ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 161

บทที่ 161 พบกัน ณ ประตูวัง

อันหลิงหยุนเดินหน้าไปก่อนก้าวหนึ่ง ถอนสายบัว: “ถวายบังคมท่านอ๋อง”

ดวงตากงชิงวี่เคร่งขรึม มองอันหลิงหยุนครู่หนึ่ง: “ไม่จำเป็นต้องทำให้วุ่นวายเช่นนี้ มิได้มีผู้อื่น ร่างกายเจ้าไม่ได้เหมือนผู้อื่น อ้วนเช่นนี้”

อันหลิงหยุนมองไป แล้วตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง

ดูเหมือนว่า ทุกคนจะจริงจังกับเรื่องที่นางอ้วนจนกลมเป็นลูกบอลเช่นนี้

แต่อันหลิงหยุนเมินเฉย รู้ว่ากงชิงวี่ไม่สบายใจ เดินเข้าใกล้ถาม: “ท่านอ๋องอารมณ์ไม่ดีหรือเพคะ?”

“จะอารมณ์ดีกระไร?” กงชิงวี่มองไปที่หยุนโล๋ชวนที่จับกุมตัวไป สีหน้าเย็นชาราวกับน้ำแข็ง

อันหลิงหยุนถาม: “เรื่องนี้ยังมีทางหนีทีไล่หรือไม่เพคะ?”

“มีอยู่แล้ว หยุนโล๋ชวนไม่เหมือนเด็กสาวทั่วไป อันกั๋วกงเป็นผู้ใด ตำหนักกั๋วกงคือที่ใด นับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศต้าเหลียง ตำหนักกั๋วกงก็คือเสาหลักต้นหนึ่งของประเทศต้าเหลียง ประเทศต้าเหลียงขาดกงชิงวี่ได้ แต่ขาดตำหนักกั๋วกงไม่ได้

ตำหนักกั๋วกงมีผู้คนเสียชีวิตมามากมายเท่าไร ได้รับคุณงามความดีมาแล้วเท่าไรแล้ว

หญิงสาวในตำหนักกั๋วกงมีความแข็งแกร่งหนักแน่นมากว่าชายจิตใจที่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่ เรื่องพรรค์นั้น นางจะไปทำได้กระไร?

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าพระชายารองหยุนคือผู้ใด?

แม้ว่าอ๋องตวนจะไม่ดีมาเท่าไรก็ตาม ก็แกร่งกว่าคนรับใช้ นางสามารถกระทำได้หรือ?

พระชายารองหยุนรอบตัวมีผู้ชายนับไม่ถ้วนตั้งแต่เด็ก มีโอกาสตั้งมากมาย แต่ดันเลือกเวลานี้ สุขภาพจิตไม่ไม่สมบูรณ์หรือกระไร?

กงชิงวี่ยิ่งพูดยิ่งโมโห จ้องมองไปที่จวนอ๋องตวนด้วยความโกรธ

อันหลิงหยุนมองย้อนกลับไป ด้วยความหนักอกหนักใจอย่างมาก

ชายผู้นี้ก็มีอารมณ์ที่โกรธแทนผู้อื่นด้วยหรือ?

จะเห็นได้ว่านางเข้าใจทุกอย่าง แต่ปัญหาคือ เข้าใจแล้วยังกระไร หากไม่มีหลักฐานชัดเจน พระชายารองหยุนเป็นถึงจวิ้นจู่ เบื้องหลังของนางคือทุกคนของตำหนักกั๋วกง แม้ว่าจวนอ๋องตวนจะยโสโอหังมากเพียงใด ก็ไม่กล้าจับคนโดยภาระการ

หากถามเรื่องนี้ในจวนอย่างเงียบๆ ก็แล้วไป ทางหนีทีไล่ก็ยังพอมี แต่ตอนนี้คิดว่า คงไม่มีทางหนีทีไล่ที่ใดแล้ว เห็นได้ชัดเลยว่าไม่มีวิธีแก้ปัญหาแม้แต่นิด

ส่งไปถึงต้าจงเจิ้งย่วน เรื่องพรรค์นี้ต้องใช้วิธีการลงโทษอย่างหนัก แม้ว่ากระดูกของพระชายารองหยุนจะแข็งมาก ก็เกรงว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อได้ไม่นาน

เรื่องพรรค์นี้ ตีให้ตายก็ไม่มีผู้ใดกล้าถาม

ดังนั้นเขาตรัสว่ามีทางหนีทีไล่ พูดอย่างโกรธเคืองมาก

กงชิงวี่เดินอ้อมอันหลิงหยุนไปที่หน้าประตูจวนอ๋องตวน กงชิงหยินยืนอยู่ที่ประตูอย่างเหม่อลอย และผงะเมื่อเห็นกงชิงวี่ จากนั้นใบหน้าของเขาก็ย่ำแย่มาก หันเดินเข้าไปในจวนอ๋องตวน

กงชิงวี่ก็ไม่เกรงใจต่อเขาเช่นกัน เดินตามเข้าไปข้างใน

“ทุกคนออกไปเถิด ข้าเหนื่อยแล้ว ต้องการความสงบ หากไม่มีเรื่องอันใดอย่ามาหาข้า” กงชิงหยินเดินยังหลังวังของตำหนักเซี่ยวเฟิง คนรับใช้ในจวนก็ตกใจมากเช่นกัน แตกกระเจิงไปตามๆ กัน

อันหลิงหยุนตามกงชิงวี่ไปถึงตำหนักเซี่ยวเฟิงเงยหน้าขึ้นมอง ตัวอักษรใหญ่สามตัวที่มีความงดงามและแข็งแรง แสดงให้เห็นถึงความองอาจของเจ้าของ

แต่ในขณะนี้ดูเหมือนจะเป็นการเยาะเย้ย สายลมอ่อนๆ และสายฝนพัดมา

แม้บ้านเกิดจะมีปัญญามากเพียงใด แต่เมื่อไปบ้านสามี บ้านสามียอมรับนางไม่ได้ นางก็คงแย่

อันหลิงหยุนโชคดี ไม่ว่ากระไรนางก็เป็นพระชายาเอก หากเป็นพระชายารอง คงต้องซวยไปแปดภพชาติ!

โดยเฉพาะเจออย่างจุนฉูฉูที่เป็นดั่งคมในฝัก ตีสองหน้าเช่นนี้

กวชิงวี่เข้าไปในประตู โบกไม้โบกมือ คนรับใช้ด้านในออกไปจนหมด ขณะนี้มีเด็กหญิงรับใช้อายุราวๆ สิบสองสิบสาม คุกเข่าอยู่ที่พื้น เด็กหญิงรับใช้ถูกตีซ้อมอย่างสาหัส ใบหน้าบวมปูด ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล ถูกมัดคุกเข่าอยู่กับพื้น ดวงตาขุ่นเคืองเมื่อพบกงชิงหยิน ราวกับจะฆ่ากงชิงหยินให้ได้

“ตำหนักกั๋วกงไม่ปล่อยไว้แน่” ตงเอ๋อรู้สึกไม่ยุติธรรมแทนหยุนจวิ้นจู่

กงชิงหยินเดินไปฝั่งหนึ่งแล้วนั่งลง ไม่มีความโกรธในดวงตา เพียงแค่ถามขึ้น: “ตอนเกิดเรื่องเจ้าทำอันใดอยู่ที่หน้าประตู?”

“ข้าน้อยออกไปตักน้ำ ถูกคนวางยาสลบไป ตื่นขึ้นมาก็อยู่ที่หน้าประตูเพคะ” ตงเอ๋อพูดอยู่ก็ร้องไห้ออกมา

อันหลิงหยุนเหลือบมองกงชิงหยิน พูดแทรกถามตงเอ๋อ: “อย่างนั้นในวังเกิดเรื่องอันใดขึ้นเจ้าไม่รู้เลยหรือ?”

“ข้าน้อยจำไม่ได้ว่าเกิดอันใดขึ้น แต่จวิ้นจู่ไม่มีทางทำเรื่องเช่นนั้นเด็ดขาดเพคะ ทำไมต้องเป็นตอนที่องค์หญิงใหญ่ของต้าจงเจิ้งย่วนมา จะบังเอิญขนาดนั้นได้กระไรเพคะ?” ตงเอ๋อตะโกนดัง เลือดในปากไหลออกมา ร้องไห้อย่างกังวล

“พระชายาเสียน ข้าน้อยได้โปรดช่วยจวิ้นจู่ของข้าน้อยด้วย จวิ้นจู่ของข้าน้อยจิตใจสูงส่งมาโดยตลอด เป็นคนบริสุทธิ์ทั้งกายและใจ

แม้ว่าเหล่าหญิงสาวในตำหนักกั๋วกงหาสามีได้ยาก แต่ตั้งแต่เด็กจวิ้นจู่ก็แตกจากเจ้านายคนอื่นๆ คนที่ชอบนางก็ยังคงมีอยู่เช่นกัน

แม้ว่าคนที่เสนอขอสมรสด้วยจะไม่ผ่านเกณฑ์ แต่ก็มีอยู่เสมอ แต่หากนางมีความคิดเช่นนั้น ทำไมนางต้องยอมตกลงเรื่องสมรสกับทางจวนอ๋องตวน

จวิ้นจู่จิตใจสูงส่ง เดิมนางไม่เต็มใสมรสเข้าจวนอ๋องต้วน เพราะราชครูจุนและฮั๋วไท่เฟยพูดทุกวิถีทาง จึงยอมตกลงเรื่องสมรส

มิฉะนั้น จวิ้นจู่ของพวกเรา จะยอมเป็นพระชายาลองของอ๋องต้วนได้กระไรเพคะ?”

ตงเอ๋อพูดไปพร้อมกับร้องไห้ อันหลิงหยุนก็ทำอันใดไม่ถูก

เรื่องบางเรื่อง แม้ว่านางอยากช่วยเหลือ แต่ก็มิอาจช่วยได้

นางมองกงชิงวี่ กงชิงวี่ถาม: “แล้วหลังจากนี้ล่ะ?”

“……” ตงเอ๋อสูดน้ำมูก: “จากนั้นตอนที่ข้าน้อยตื่นขึ้นมาก็เหมือนกับเป็นความฝัน ข้าน้อยไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้น ร่างกายอ่อนแรงเล็กน้อย คนเหล่านั้นผลักข้าน้อยออก องค์หญิงใหญ่ก็มาเมื่อ เข้าไปในประตูก็เห็นคนรับใช้ถือกางเกงแล้ววิ่งจากห้องของจวิ้นจู่ของข้าน้อย ถูกจับเอาไว้แล้วเพคะ”

จวิ้นจู่ก็เดินออกจากห้องนอนด้วยเสื้อผ้าไม่เป็นระเบียบอย่างมึนๆ งงๆ องค์หญิงใหญ่โกรธ ตบหน้าจวิ้นจู่ แล้วให้คนนำตัวจวิ้นจู่ไปเพคะ”

“แล้วทำไมเจ้าเป็นเช่นนี้?” อันหลิงหยุนไม่เข้าใจ ในเมื่อไม่ได้มีเรื่องอันใด ทำไมนางจึงโดนทำร้ายจนเป็นเช่นนี้?

“ข้าน้อยผลักองค์หญิงใหญ่เพคะ โต้เถียงกับนาง นางจึงให้คนตีเพคะ”

ตงเอ๋อร้องไห้ เสียใจอย่างมาก

ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับอันหลิงหยุนที่จะเข้าใจ ในเมื่อผลักองค์หญิงใหญ่ ถ้าอย่างนั้นมันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะให้อภัย ไม่ตีให้ตายก็ถือว่าเมตตามากแล้ว

แต่พูดถึงองค์หญิงใหญ่ผู้นี้ อันหลิงหยุนรู้สึกค่อนข้างแปลกหน้า ในความทรงจำของร่างเดิมก็ไม่เคยมี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน