ดขาด! แต่ไหนมาก็มิเคยมีการขโมยในจวนข้ามาก่อน!”
“และแท่งหมึกฮุยโม่ชนิดพิเศษนี้ ข้าก็ทำมาแค่ห้าชิ้นเท่านั้นและทั้งหมดล้วนเก็บไว้ในวังหลวง มิเคยแพร่งพรายออกไปภายนอกได้ขอรับ!”
ใต้เท้าเฉิงตอบอย่างเด็ดเดี่ยว
“ขันทีเซี่ย เทียบเชิญใบนี้ใช้แท่งหมึกฮุยโม่ชนิดพิเศษของใต้เท้าเฉิงเขียนใช่หรือไม่?”
หลิงอวี๋หันไปเอ่ยถามทางขันทีเซี่ย
ขันทีเซี่ยสูดหายใจเข้าลึก นัยน์ตาฉายแสงความชื่นชมระลอกหนึ่งและผงกศีรษะกล่าวคำ
“เทียบเชิญนี้ของพระชายาอ๋องอี้เขียนด้วยหมึกชนิดพิเศษของใต้เท้าเฉิงจริงขอรับ!”
“ใต้เท้าเฉิง หลิงอวี๋ยังมีคำถามข้อสุดท้าย นอกจากท่านแล้วยังมีผู้ใดสามารถใช้แท่งหมึกฮุยโม่ของท่านได้อีกหรือไม่?”
หลิงอวี่เอ่ยถามต่อเนื่อง
“นั่นมีเพียงศิษย์ของข้าและไทเฮาเท่านั้น… ไทเฮาทรงโปรดปรานแท่งหมึกฮุยโม่ของข้าอย่างยิ่ง ข้าได้ถวายแก่พระองค์หนึ่งแท่งก่อนหน้านี้...”
“กราบทูลฝ่าบาทเพคะ! กระดาษและมาตรฐานรูปแบบเทียบเชิญของหลิงอวี๋ จนกระทั่งหมึกล้วนเป็นสิ่งของในวังหลวงทั้งสิ้น! แท่งหมึกฮุยโม่ของใต้เท้าเฉิงก็มิได้ถูกขโมยด้วยเช่นกันเพคะ!”
“ฉะนั้น… หลิงอวี๋มีเพียงข้อสรุปเพียงข้อเดียวว่านี่คือเทียบเชิญของจริงเพคะ!”
“โปรดฝ่าบาทตรวจสอบลายมือด้วยเถิดเพคะ แล้วท่านจะทราบว่า ผู้ใดเรียนเชิญหลิงอวี๋เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองพระราชสมภพเพคะ!”
หลิงอวี๋แย้มยิ้มอ่อน “เมื่อฝ่าบาททอดพระเนตรแล้วจะทรงรู้แจ้งว่า ขันทีเซี่ย ราชองครักษ์ผางและแม่นมเว่ย ท้ายสุดแล้วได้รับสินบนจากหลิงอวี๋จริงหรือไม่เพคะ!”
คำพูดของหลิงอวี๋ล่อลวงใจจักรพรรดิอู่อัน ก่อนจะยกมือขึ้น ขันทีเซี่ยจึงมอบเทียบเชิญด้วยสองมืออย่างรู้หน้าที่
เมื่อจักรพรรดิทอดมองลายมือมังกรเหินหงส์ระบำ เมฆาล่องลอย สายธารไหลรินที่คุ้นเคยตรงหน้า
พระองค์ชะงักงันไปชั่วขณะพลางมองไปทางไทเฮาอย่างอดไม่ได้ ส่ายศีรษะแล้วกล่าวคำ
“ไทเฮา… ท่านไม่ทูลข้าสักคำว่าจะส่งเทียบเชิญแก่พระชายาอ๋องอี้… ท่านดูสิ นี่มิใช่เรื่องเข้าใจผิดแล้ว!”
ไทเฮาหัวเราะเอิ๊กอ๊ากพลางมองไปทั่วลานรอบหนึ่งอย่างมีความหมายลึกซึ้งตราตรึง ก่อนจะกล่าวว่า
“ตัวข้าผู้เป็นไทเฮามิเคยฉุกคิดมาก่อนเลยว่าการส่งเทียบเชิญสองใบด้วยตนเองจะทำให้พระชายาอ๋องอี้เกิดความลำบากถึงเพียงนี้...”
“ได้ยินมาว่า ก่อนหน้านี้พวกเจ้าเดิมพันกันว่าพระชายาอ๋องอี้จะเข้าวังหลวงได้หรือไม่ ต่อมาก็ยังมิได้เตรียมที่นั่งให้พระอ๋องอี้ด้วย...”
“ตัวอักษรของตัวข้าผู้เป็นไทเฮาเขียนได้อัปลักษณ์นักจนดูไม่ออกกันหรือ ทุกท่านถึงไม่เห็นตัวข้าอยู่ในสายตาเลย!”
จักรพรรดิโดนวาจาของไทเฮาทำให้ละอาย พลันรีบฝืนหัวเราะทันควัน
“ไฉนจะเป็นเช่นนั้น! ไทเฮา แน่นอนว่าต้องเป็นความเกียจคร้านของข้ารับใช้ ท่านรอประเดี๋ยวข้าจะลงโทษพวกนางแทนท่านเอง!”
ภายใต้ผู้คนที่เพิ่งโห่ร้องเอ็ดตะโรว่าเทียบเชิญหลิงอวี๋เป็นของปลอมต่างตระหนกจนเหงื่อไหลไคลย้อย สีหน้าซีดเผือด
ชายาผิงหยาง เสิ่นจวนและเจิงจื่ออวี้ต่างตกตะตึงตาค้าง
พวกนางคิดจะเปิดโปงขันทีเซี่ย ราชองครักษ์ผางว่ารับสินบน คราวนี้ถึงหลิงอวี๋ไม่ตายแต่ก็ต้องถูกกระชากหน้ากากออกมาจงได้!
ไฉนเลยจะคิดว่าเทียบเชิญเป็นของจริง!
ทั้งยังเป็นไทเฮาเขียนเองกับมือ!
นี่… เป็นไปได้ยังไง!
ไม่คาดเลยว่า ไทเฮาจะเชิญหลิงอวี๋ผู้มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ด้วยตนเอง?
นี่มันเกิดเรื่องผิดพลาดอันใดขึ้นกันแน่!
“ขันที รีบเตรียมที่นั่งให้พระชายาอ๋องอี้เดี๋ยวนี้!”
ขันทีเซี่ยกวาดมองชายาผิงหยางด้วยสายตาเยือกเย็นพลางตะโกนอย่างปรีดา
ชายาผิงหยางลอบมองอย่างไร้ความยินดีที่ขันทีน้อยสองคนยกย้ายเก้าอี้ไปทางฝั่งตน
การเดิมพันว่า หลิงอวี๋จะเข้าวังหลวงได้หรือไม่นั้นทำให้นางแพ้จนต้องเสียเงินสองหมื่นตำลึงเชียวนะ!
บัดนี้เป็นเพราะหลิงอวี๋หลอกตน ทำให้นางคิดว่า พวกแม่นมเว่ยและทั้งสามคนรับสินบนสองแสนจากหลิงอวี๋จริง ๆ เสียอีก!
นางยืนหยัดแฉออกมาเช่นนี้แล้ว ไม่เพียงมิได้ผลประโยคสักนิดเดียว แต่ยังล่วงเกินแม่นมเว่ย ขันทีเซี่ยและราชองครักษ์ผางในคราวเดียวด้วย!
กลับตำหนักไปครานี้ไม่ใช่ว่าจะถูกท่านอ๋องผิงหยางตีตายหรอกนะ!
นางไม่อาจกลืนวาจาเหล่านั้นกลับคืนได้ ไม่ว่าจะกล่าวสิ่งใดก็ตาม!
ครั้นชายาผิงหยางเห็นหลิงอวี๋กำลังจูงมือหลิงเยวี่ยเดินลงมา พอบ่ายสายตาไปมองก็พลันผุดความคิดบางอย่างขึ้นในบัดดล…
ไม่รอให้หลิงอวี๋ได้ย่างกรายเข้าใกล้ ชายาผิงหยางก็พูดโพล่งขึ้นเสียงดัง
“ไทเฮา ฝ่าบาท นี่มิเหมาะสมนะเพคะ! หลิงอวี๋คือพระชายาอ๋องอี้ ไทเฮาเชื้อเชิญนางเข้าวังหลวงร่วมงานเฉลิมฉลองพระราชสมภพ หม่อมฉันก็สิ้นคำกล่าวแล้ว!”
“ทว่าบุตรนอกสมรสผู้นี้… เขามีคุณสมบัติอะไรมาร่วมงานพระราชสมภพหรือเพคะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
ลุ้นจะหนียังไง...
หงุดหงิด กับเด็กนรกก...
อ๋องอี้กับชิวเหวินซวงเหมาะสมกันมาก เหมือนผีเน่ากับโลงผุเลย คนนึงเป็นอ๋องใจบอด อีกคนมักใหญ่ใฝ่สูง เล่เหลี่ยมมากมาย...
ถ้านางเอกกับลูกยอมรับอ๋องอี้ในที่สุดคือไม่เข้าท่าเลยนะ...
จะได้เปิดโรงหมอแล้ว เย่ๆๆๆ...
อ๋องอี้ก็ยังโง่ให้คนอื่นจูงจมูกง่ายๆเหมือนเดิม...
ต่อให้ไม่ใช่ลูกเห็นเด็กเล็กโดนขนาดนั้นก็ต้องรู้สึกอะไรบ้างไหม แต่นี่คือจิตใจอำมหิตมากกกก...
ในที่สุดควสมจริงก็เปิดเผยสักที แล้วทุกคนจะรับผิดชอบที่รักแกเยวี่ยเยวี่ยกับหลิงอวี่อย่างไรล่ะ...
อ๋องอี้ก็เฮงซวย ฮ่องเต้ก็ถูกจูงจมูกง่ายๆ หวังว่านางเอกกับลูกจะรอด แล้วทำให้พ่อกับปู่รู้ว่าตัวเองชั่วช้าคิดฆ่าลูกกับหลานแท้ๆได้ลงคอ หรือยัยน้องกับลูกต้องถูกทรมานเจียนตายจนใกล้ตอนจบเลยหรือเปล่า ส่วนไทเฮานั้นถ้าน้องรอดชีวิตไปได้ก็อย่าได้พบหญิงชรานางนี้อีกเลย...
อ๋องอี้คือผัวสารเลวสุดแสนเฮงซวยที่สุดแล้ว ต่อไปข้างหน้า ถ้านางเอกมารักกับผัวเฮงซวยแทนที่จะเลิกรากันไปนี่คือ เธอช่างใจกว้างไปละ...