ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 272

บทที่ 272 เข้าใจแม่ทัพอันแล้ว

อันหลิงหยุนรู้สึกตะลึง เหมือนมีตาข่ายผืนใหญ่มาคลุมเอาไว้ทั่วทั้งพื้นที่ อีกทั้งตาข่ายที่เห็นอยู่ตรงหน้าก็ดูเหมือนจะผูกมัดคนเอาไว้อยู่ พวกเขาเหล่านี้ วางแผนไว้อย่างเป็นขั้นเป็นตอนเรียบร้อยแล้ว

“ต้องเป็นอ๋องตวนอย่างแน่นอน ประการแรก จวนอ๋องตวนมีตระกูลจุนและตำหนักกั๋วกงสนับสนุนอยู่ ประการที่สอง ยังมีตระกูลฮั๋ว เมื่อทั้งสามตระกูลรวมกัน ครอบคลุมทั้งฝ่ายพลเรือนและทหาร มีกองกำลังทหารอยู่ในมือจำนวนมาก ขุนนางในราชสำนักไม่ใช่คนโง่ ฮ่องเต้องค์ก่อนๆเรียงลำดับตามความอาวุโส ต่อให้เป็นทางเลือกสุดท้าย ก็ไม่มีทางเป็นข้า”

“แต่ว่าท่านอ๋องเองก็ไม่ได้ทรงต้องการตำแหน่งฮ่องเต้ เช่นนั้นเรื่องนี้ก็ไม่จำเป็นจะต้องสนใจ”

“แต่มันไม่เป็นเช่นนี้ พวกเขาเองก็รอดูข้าและอ๋องตวนต่อสู้กันเอง ดังนั้นข้าจึงตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าไม่มีทางไม่ต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งฮ่องเต้เป็นอันขาด หากว่าทุกอย่างดำเนินไปถึงขั้นนั้นจริงๆ ข้าจะขอเสนอตวนอ๋องให้เป็นองค์รัชทายาท

ข้าจะต้องกำจัดอุปสรรคออกไปให้หมด ให้พวกเขารู้ว่า พวกคนเลวที่คิดจะเข้ามาทำลายราชวงศ์ของข้า จะต้องพบกับจุดจบเช่นไร

หยุนหยุน เจ้าคงคิดว่าโหดเหี้ยม

แต่เจ้าเองก็เคยมีประสบการณ์ ในวังภายในวันเดียวมีองค์ชายสวรรคตถึงสามพระองค์ องค์หญิงอีกหนึ่งพระองค์ พวกเขาเองก็ไม่ได้โตกว่าข้าเท่าไหร่นัก หนึ่งในนั้นมีพี่สาวคนหนึ่ง ที่ชอบพาข้าไปเล่นด้วยอยู่บ่อยๆ ข้ายังคงจำได้รางๆ นางเป็นคนน่ารัก ใบหน้ากลมๆดูจิตใจดี แต่เป็นเพราะยืนอยู่ข้างบ่อน้ำ จึงตกน้ำตาย

ตอนที่พานางขึ้นมาก็ไม่หายใจแล้ว พระมารดาของนางเป็นบ้าอยู่ทั้งคืน กระแทกกับก้อนหินก้อนใหญ่จนตายอย่างกะทันหัน นั่นมันเป็นความเกลียดชังแบบไหนกัน!”

อันหลิงหยุนรู้สึกตกใจ: “ภายในวันเดียวมีเด็กตายถึงสามคนเลยหรือ?”

“อืม สี่คน” ตาทั้งสองข้างของกงชิงวี่ เต็มเปี่ยมไปด้วยประกายของความโกรธแค้น ฮ่องเต้องค์ก่อนทรงใจไม่แข็งพอที่จะเข่นฆ่าพี่น้อง ไม่ใช่ว่าไม่สามารถฆ่าอ๋องทั้งแปดท่านได้ แต่เพื่อที่จะเหลือไว้ให้ข้า ข้าจะคิดบัญชีกับพวกเขาทีละคนๆ สิ่งที่ติดค้างอยู่ ช้าเร็วก็ต้องชดใช้ให้แก่ข้า”

“ท่านอ๋อง แล้วเด็กชายเหล่านั้นตายเช่นไร?”

สีหน้าของกงชิงวี่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น: “พวกเขาทั้งสามคนออกไปเล่นว่าวด้วยกัน ว่าวตกลงบนภูเขาจำลอง จึงได้ปีนขึ้นไปแล้วตกลงมาตาย”

“ตายคาที่เลยหรือเพคะ?”

“อืม ตายคาที่” กงชิงวี่พูดอย่างหนักแน่น

อันหลิงหยุนปลีกตัวออกมาแล้วส่ายหัว: “เช่นนั้นไม่ถูกต้อง ตายคาที่นั้นถือว่าแปลกมาก แต่ให้ตกลงมาจากภูเขาจำลองจนตาย แต่อย่างน้อยก็ต้องมีเวลาดิ้นรน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ตกลงมาตายพร้อมกันสามคน”

“เรื่องที่ข้านึกขึ้นได้ในตอนนี้ก็คือเรื่องนี้”

กงชิงวี่กัดฟัน: “ข้าจะฆ่าพวกเขา ให้เลือดต้องถูกชดใช้ด้วยเลือดของพวกเขา”

อันหลิงหยุนหันหลังกลับ: “ท่านอ๋อง ในนั้นมีพี่น้องร่วมมารดากับท่านรวมอยู่ด้วยหรือไม่?”

“เสด็จพี่ของข้าคือหนึ่งในนั้น เขาอายุมากว่าข้าสองสามปี แต่เมื่อเกิดมาถูกฮ่องเต้พระราชทานให้แก่กุ้ยเฟย เดิมทีกุ้ยเฟยท่านนั้นเคยช่วยเสด็จแม่เอาไว้ เสด็จแม่เห็นว่านางน่าสงสาร ดังนั้นจึงตัดสินใจให้นางช่วยอยู่ดูแล ฮ่องเต้องค์ก่อนเองก็ทรงเห็นด้วย เสด็จพี่เองก็ทรงรู้ว่าเราเป็นพี่น้องร่วมสายเลือด จึงดีต่อข้ามาก

วันนั้นเสด็จพี่ก็นักข้าไปด้วย เป็นเพราะข้าขี้เกียจท่องหนังสือ จึงถูกราชครูจุนลงโทษ จึงไม่ได้ไป สุดท้ายตอนที่ข้าไปถึง ก็เห็นที่ด้านล่างของภูเขาจำลองในสวนดอกไม้ด้านหลัง มีเสด็จพี่ตกลงมาตายสามพระองค์ ตอนนั้นข้ายังเด็ก ยังไม่มีแม้กระทั่งบรรดาศักดิ์ ยังเด็กเป็นอายุเพียงห้าหกขวบ พวกเขาอายุสิบกว่าปี ก็ต้องตกลงมาตายแบบนั้น ขอถามหน่อยว่า ข้าจะลืมได้อย่างไร?”

อันหลิงหยุนเห็นกงชิงวี่สะเทือนใจ จึงได้โอบกอดร่างกายของกงชิงวี่ไว้: “ท่านอ๋อง”

“ข้าเกลียดพวกเขา!” กงชิงวี่พูดด้วยน้ำเสียงโกรธแค้น

อันหลิงหยุนพูดว่า: “เพื่อลูกของเรา พวกเขาจะต้องชดใช้”

เมื่อรู้ว่าเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว อันหลิงหยุนก็ไม่พูดอะไรให้มากความอีก แต่เปลี่ยนเป็นเตรียมรับมือกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปแทน

ในวังไม่มีเรื่อง นางก็ไม่จำเป็นต้องเข้าวังอีก อันหลิงหยุนจึงกลับไปที่บ้านของตนเอง ตั้งใจที่จะกลับไปดูว่าในห้องเก็บยามีสมุนไพรตัวใหม่ๆบ้างหรือไม่ หากมีก็จะนำมาใช้ หากไม่มีก็ถือเสียว่าไปอยู่เป็นเพื่อนท่านพ่อของนาง

แม่ทัพอันกำลังอยู่ที่บ้านด้วยความเบื่อหน่าย เพื่อเรื่องท้องของอันหลิงหยุน

ถึงแม้จะแสดงความยินดีได้ แต่เขาเป็นผู้ชาย คงยากที่จะดูแลนางในช่วงอยู่เดือน ช่วงนี้จึงได้เลือกแม่นมไว้สิบกว่าคน แต่ก็ยังไม่มีใครถูกใจสักคน

ตอนที่อันหลิงหยุนกลับไปถึง เห็นแม่ทัพอันกำลังมอบห้าเหรียญเงินให้แก่แม่นมทุกคน แล้วส่งกลับไป

อันหลิงหยุนยืนดูอยู่อีกด้านหนึ่งด้วยความแปลกใจ นี่เขาทำอะไรกัน?

หงเถาเองก็รู้สึกแปลกใจ: “นี่เขาทำอะไรกัน?”

พ่อบ้านรีบเดินเข้าไปข้างๆอันหลิงหยุนเพื่ออธิบาย: “อย่างนี้ถูกแล้วมิใช่หรือ? แม่ทัพได้ยินว่าคุณหนูตั้งครรภ์ ช่วงนี้จึงหาคนที่จะมาดูแลคุณหนู เป็นแม่นมที่มีความแคล่วคล่องว่องไวอย่างไรเล่า”

อันหลิงหยุนเกือบจะหัวเราะออกมา: “ท่านพ่อ เดือนนี้ท่านเองก็ไม่ได้เหรียญเงินสักเท่าไหร่ ให้พวกนางไปหมดแล้วท่านจะใช้อะไร ค่าใช้จ่ายของจวนแม่ทัพก็มาก และไม่เคยได้ยินว่าท่านทำกิจการอย่างอื่นข้างนอกนะ?”

เมื่ออันหลิงหยุนพูดจบ หงเถาก็รีบเดินขึ้นไปพูดทันทีว่า: “จริงด้วย”

แม่ทัพอันไม่พอใจนัก: “ใครใช้ให้สาวใช้เช่นเจ้าพูดกัน หุบปากไปเลย ข้าจะพูดกับหยุนหยุน”

หงเถาถอยกลับมา อันหลิงหยุนนั่งลงแล้วถาม: “ท่านพ่อ ทำไมจึงต้องหาคนมาดูแลข้าด้วย?”

“ไม่มีเหตุผลอะไร ได้ยินมาว่าฮั๋วไท่เฟยเกณฑ์คนเพื่อไปดูแลพระชายารองหยุนแล้ว ตำหนักกั๋วกงเองก็มีคนในครอบครัวที่เป็นผู้หญิงอยู่มากมาย หยุนหยุงเองก็ตั้งครรภ์อยู่ ก็ไม่เห็นว่าฮองไทเฮาจะทรงพระราชทานแม่นมให้ แม่ของเจ้าก็มาด่วนจากไป ไม่สามารถดูแลเจ้าได้

พ่อเองเห็นว่าข้างกายเจ้าไม่มีแม่นมสักคนหนึ่ง ไม่สู้เชิญมาให้เจ้าสักคน” แม่ทัพอันอยากที่จะช่วยลูกสาวจริงๆ

หากเป็นคนธรรมดา ก็จะมีคนในครอบครัวของมารดา พระชายารองหยุนมี แต่ในบ้านของเขานั้นมีผู้หญิงอยู่น้อย ส่วนใหญ่เป็นชายฉกรรจ์ทั้งสิ้น เขาจึงจำเป็นต้องเชิญมา

อันหลิงหยุนรู้สึกซาบซึ้งใจมาก: “ท่านพ่อ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงข้า คนที่อยู่ข้างกายข้าไม่ได้ด้อยไปกว่าแม่นมที่มาจากด้านนอก แทนที่จะเชิญคนที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้ามา ไม่สู้ให้คนที่อยู่ข้างกายมาคอยเอาใจใส่ หากไม่มีคนที่ดูแลเอาใจท่านด้วยความจงรักภักดีจริงๆ ต่อให้ท่านพ่อเชิญมาอีกสักกี่ร้อยคน ก็ถือว่าเปล่าประโยชน์”

แม่ทัพอันคิดตามสิ่งที่ลูกสาวพูดอย่างละเอียดสักครู่ ถือว่าพูดได้ค่อนข้างมีเหตุผล ดังนั้นแม่ทัพอันจึงพยักหน้า

“หยุนหยุน ถ้าเจ้าไม่ต้องการคนดูแล แล้วเวลาอยู่เดือนจะทำอย่างไร?” เขาเองก็เข้าไปไม่ได้

อันหลิงหยุนรู้สึกขำ: วางใจเถอะ เรื่องของคนจะต้องจัดการได้อย่างเรียบร้อยแน่นอน ท่านพ่อไม่ต้องกังวลแล้ว ลูกกลับมาเพื่อที่จะมาดูสมุนไพร ถ้าหากไม่มีเรื่องอะไรแล้วก็ขอตัวกลับก่อน แต่หากมีเรื่องอะไรก็จะอยู่เป็นเพื่อนท่านพ่อสักพักก่อน”

แม่ทัพอันรู้สึกแปลกใจ: “จะมีเรื่องอะไรได้?”

“ก็ไม่มีเรื่องใหญ่อะไร ก็แค่ท่านอ๋องทรงถูกปลดออกจากตำแหน่งแล้ว” อันหลิงหยุนพูดเบาๆ พ่อบ้านตะลึง สักพักใหญ่ถึงจะดึงสติกลับมาได้ แล้วจึงก้มหน้าก้มตาอย่างหดหู่ มือทั้งสองข้างกุมไว้ด้วยกัน

ฮ่องเต้อยู่ดีๆทำไมจึงได้ถอดถอน หมดประโยชน์แล้วหรือ?

พ่อบ้านบ่นพึมพำ แต่แม่ทัพอันได้ยินกลับรู้สึกดีใจ: “เช่นนั้นก็ดี ข้าหมายความว่าอยู่บ้านดูแลเจ้า พ่อก็วางใจ ตอนนี้คนในวังเหล่านั้น ต่างมองกันแล้วรู้สึกขวางหูขวางตา พ่อว่าเขาเองก็ไม่ใช่คนเช่นนั้น เสแสร้งไม่เป็น อารมณ์ก็ฉุนเฉียว หากมีเรื่องข้องใจเป็นเพียงเล็กน้อยก็ต้องถามหาความผิดจากคน จริงๆแล้วก็ไม่ใช่วิธีที่ดี

คนในราชสำนักล้วนถูกเขากล่าวโทษ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปจะเป็นอย่างไร ไม่สู้กลับมาดูแลเจ้าที่บ้าน

ร่างกายของเจ้าอ่อนแอก็ไม่ดี หากเขาอยู่ก็ไม่จำเป็นต้องหาแม่นมแล้ว

อันหลิงหยุนรู้สึกแปลกใจ ทำไมครั้งนี้ท่านพ่อของนางจึงเข้าใจอะไรง่ายเช่นนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน