ชายาผิงหยางยื่นมือชี้ไปทางหลิงเยวี่ยพลางกล่าวด้วยดวงหน้าเหี้ยมเกรียม
“บุตรนอกสมรสผู้นี้ ไร้ชื่อไร้แซ่ กระทั่งบิดาผู้ให้กำเนิดยังมิรู้ว่าคือผู้ใด!”
“หลิงอวี๋ไม่รู้จักละอาย ทั้งยังพามาร่วมงานเฉลิมฉลองพระราชสมภพ แต่ตัวข้าผุ้เป็นพระชายาในฐานะคนแห่งราชนิกุล ยังกลับรังเกียจที่จะร่วมโต๊ะอาหารกับสตรีชั้นต่ำเยี่ยงนี้เพคะ!”
“ฝ่าบาท ไทเฮา ท่านอ๋องอี้ขาทั้งสองข้างพิกลพิการแล้ว! พวกเราในฐานะเครือญาติของเขาจะเพียงมองดูเขาถูกทำให้อัปยศอดสูอยู่เฉย ๆ หรือเพคะ?”
“ไทเฮา ฝ่าบาท สายเลือดราชวงศ์มิควรต้องด่างพร้อย… หลิงอวี๋นำสายเลือดมาปะปนกันยุ่งสมควรประหารพันมีดหมื่นแล่(1)เพคะ!”
“โปรดไทเฮา ฝ่าบาททรงตัดสินพระทัยเพื่อท่านอ๋องอี้ในวันนี้เถิดเพคะ ประหารหลิงอวี๋หญิงสารเลวผู้นี้เพื่อให้ท่านอ๋องอี้อภิเษกสมรสครั้งใหม่กับสตรีเพียบพร้อมคุณธรรมมากความสามารถเป็นพระชายา!”
เส้าเจิ้งซาน ท่านลุงกั๋วก็คว้าโอกาสเหยียดหยามดั่งคราก่อนเช่นกัน ยืนขึ้นกล่าวคำ
“ฝ่าบาท กระหม่อมเห็นด้วยกับคำพูดพระชายาผิงหยาง! หลิงอวี๋หญิงไม่รู้จักละอายผิดชอบชั่วดีขาดคุณธรรมเช่นนี้ ไม่คู่ควรร่วมงานเฉลิมฉลองพระราชสมภพพ่ะย่ะค่ะ”
“สตรีที่ล่วงประเวณีในหมู่คนสามัญล้วนถูกรับโทษจิ้นจูหลง(2)ถูกจับถ่วงน้ำทั้งสิ้น หลิงอวี๋ก็สมควรรับโทษจิ้นจูหลงเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ!”
“บุตรนอกสมรสผู้นี้สวมรอยเป็นทายาทของราชวงศ์ก็สมควรถูกสะบั้นคอประจานต่อธารกำนัลเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ!”
“อะไรนะ? หลิงอวี๋พาบุตรนอกสมรสผู้นี้มาด้วยงั้นหรือ?”
จักรพรรดิถูกพวกเขาปลุกเตือนสติจึงเริ่มสนใจเด็กคนนั้น
เขาได้ยินคำเล่าลือไม่น้อยเกี่ยวกับบุตรนอกสมรสผู้นี้มาตลอดหลายปี แต่ตนมิได้หยิบยกมาใส่ใจ เนื่องเขาไม่อยากเอาเรื่องโสมมใหญ่หลวงนี้มาทำลายเกียรติยศของราชวงศ์
ทว่าครานี้ได้ถูกเผยต่อธารกำนัลแล้ว ยังแสร้งเป็นไม่เห็นได้หรือ?
สีหน้าของจักรพรรดิมืดครึ้มลงพลางตาอันเฉียบคมตกสู่ร่างท่านอดีตเสนาบดี
ไยท่านอดีตเสนาบดีไม่จัดการคนชั้นต่ำผู้นี้ให้ตายตั้งแต่ตอนนั้นเสีย!
ยังมีเจ้าอกตัญญูเซียวหลินเทียนนั่นอีก หลังรู้ว่าหลิงอวี๋ให้กำเนิดบุตรนอกสมรสในคราแรก เขาก็เคยบอกเป็นนัยต่อเซียวหลินเทียนแล้วว่า ต้องลอบฆ่าหลิงอวี๋อย่างเงียบงัน
แต่เขาไม่ฆ่า!
ไม่เพียงปล่อยให้แม่ลูกใช้ชีวิตสงบสุข แต่ยังจะพาพวกเขาเข้าวังหลวงมาอย่างมีเกียรติอีก!
หรือเขาไม่พอใจที่ตนบีบคั้นให้อภิเษกสมรสกับหลิงอวี๋รึ!
ทันใดนั้น ความคิดของจักรพรรดิก็ยุ่งเหยิงและสุดท้ายสายตาก็ตกสู่ร่างหลิงอวี๋ จากนั้นแรงปรารถนาสังหารพลันทะยานสูงขึ้น
“ฝ่าบาท โปรดระงับโทสะเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
ท่านอดีตเสนาบดีสัมผัสได้ถึงแววตาอำมหิตของจักรพรรดิอู่อัน หัวใจก็กระตุกพักหนึ่ง
ท่านอดีตเสนาบดีไม่ใส่ใจความขุ่นเคืองของตนที่มีต่อหลิงอวี๋ ก่อนจะลุกยืนขึ้นพลางยกมือคำนับไปทางจักรพรรดิอู่อันโดยสัญชาตญาณ
“แม้พฤติกรรมของหลิงอวี๋จะไร้กาลเทศะ แต่ความผิดไม่ถึงขั้นบรรลัย วิงวอนฝ่าบาทเห็นแก่เกียรติของกระหม่อมทรงไว้ชีวิตนางด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมจะพระราชทานหนังสือหย่าของนางหนึ่งฉบับและจะพาหลานสาวอกตัญญูผู้นี้กลับจวนเพิ่มการอบรมสั่งสอนอย่างเข้มงวดพ่ะย่ะค่ะ!”
เมื่อหลิงอวี๋เห็นท่านอดีตเสนาบดีย่างก้าวไปข้างหน้า ภายในสมองก็เกิดฉากเหตุการณ์ที่ท่านอดีตเสนาบดีเอ็นดูรักใคร่ตนผ่านเข้ามาแวบหนึ่ง ครั้นแล้วหางตาก็เริ่มเปียกชื้นประปราย
ที่แท้ท่านอดีตเสนาบดียังคงรักนางอยู่…
เมื่อหลิงอวี๋มองเปรียบเทียบทางเซียวหลินเทียนที่หมางเมินต่อสถานการณ์ พลันยิ่งทวีให้นางปรารถนาที่จะหย่าร้างอย่างไม่หวั่นไหว
ในเมื่อการหย่าร้างต้องได้รับความยินยอมจากจักรพรรดิ ไยไม่ใช้โอกาสนี้ไปจากตำหนักอ๋องอี้เสียเลย!
เมื่อนึกถึงจุดนี้ หลิงอวี๋ก็คุกเข้าลงกล่าวคำ “ฝ่าบาท หลิงอวี๋ถูกใส่ความเพคะ เด็กผู้นี้คือลูกของท่านอ๋องอี้ มิใช่ลูกนอกสมรสเพคะ!”
“หากฝ่าบาทและท่านอ๋องอี้ไม่ยอมรับเขาก็พระราชทานหนังสือหย่าร้างแก่หลิงอวี๋เถิด หลิงอวี๋ยินดีพาเด็กกลับจวนกับท่านปู่เพคะ!”
สีหน้าท่วงท่าเรียบนิ่งของหลิงอวี๋ทำให้จักรพรรดิอู่อันตะลึงงันชั่วขณะ
จนถึงขั้นนี้แล้วนางยังรักษาอารมณ์เรียบนิ่งไว้ได้อยู่งั้นรึ!
หรือว่าเด็กผู้นี้เป็นลูกของเซียวหลินเทียนจริง?
พระสนมรองที่ยืนอยู่ข้างล่างคือน้องสาวของพระสนมอวิ๋นเฟยผู้ล่วงลับ ซึ่งเป็นมารดาของเซียวหลินเทียน
นางไม่เห็นด้วยกับตำแหน่งชายาอ๋องอี้ของหลิงอวี๋มานานแล้ว เมื่อเห็นว่าชายาผิงหยางกับท่านลุงกั๋วกำลังเล่นงานหลิงอวี๋
ก็พบว่าหลิงอวี๋ยังคงเถียงข้าง ๆ คู ๆ ในเวลานี้อีก!
เมื่อนึกถึงครอบครัวของนางต้องเผชิญกับความอัปยศอดสูช่วงหลายปีนี้เพราะหลิงอวี๋ นางก็ก้าวมาข้างหน้าพลางกล่าวอย่างสลด
“ฝ่าบาท ไทเฮา หม่อมฉันขอกล่าวเพื่อท่านอ๋องอี้สักประโยคเถิดเพคะ สตรีออกเรือนควรเคารพหลักสามเชื่อฟังสี่จรรยา(3) หลิงอวี๋ไร้ความสามารถขาดคุณธรรม มีความผิดเจ็ดประการกลับได้รับโทษเพียงห้าประการ!”
“การหย่านับว่าผ่อนปรนเกินไปแล้ว! หากท่านพี่พระสนมอวิ๋นเฟยยังมีชีวิตอยู่ นางคงเห็นด้วยให้หลิงอวี๋รับโทษจิ้นจูหลงเป็นแน่เพคะ!”
(1) พันมีดหมื่นแล่ (千刀万剐) คือ วิธีประหารชีวิตด้วยการฆ่าหั่นศพ
(2) จิ้นจูหลง (浸猪笼) คือ การโทษชนิดหนึ่งสำหรับคนล่วงประเวณี ซึ่งจะถูกขังในกรงหมูแล้วถ่วงน้ำ หากโทษเบาจะแขวนกรงไว้และอนุญาตให้โผล่ศีรษะขึ้นเหนือน้ำได้
(3) หลักสามเชื่อฟังสี่จรรยา เป็นหนึ่งในหลักมาตรฐานทางจริยธรรมของจีนโบราณยุคศักดินา ซึ่งเป็นหลักที่จำกัดสิทธิเสรีภาพของสตรีในสมัยนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา