ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 218

บทที่ 218 กลัวจนตัวสั่น

คนข้างๆได้เอาแท่นบีบนิ้วมา อันหลิงหยุนรู้สึกเวียนหัว แค่เห็นของชิ้นนี้ไปอยู่บนมือของพระชายาอ๋องชินเฉิง มิกล้ามองไปแวบหนึ่ง บวกกับเสียงร้องของพระชายาอ๋องชินเฉิง ทำให้อันหลิงหยุนรู้สึกมิสบายไปทั้งตัว แก้วหูราวกับจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

จนสุดท้ายพระชายาอ๋องชินเฉิงก็เจ็บจนสลบไป

มีคนขึ้นมาลากพระชายาอ๋องชินเฉิงลงไป อันหลิงหยุนถือว่าได้เห็นความร้ายกาจขององค์หญิงใหญ่แล้ว

อีกหน่อยนางเองก็ต้องระวังตัวให้ดี

ถึงว่ามีแต่คนกลัวองค์หญิงใหญ่ นี่มันราวกับเป็นปีศาจสาว

อันหลิงหยุนนั่งมิไหวแล้ว ลุกขึ้นมาขอตัวก่อน

“ท่านป้า หม่อมฉันยังมีเรื่องที่ต้องกลับไปจัดการที่วังสักครู๋”

“ไปเถอะ”

องค์หญิงใหญ่ก็มิได้ทำให้อันหลิงหยุนลำบากใจอันใด อันหลิงหยุนพอได้ยินคำพูดขององค์หญิงใหญ่ก็ขนลุกไปทั้งตัว แต่นางก็มิกล้าอยู่ต่อ

อันหลิงหยุนจับชายกระโปรงแล้วเดินออกไปทางประตู หลังออกจากประตูก็รีบเดินทันที ถ้าเกิดนางมิได้ตั้งครรภ์ นางก็คงจะวิ่งกลับไป

ไล่ตามเจ้ารึ?”

อันหลิงหยุนกลับมาถึงห้องพักของกงชิงวี่ รีบกลับไปหากงชิงวี่ กงชิงวี่เห็นนางเข้ามาทางประตูด้วยความรีบร้อน จึงลุกขึ้นมานั่ง ยิ้มแล้วพูดว่า “ใครไล่ตามเจ้ากัน?”

อันหลิงหยุนรีบเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของกงชิงวี่ กลัวจนตัวสั่นไปทั้งตัว ทำให้กงชิงวี่ตกใจไปครู่หนึ่ง รีบกอดคนที่อยู่ในอ้อมกอดด้วยท่าทางที่สั่นกลัว

“นี่มันเกิดอันใดขึ้น?ใครรังแกเจ้ากัน?”

จู่ๆอันหลิงหยุนก็ร้องไห้ขึ้นมา ร้องไห้ราวกับเด็กน้อย กงชิงวี่รู้สึกร้อนรน ดันอันหลิงหยุนออกมาเพื่อดูใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาของนาง ค่อนข้างที่จะมิสบายใจแล้วก็ยิ่งปวดใจอีกด้วย “ใครรังแกเจ้ากันแน่?”

ยากมากที่จะเป็นอันหลิงหยุนทำตัวราวกับเด็กน้อยที่หายใจสะอื้น “ท่านป้าน่ากลัวเหลือเเสวย!”

พออันหลิงหยุนพูดแบบนี้ กงชิงวี่ยืนอึ้งไปครู่หนึ่ง ผ่านไปครึ่งวันกว่าจะมีปฏิกิริยา

“ฮ่า......”จู่ๆกงชิงวี่ก็หัวเราะขึ้นมา อันหลิงหยุนร้องไห้น่าสงสารหนักกว่าเดิม

“เจ้ายังหัวเราะอีก?”

กงชิงวี่จับใบหน้าของอันหลิงหยุนเอาไว้ แล้วจูบเข้าไป อันหลิงหยุนหายใจสะอื้น แล้วอ้อมกอดกงชิงวี่

ตอนนางทำสงครามเคยเจอศพทุกรูปแบบ หัวสมองขาดกระจุยนางก็เคยเห็นมาแล้ว แต่ก็มิเป็นเหมือนกับตอนนี้ มันดูสยองเหลือเเสวย

นรกบนดินมันเป็นแบบนี้นี่เอง

กงชิงวี่กอดอันหลิงหยุนแล้วตบหลังเบาๆ “นี่สิถึงจะเหมือนกับผู้หญิง ปกติต้องกลัวอันใดสักบ้าง ข้าถึงจะปกป้องเจ้าได้ มิอย่างนั้นข้าก็คงมิมีโอกาส”

อันหลิงหยุนร้องไห้ไปครู่หนึ่ง แล้วก็ทุบกงชิงวี่ไปมิกี่ที

กงชิงวี่มิได้รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด กอดอันหลิงหยุนแล้วก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “เมื่อก่อนท่านปู่มีลูกมากมายขนาดนั้น แต่มีเพียงแค่ท่านป้ากับเสด็จพ่อ แล้วก็เสด็จน้าสามคนที่มีแม่คนเดียวกัน และแม่ของพวกอ๋องล้วนเป็นคนที่ค่อยสนับสนุนอยู๋เบื้องหลัง

ท่านปู่ต้องลำบากขนาดไหนถึงจะหาผู้สืบทอดตำแหน่งฮ่องเต้ได้กันน่ะ

เสด็จพอ่มิใช่คนที่เลือดเย็นแบบนั้น มิอย่างนั้นคงสังหารพวกเขาจนหมดแล้ว

เสด็จน้าเป็นคนอ่อนโยน ถ้าเกิดท่านป้ามิมีความโหดร้ายเลือดเย็นสักหน่อย เสด็จพ่อก็คงมิสามารถนั่งอยู่ในตำแหน่งฮ่องเต้ได้นานขนาดนี้?”

อันหลิงหยุนออกห่างจากกงชิงวี่ด้วยความสงสัย “ถึงว่า ท่านป้าถึงได้สนับสนุนฮ่องเต้องค์ก่อน?”

“มิใช่ท่านป้าที่ค่อยสนับสนุนฮ่องเต้องค์ก่อน แต่ท่านป้ามีอำนาจเป็นของตัวนางเอง ท่านป้าเป็นคนที่แข็งแกร่งจนมีชื่อเสียง ทำไมนางต้องแข็งแกร่งน่ะรึ?ถ้าเกิดฮ่องเต้องค์ก่อนมีพี่น้องเยอะกว่านี้ นางก็คงมิต้องแข็งแกร่งแบบนี้?”

ทันใดนั้นอันหลิงหยุนก็เข้าใจได้ในทันที มองกงชิงวี่ “ความจริงพวกเจ้าเป็นคนรักความสงบ เพียงแค่ว่าเส้นทางของการเป็นฮ่องเต้นั้นมีแต่ความอันตราย”

“อันตรายแล้วยังอันใด ข้ามิยอมให้พวกเขาสมหวังหรอก”

“……”

อันหลิงหยุนยังคงรู้สึกกลัวอยู่ กอดกงชิงวี่อย่างแน่นหนา

กงชิงวี่ราวกับกอดเด็กน้อยไว้อยู่ ตบหลังเบาๆรู้แล้วว่านางกลัวจากใจจริง อุ้มนางไปยังข้างใน แล้ววางลงบนเตียง

อันหลิงหยุนปิดตาพักผ่อน มินานก็หลับไป

กงชิงวี่มองไปมองมา พอเห็นอันหลิงหยุนหลับแล้วเขาเองก็นอนพักผ่อนเช่นกัน

นอนพักสักพัก อันหลิงหยุนก็ตัวสั่น กงชิงวี่กอดอย่างแน่นหนาแล้วก็ตบหลังเบาๆ อันหลิงหยุนหลับสนิท กงชิงวี่เบิกตามองไปยังประตู รู้สึกโมโหขึ้นมายังช่วยมิได้ ท่านป้านี่จริงๆเลย ดูสิทำหลิงหยุนกลัวจนขนาดนี้

อันหลิงหยุนนอนพักสักครู่ พอตื่นมาก็รู้สึกดีขึ้นเยอะ

นึกถึงเรื่องที่กงชิงวี่ทำร้ายคนที่วังเฟิ่งหยี เอามาเทียบกันมิได้จริงๆ

ตอนนั้นรู้สึกว่ามันค่อนข้างจะโหดร้าย แต่พอถึงตอนนี้กลับรู้สึกว่ากงชิงวี่ใจดีกว่ามาก

ตอนบ่ายอันหลิงหยุนมิได้ออกไปไหน นอนพักอยู่ในห้องทั้งวัน นางรู้สึกว่าถ้าเกิดมิออกไปก็จะมิมีเรื่องเกิดขึ้น ขอแค่มิออกไป ปัญหาทุกอย่างก็จะสามารถแก้ไขได้

กงชิงวี่มองออก อันหลิงหยุนกลัวแล้วจริงๆ

“กลัวขนาดนั้นเลยรึ?”

พอเห็นว่าอันหลิงหยุนมิยอมออกไปไหนกงชิงวี่จึงหยอกนางเล่น

อันหลิงหยุนมิอยากจะสนใจ

กงชิงวี่หัวเราะ “หลิงหยุนมีช่วงเวลาที่หวาดกลัวด้วยอย่างนั้นรึ?”

“พูดบ้าๆ ใครจะมิกลัวล่ะ ถ้าเกิดตีข้าขึ้นมาล่ะ?ก่อนหน้านี้พอข้าเห็นคนพวกนั้นโดนตี ข้าเองก็อยากจะขอร้องแทนพวกเขา แต่ข้าลังเล ยังดีที่ข้าลังเล

โจ่จงเจิ้นเขาเองก็ขอร้องแล้ว นั่นเป็นคนข้างกายของท่านป้า เขายังถูกตีจนเป็นแบบนั้น หนึ่งร้อยทีเลยนะ ถูกลงโทษเฆี่ยนตีจนเนื้อตัวแตกยับ เขาใส่เสื้อสีแดง ข้าเลยดูมิออกว่ามีตรงไหนที่แห้งบ้าง

มิรู้ว่าตอนนี้เขาถูกพาออกไปรึยัง แต่ตอนข้าออกมาเขายังถูกโยนอยู่ข้างๆ เห็นได้ชัดว่า.......ท่านป้ามิกลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น จับใครได้ คนนั้นก็จะถูกตี

ปกติข้าเองก็ถูกตีมาเยอะ ข้ามิอยากโดนตีอีก”

คนพูดมิได้ใส่ใจอันใด คนฟังกลับรู้สึกสนใจ

ใบหน้าที่หล่อเหล่าของกงชิงวี่เกิดความสงสัยขึ้นมา “เจ้าพูดว่าอันใดน่ะ?”

อันหลิงหยุนจึงพูดขึ้นมาว่า “หมอทหารของพวกเจ้า ทำอันใดมิเป็นสักอย่าง ทำได้แค่รักษาคน แต่หมอทหารของพวกเราทำได้ทุกอย่าง ฝ่าห้าด่าน สังหารหกขุนพล ต้องผ่านการรับเลือกเท่านั้น

ถ้าเกิดเป็นหมอทหารธรรมดา อาจจะสามารถพอช่วยเหลือคนได้ แต่พวกเรานั้นมิเหมือนกัน

ข้าเป็นสิ่งที่พิเศษ ก็คือคนที่เก่งกว่าคนทั่วไป แตกต่างจากหน่วยอื่นๆ

พวกเราอย่าว่าแต่หมอทหารเลย แม้แต่คนทำอาหาร ก็สามารถนำทหารไปสู้รบได้ สามารถหนึ่งสู้ร้อยได้ เคยเป็นแม่ทัพมาก่อน

หน่วยของพวกเรามีมิกี่คน มากสุดก็ประมาณแค่สามสิบ

แต่ทุกคนล้วนเป็นคนที่เคยผ่านการคัดเลือกมาแล้ว ก่อนพวกเราจะมา การฝึกฝนของพวกเราใช้โหดหินราวกับปีศาจ

ข้ายืนอยู่ในน้ำเน่าที่สูงประมาณหนึ่งเมตร ซูโมู่หรงเหยียบหัวของข้าลงไป ทำเอาข้าแทบตาย เขาตะโกนใส่ข้าด้วยความโกรธ บอกให้ข้าอย่าลุกขึ้นมา ถ้าขึ้นมาจะไล่ข้าออกไป

ตอนเขาตีข้า ตีอย่างเอาเป็นเอาตาย

ตอนข้ามีประจำเดือนเขาก็โยนข้าไปอยู่ในหลุมน้ำแข็ง แทบจะแข็งตาย......”

อันหลิงหยุนพอนึกถึงภาพในช่วงเวลานั้น จู่ๆนางก็รู้สึกว่านางได้เปลี่ยนไปแล้ว ช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้นสำหรับนางแล้วมิได้ยากเย็นขนาดนั้น นางเองก็มิได้กลัว

ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ กลัวจนตัวสั่นไปหมด!

อันหลิงหยุนพยายามสงบสติอารมณ์ ท่านป้ามิมีทางตีนางหรอก จะกลัวอันใด?

กงชิงวี่ถาม “ซูโมู่หรงทำแบบนั้นกับเจ้าอย่างนั้นรึ?”

อันหลิงหยุนเงยหน้าขึ้นมา “เขาเป็นครูฝึก ที่ทำแบบนั้นกับข้าก็มีเหตุผลอยู่ เมื่อออกไปชีวิตก็เหมือนกับเส้นด้าย มีใบมีดจอดอยู่ตรงคอตลอด ถ้ามิเก่งจริง ออกไปก็มีแต่จะตายเปล่า

ต่อให้ต้องตายในเงื้อนมือของพวกตัวเอง ก็ยังดีกว่าไปตายในเงื้อนมือของศัตรู

นี่เป็นหลักการของพวกเรา และก็เป็นเส้นก้านของพวกเรา!”

อันหลิงหยุนคิดถึงช่วงเวลานั้นของตัวเองมาก อย่างน้อยก็ยังกล้าเผชิญหน้า ตอนนี้เป็นอันใด กลายเป็นคนขี้ขลาด กลัวแทบเป็นแทบตาย!

กงชิงวี่มีใบหน้าที่เย็นชา “ถ้าเกิดข้าเจอเขา จะม่ปล่อยเขาไว้แน่”

อันหลิงหยุนยิ้ม “เขาเป็น......”

พูดมิถึงสามคำอันหลิงหยุนก็พูดมิออก เมื่อนึกถึงมีดทหารอันหลิงหยุนก็ขมวดคิ้วขึ้นมา

ว่ากันตามจริงมีดทหารคงมามิได้ แต่ถ้าเกิดมีดทหารมา ก็คงจะหมายความว่า ซูโมู่หรงเองก็มาด้วย?

รึจะบอกว่า คนตายแล้วก็ควรจะไปยังสถานที่หนึ่ง ส่วนนางกลับมาที่นี่ ซูโมู่หรงเองก็อาจจะมาที่นี่ก็ได้?

“เป็นอันใด?”

อันหลิงหยุนส่ายหัว กงชิงวี่รู้สึกมิพอใจ “คิดถึงเขาแล้วใช่ไหม?”

“ท่านอ๋อง เก็บความหึงห่วงไว้หน่อยได้ไหม?เจ้าเป็นถึงท่านอ๋อง เขาเป็นแค่ทหาร เจ้าจะใส่ใจทำไม?”

“เขาเป็นแม่ทัพ เขายังสามารถคุมเจ้าได้ แต่ข้ากลับคุมเจ้าไว้มิอยู่?”

“จะตะโกนทำไม?”

“เฮิง!”

กงชิงวี่รู้สึกมิพอใจนิดหน่อย ลุกออกมาจากเตียงแล้วไปหาอันหลิงหยุน โอบกอดนางเอาไว้ อันหลิงหยุนอยากจะปฏิเสธ แต่ก็ยังคงกอดกงชิงวี่กลับไป

วางอันหลิงหยุนไว้บนเตียง มือของกงชิงวี่ขยับ มือเริ่มหยุดมิเป็นสุข อันหลิงหยุนใช้มือปิดเอาไว้ แต่ก็ถูกกงชิงวี่จับไว้แล้ว

คิดจะห้ามอีกครั้ง แต่ก็มิทันการแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน