ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 163

บทที่ 163 สาวใช้ชุนหง

เดิมทีอันหลิงหยุนต้องการผลักไส แต่เมื่อเห็นแววตาที่คาดหวังของหวางฮองไทเฮา คิดว่าช่างมันเถิด พระชายารองหยุนก็น่ารักมาก ถ้านางไปสืบ ก็สามารถจัดการได้อย่างเป็นกลาง

อันหลิงหยุนคุกเข่าลงเพื่อรับคำสั่งทันที

ออกจากพระตำหนักเฉาเฟิ่ง อันหลิงหยุนอกจากวังพร้อมกับกงชิงวี่

ขึ้นไปบนรถม้าแม่ทัพอันเรียกเอาไว้

“หยุนหยุน เจ้าจะต้องระมัดระวัง เรื่องนี้เป็นเรื่องชื่อเสียงของตำหนักกั๋วกง พ่อหวังว่าเจ้าจะจัดการกับมันได้อย่างเป็นกลาง”

“ท่านพ่อ ท่านมีบางอย่างจะพูดสินะ?” อันหลิงหยุนไม่รู้สึกว่า พ่อของนางจะเป็นคนที่ไม่เที่ยงตรงเป็นธรรม

แม่ทัพอันมองไปรอบๆ ก้มหน้ากล่าวข้างหูอันหลิงหยุนเสียงเบา: “องค์หญิงใหญ่เป็นคนดี เพียงแค่ไม่ชอบผู้หญิงที่ไม่ปฏิบัติตามหลักคุณธรรมของสตรีเป็นที่สุด แต่ถ้าต้องเผชิญกับองค์หญิงใหญ่ ต้องมีเหตุผลไม่วกไปวกมา”

อันหลิงหยุนมองไป: “ท่านพ่อ ท่านเป็นมิตรกับโอหญิงใหญ่หรือ?”

“พ่อไม่ได้ถึงกับเป็นมิตร แต่ก็รู้จัก” แม่ทัพอันไม่ได้พูดอันใดต่อ อันหลิงหยุนกลับรู้สึกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างองค์หญิงกับท่านพ่อแตกต่างออกไป

“ท่านพ่อ สบายใจได้ ข้ารู้แล้ว” อันหลิงหยุนและแม่ทัพอันพูดคุยกันเสร็จ ขึ้นรถม้า แล้วจากไป

อันหลิงหยุนรู้สึกหนักใจเอนกายอยู่บนรถม้า จากนั้นถามกงชิงวี่ว่า: “ท่านอ๋องคิดว่าจะทำกระไรเพคะ?”

“ข้าก็ไม่มีวิธี แต่เรื่องนี้ จัดการได้ดีก็ไม่ใช่เรื่องดี ทำให้ผู้คนขุ่นเคืองใจไปทั่ว ถ้าไม่จัดการให้ดีจะเสียตำแหน่งพระชายาของพระชายาเอง” กงชิงวี่จงใจทำให้อันหลิงหยุนกลัว อันหลิงหยุนใบหน้าหนักอกหนักใจ

“ท่านอ่อง หรือว่าท่านอยากหย่ากับข้ามานานแล้ว จากนั้นหาพระชายาอีกคน?” อันหลิงหยุนพูดติดตลก

กงชิงวี่มองไปที่นาง: “หากข้ามีความคิดเช่นนั้น พระชายาคงต้องกลับบ้านนานแล้ว”

“นั่นก็ไม่แน่ ก่อนหน้านี้ท่านอ๋อง……”

“อดีตก็คืออดีต นั้นเพราะข้าหน้ามืดตามัวชั่วขณะ พระชายาก็อย่าพูดถึงอีกเลย เพื่อไม่ให้อารมณ์โกรธทำร้ายสุขภาพ สุขภาพสำคัญ” กงชิงวี่ดึงอันหลิงหยุนเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและตบเบาๆ พร้อมกับหัวเราะ

อันหลิงหยุนเงยหน้ามองกงชิงวี่: “หัวเราะอันใด?”

“พระชายาตวนแน่วแน่ต้องการช่วยปูทางอ๋องตวนได้ตำแหน่งฮ่องเต้ แต่ตำแหน่งฮ่องเต้นั้นดีกระไร?”

“อย่างน้อยก็ไม่ต้องคุกเข่าให้ผู้ใด” อันหลิงหยุนก็คิดเช่นนั้น

จะว่าไปต่อให้มีอำนาจในมือ ก็ไม่เพียงพอ

แม้แต่ฮ่องเต้ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าใครก็ได้ก็ตามที่ต้องการ

กงชิงวี่กลับตลก: “อย่างนั้นพระชายาไปสิ จะว่าไปพระชายาเองสงสัยเรื่องการคุกเข่าอยู่ตลอดเวลาไม่ใช่หรือ?”

“ก็มีความไม่เต็มใจเช่นกัน กระไรก็ตามในที่ของพวกเรา ไม่มีทางคุกเข่าโดยที่ไม่มีอันใด แม้แต่ผู้ปกครองสูงสุดของประเทศ อย่างฮ่องเต้ ก็ไม่ต้องการให้พวกเราคุกเข่า สิทธิมนุษยชนคือการเคารพซึ่งกันและกัน และดูเหมือนพวกเรา หัวเข่าเป็นจุดที่ล้ำค่ามาก ใช่ว่าไม่สามารถคุกเข่าได้ ทำได้แค่คุกเข่าให้พ่อกับแม่ อย่างเช่นปู่ย่า อันใดเหล่านั้น ไม่ก็เวลาที่คนที่ไม่ใช่ครอบครัวลาจากโลกไป จึงจะคุกเข่าให้ แต่ที่นี่……”

หม่อมฉันไม่คุ้นเคยจริงๆ แต่ถ้าหม่อมฉันไปอยู่จุดที่สูงนั้นมีคนคุกเข่าให้ หม่อมฉันยิ่งไม่คุ้นเคยเพคะ

กงชิงวี่ตบเบาๆ : “ไม่คุ้นเคยก็ดี ข้าก็ไม่คุ้นเคยเช่นกัน”

อันหลิงหยุนหลับไป ดูเหมือนว่าจะยังหาวิธีไม่ได้ ทำได้เพียงพักผ่อนไปก่อน

กลับไปที่จวนอ๋องเสียนอันหลิงหยุนลงจากรถม้าและไปที่ห้องยาเพื่อวาดกระดาษแผ่นหนึ่งก่อน ส่งให้กับหงเถาและลุ่ยหลิ่ว สั่งงานอธิบายอย่างชัดเจนและดูผู้คนสร้างตกแต่งใหม่ อันหลิงหยุนจึงไปที่จวนอ๋องตวนกับกงชิงวี่

ขณะนี้ที่จวนอ๋องตวนเงียบสงบ มีเพียงอ๋องตวนกำลังรออันหลิงหยุนและกงชิงวี่ที่ประตู

อันหลิงหยุนลงจากรถม้าและเห็นกงชิงหยินด้วยความงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง ดูเขาแต่งตัวด้วยชุดธรรมดา หาได้ยากที่จะไม่สะดุดตา

ลายดอกโบตั๋นสีขาวจันทราเหมือนถูกตัดเย็บขึ้นมาเพื่ออ๋องตวน ไม่เพียงแต่สง่างาม นอกจากนี้ยังมีสัมผัสของการเข้าถึงคนอีกด้วย

เมื่อเทียบกับความเย่อหยิ่งในยามปกติ อ๋องตวนในวันนี้เสงี่ยมเจียมตัวขึ้นมาก

อันหลิงหยุนเดินตามกงชิงวี่ไปตรงหน้ากงชิงหยิน อันหลิงหยุนถอนสายบัว: “อ๋องตวน”

กงชิงหยินมุ่งเน้นไปที่อันหลิงหยุน น้ำเสียงเย็นชา: “ข้าไม่รู้ว่าควรจะริษยาอ๋องเสียนดีหรือไม่ หรือควรอิจฉาอ๋องเสียน มีตัวช่วยที่ชาญฉลาดเช่นเจ้า”

“……”

อันหลิงหยุนเลิกคิ้ว นี่คือคำด่า หรือชื่นชมแน่?

“ท่านพี่สองถ่อมตนเเสวยไป จริงๆ แล้วผู้หญิงทุกคนก็เหมือนกัน บ้านผู้ใดบ้างที่ไม่มีเรื่องเดือดร้อน แต่ท่านพี่สองสามารถป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นได้ แต่มักจะปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น จึงกลายเป็นเช่นนี้ในวันนี้”

กงชิงวี่ติเตียนอย่างไม่เกรงใจ กงชิงหยินหันเข้าไปในจวนอ๋องเสียน: “ยืนคุยไม่เมื่อยหรือกระไร น้องสาม หากเจ้ายังเป็นเช่นนี้ รอผ่านพ้นเรื่องนี้ไป ข้าก็จะไปหาเสด็จแม่ บอกกับท่านว่า แต่งตั้งอภิเษกพระชายารองให้เจ้า

ช่วงนี้จวิ้นจู่มู่มิงกลับมาแล้ว ข้าว่าเป็นนางเลยดีกว่า

หากมีคนมาคุยเรื่องแต่งงาน ข้าไม่เชื่อหรอกว่า เสด็จแม่จะไม่หวั่นไหว”

กงชิงวี่ถอนหายใจอย่างเย็นชา: “หากท่านพี่สองพูดเช่นนี้ ข้าก็จะไม่เกรงใจ รอจบเรื่องนี้ ข้าก็จะบอกกับเสด็จแม่ หยุนหยุนของข้าตั้งครรภ์แล้ว แต่ท่านพี่สองยังไม่มีข่าวดี เสด็จแม่เป็นกังวล ก็จะชี้จวิ้นจู่มู่มิงท่านพี่สอง”

“อย่างนั้นก็คงต้องตั้งครรภ์ขึ้นมาจริง ข้าดูนางอ้วนขนาดนั้น เกรงว่าจะยาก!”

“ไม่เคยได้ยินว่าอ้วนแล้วจะตั้งครรภ์ไม่ได้ ท่านพี่สองอิจฉาข้าสินะ!”

อันหลิงหยุนรู้สึกหนักอกหนักใจ ทั้งสองกำลังมีปัญหากับใคร ดูเหมือนจะเกิดการต่อสู้ยังกระไรอย่างอย่างนั้น

อันหลิงหยุนไม่มีเวลาเอื่อยเฉื่อยอยู่กับพวกเขา จึงไปที่ตำหนักเซี่ยวเฟิงก่อน

เข้าไปให้อาหยู่ดูตงเอ๋อเอาไว้ นอกจากนี้ยังมีคนอื่นๆ หนึ่งในสองคนนั้นคือแม่นมของจวนอ๋องจวน อีกคนคือผู้รับผิดชอบดูแลจวนอ๋องตวน อาหยู่ไม่ได้จากไปไหนเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน